กลยุทธ์ลงทุน ตามโมเมนตัม คืออะไร ใช้ยังไงให้ได้ผล?

กลยุทธ์ลงทุน ตามโมเมนตัม

กลยุทธ์ลงทุน ตามโมเมนตัม หรือ Momentum Investing คือการลงทุนตาม “แรงส่งของราคา” ไม่ว่าจะเป็น หุ้นที่กำลังพุ่งแรง หรือสินทรัพย์ที่อยู่ในเทรนด์ขาขึ้น นักลงทุนจะเลือกเข้าไปเกาะจังหวะ และออกเมื่อแนวโน้มเริ่มหมดแรง ซึ่งในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จัก วิธีใช้งานกลยุทธ์โมเมนตัมแบบเข้าใจง่าย ด้วยการ “อยู่ให้ถูกที่ ถูกเวลา” อย่างมีแบบแผน

  • โมเมนตัมคืออะไร พร้อมหลักจิตวิทยาที่อยู่เบื้องหลัง
  • วิธีคัดกรองหุ้น ด้วยโมเมนตัม
  • ข้อดี – ข้อเสีย ของกลยุทธ์โมเมนตัม
  • ขั้นตอนการสร้างระบบลงทุนโมเมนตัม ด้วยตัวเอง

โมเมนตัมคืออะไร? ทำไมถึงได้รับความนิยมในตลาดหุ้น

กลยุทธ์ “Momentum Investing” คือ การลงทุนตามแนวโน้มของราคาหุ้น หากราคากำลังขึ้น และมีแรงส่ง นักลงทุนจะเข้าซื้อต่อ เพราะเชื่อว่า ราคาจะยังไปได้อีก เมื่อแนวโน้มเริ่มหมด ก็ขายทำกำไร

สิ่งที่ทำให้โมเมนตัมเป็นที่นิยม คือ มันอิงกับพฤติกรรมของตลาดจริง หุ้นที่ “แรง” มักจะได้รับความสนใจต่อเนื่อง และสร้างผลตอบแทนได้ดี ในช่วงสั้นถึงกลาง โดยแนวคิดนี้ ยังสามารถประยุกต์ใช้กับการลงทุนระยะยาว เช่น การ ลงทุนผ่านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ซึ่งช่วยให้พนักงาน มีโอกาสเกาะแนวโน้มสินทรัพย์ ที่เติบโตในระยะยาวได้อย่างมีวินัย

เมื่อเทียบกับกลยุทธ์อื่น

  • Value Investing มองหาหุ้นราคาต่ำกว่ามูลค่า
  • DCA ลงทุนสม่ำเสมอโดยไม่สนใจราคา

ขณะที่โมเมนตัมเน้น “จังหวะ” และ “แรงส่งของราคา” เป็นหลัก

ที่มา: Momentum Investing [1]

หลักจิตวิทยาที่อยู่เบื้องหลังกลยุทธ์โมเมนตัม

กลยุทธ์โมเมนตัม ไม่ได้อาศัยแค่ตัวเลข หรือกราฟเทคนิคเท่านั้น แต่ยังมี “จิตวิทยา” เข้ามาเกี่ยวข้องอย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะพฤติกรรมของนักลงทุน ที่มักจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน เมื่อเห็นราคา ‘ขึ้น’ หรือ ‘ลง’ อย่างรุนแรง

หนึ่งในปรากฏการณ์สำคัญ คือ Herd Behavior หรือการที่นักลงทุน ทำตามฝูงชน โดยไม่วิเคราะห์ข้อมูลด้วยตัวเอง ส่วนใหญ่เกิดจากความกลัวตกขบวน (FOMO – Fear of Missing Out) เมื่อตลาดกำลังวิ่งแรง หรือรีบขายตาม เพราะกลัวขาดทุนในช่วงราคาดิ่ง

อารมณ์มีบทบาทชัดเจน ในช่วงตลาดขาขึ้นและขาลง ในขาขึ้น นักลงทุนมักมองโลกในแง่ดีเกินไป ทำให้เกิดการซื้อเกินพื้นฐาน ส่วนขาลง อารมณ์กลัวจะครอบงำ จนเกิดการเทขาย แบบไม่คิดหน้าคิดหลัง

วิธีคัดกรองหุ้นด้วยโมเมนตัม ดูอะไรบ้างก่อนตัดสินใจลงทุน

การลงทุนตามโมเมนตัม ควรใช้ทั้งเทคนิค และข้อมูลประกอบ ไม่ใช่แค่ตามกระแส

ตัวชี้วัดที่นิยมใช้

  • Moving Average (MA): เส้นค่าเฉลี่ย 50 และ 200 วัน ช่วยดูแนวโน้ม
  • RSI: วัดความแรงของราคา ค่าเกิน 70 อาจยังน่าสนใจถ้าเทรนด์แข็ง
  • MACD: ช่วยดูจุดเข้าออกตามแรงส่งของราคา

อย่าลืมดูพื้นฐาน: หุ้นที่โมเมนตัมแรง และพื้นฐานดี เช่น กำไรเติบโต อุตสาหกรรมขาขึ้น จะมีโอกาสไปได้ไกลกว่า

ข้อดี-ข้อเสียของกลยุทธ์โมเมนตัม

กลยุทธ์โมเมนตัม มีจุดแข็งตรงที่ “เกาะกระแสให้ทัน” โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดเป็นขาขึ้นแรง หุ้นที่กำลังพุ่ง มักยังมีแรงต่อ จากความเชื่อมั่นของนักลงทุน เมื่อแนวโน้มชัด โมเมนตัมมักให้ผลตอบแทนได้ดีในระยะสั้นถึงกลาง

แต่ในตลาดที่ผันผวน หรือเข้าสู่ขาลง กลยุทธ์นี้มักสะดุด เพราะแนวโน้มไม่แน่นอน ราคาผันกลับเร็ว ทำให้เกิดสัญญาณหลอกได้ง่าย ซื้อแล้วอาจต้องรีบขายขาดทุน

ดังนั้น การวาง Stop Loss จึงสำคัญมาก เช่น กำหนดจุดตัดขาดทุนไว้ล่วงหน้า เพื่อจำกัดความเสียหาย และต้องมี Risk Management ชัดเจน เช่น ไม่ทุ่มเงินทั้งหมดกับหุ้นตัวเดียว หรือปรับพอร์ต เมื่อสัญญาณเปลี่ยน

ที่มา: Momentum Investing: It Works, But Why? [2]

ลงทุนตามโมเมนตัมในสินทรัพย์อื่น ไม่ใช่แค่หุ้นเท่านั้น!

การลงทุนตามโมเมนตัม ไม่ได้จำกัดแค่ในหุ้นเท่านั้น สินทรัพย์อื่นอย่าง ทองคำ, คริปโต, กองทุนรวม, หรือ ETF ก็สามารถใช้แนวคิดนี้ได้เช่นกัน ถ้าแนวโน้มชัดเจน และมีแรงส่งต่อเนื่อง

เช่น ช่วงที่ทองคำ เป็นขาขึ้นจากความกังวลเงินเฟ้อ หรือช่วงที่คริปโต ได้รับความสนใจทั่วโลก ราคามักปรับตัวแรงและต่อเนื่อง ซึ่งเข้ากับหลักโมเมนตัมแบบตรงตัว

หนึ่งในแนวทางที่น่าสนใจคือ กลยุทธ์ Cross-Asset Momentum ที่เลือกลงทุน ในสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มแข็งแกร่ง ในแต่ละช่วงเวลา เช่น สลับจากหุ้นไปทอง หรือจากกองทุนหุ้นไปกองทุนตราสารหนี้ เมื่อแนวโน้มเปลี่ยน

ที่มา: Why Momentum Trading Works In Crypto [3]

ขั้นตอนการสร้างระบบลงทุนโมเมนตัมด้วยตัวเอง

กลยุทธ์ลงทุน ตามโมเมนตัม

ใครว่าระบบลงทุนต้องซับซ้อน จริงๆ แล้วนักลงทุนรายย่อย ก็สามารถสร้างระบบลงทุนตามโมเมนตัม ได้ด้วยเครื่องมือพื้นฐาน เพียงมีวินัย และโครงสร้างที่ชัดเจน

เริ่มจากการตั้งเกณฑ์เข้าออก (Entry / Exit) เช่น ซื้อเมื่อราคาอยู่เหนือเส้น MA 50 วัน และ RSI > 60 ขายเมื่อราคาหลุดเส้น MA หรือ RSI เริ่มอ่อนแรง จุดสำคัญคือ กำหนดเงื่อนไขไว้ล่วงหน้า เพื่อเลี่ยงการตัดสินใจด้วยอารมณ์

ใช้ Excel หรือ TradingView มาสร้างระบบเบื้องต้นได้ง่ายๆ ใส่สูตรคำนวณราคาเฉลี่ยหรือ RSI แล้วให้ระบบแจ้งสัญญาณซื้อขายอัตโนมัติ หรือสร้างสคริปต์เล็กๆ บน TradingView ก็ได้

สุดท้าย คือการ Backtest ลองนำระบบไปทดสอบ กับข้อมูลย้อนหลัง เพื่อดูว่าให้ผลลัพธ์ดีแค่ไหน ปรับแต่งตัวแปรตามความเหมาะสม แล้วค่อยนำไปใช้จริง กับเงินที่จำกัดก่อน

สรุปส่งท้าย กลยุทธ์ลงทุน ตามโมเมนตัม คืออะไร?

โดยสรุป กลยุทธ์ลงทุน ตามโมเมนตัม ดูเหมือนเป็นการ “เกาะเทรนด์” แต่หากใช้ให้ถูกวิธี มันคือแนวทางลงทุนที่อิงกับพฤติกรรมตลาดจริง และสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ ในหลายช่วงเวลา โดยเฉพาะเมื่อแนวโน้มชัดเจน ที่สำคัญคือต้องมีระบบ มีวินัย และรู้จักควบคุมความเสี่ยง การตั้งเกณฑ์เข้าออกชัดเจน

กลยุทธ์โมเมนตัมเหมาะกับนักลงทุนระยะสั้น หรือระยะยาวมากกว่ากัน?

กลยุทธ์โมเมนตัม มักเหมาะกับการลงทุนระยะสั้นถึงกลาง เพราะเน้นเกาะแนวโน้ม ในช่วงที่ราคาเคลื่อนไหวแรง หากถือยาวเกินไป อาจเจอช่วงแนวโน้มเปลี่ยน โดยไม่ทันสังเกต อย่างไรก็ตาม ถ้าใช้ควบคู่กับระบบที่มีจุดขายชัดเจน ก็สามารถนำไปประยุกต์ กับระยะยาวได้เช่นกัน

สามารถใช้กลยุทธ์โมเมนตัมในตลาดขาลง ได้หรือไม่?

ได้ ถ้ามองในมุมการเก็งกำไรขาลง เช่น การขายชอร์ต (Short Selling) หรือเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่มักไปดีในภาวะตลาดย่ำแย่ เช่น ทองคำหรือกองทุนผันผวนต่ำ โดยใช้แนวคิดเดียวกันคือ เกาะสินทรัพย์ที่ “กำลังมีแรง” แม้จะเป็นแรงฝั่งลบก็ตาม

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง