วิธี การเล่น กระบี่กระบอง การต่อสู้ ที่เป็นศิลปะไทย

การเล่น กระบี่กระบอง

การเล่น กระบี่กระบอง เป็นกีฬาพื้นบ้านของคนไทย ที่นิยมเล่นกันมาแต่ช้านาน เล่นกันตั้งแต่ชนชั้นสูง และสามัญชน เป็นกิจกรรมพื้นฐานของมนุษย์ ที่พัฒนาขึ้นเพื่อการล่าสัตว์ หรือการต่อสู้ และต่อมาได้กลายเป็นกีฬาแข่งขันในอารยธรรมต่างๆ ก่อนจะเล่นจริง วิธีเล่นนั้น จะมีขั้นตอนก่อนการเริ่มเล่นอยู่ 6 ขั้นตอน หลักๆ และการเล่นจะมีการตัดสินอย่างไร เรามาดูรายละเอียดไปพร้อมๆ กัน

  • กระบวนการเล่น มีอยู่หลักๆ คือ 6 ขั้นตอน
  • เป็นสถาบันที่ก่อตั้งขึ้น เพื่อเผยแพร่และสอน วิชากระบี่กระบอง
  • มีกรรมการตัดสินคะแนน และคิดคะแนนเป็น 4 ส่วน

กระบวนการ การเล่นกีฬา กระบี่กระบอง

กระบี่กระบอง นอกจากจะเป็นกีฬา ที่เล่นกันมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว ยังเป็นวิชาป้องกันตัว ให้กับคนที่ได้เรียนการต่อสู้นี้ ไปใช้ประโยชน์ได้อีก เป็นศิลปะทางการกีฬา ได้รับการรับการ ขึ้นบัญชีมรดกภูมิปัญญา ทางวัฒนธรรมของชาติ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 (30 มีนาคม 2005) [1] กระบวนการเล่น เริ่มจาก การทำความเคารพ หรือการถวายบังคม การขึ้นพรหมยืน การขึ้นพรหมนั่ง การรำเพลงอาวุธ การต่อสู้ การขอขมา

แผนการเล่น 6 ขั้นตอน สำหรับ กระบี่กระบอง

การเล่น กระบี่กระบอง

แผนการเล่น ของกระบี่กระบอง มาจากแบบแผนของ ทางพุทไธสวรรย์ เป็นสำนักฝึกสอนศิลปะ การต่อสู้กระบี่กระบอง มีรูปแบบการเล่น ดังนี้

  1. การถวายบังคม ผู้เล่นจะทำการถวายบังคม 3 ครั้ง ด้วยการนั่งคุกเข่า พนมมือ ยกมือขึ้นไหว้ ก้มศีรษะลง โดยมีความหมายถึง การเคารพต่อหลักธรรม คำสั่งสอนขององค์พระศาสดา ต่อองค์พระประมุขของชาติ ต่อบิดา มารดา ผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาการ และผู้มีพระคุณ
  2. การขึ้นพรหม เป็นการเตรียมความพร้อมจิตใจ และสมาธิก่อนเข้าสู่การต่อสู้ เพื่อให้มีคุณธรรมประจำใจ ระลึกถึงธรรม ของการอยู่ร่วมกันในสังคม คือ พรหมวิหารสี่ เป็นธรรมะที่ขจัดความพาล ไม่นำเอาวิชา กระบี่กระบองไปใช้ในทางที่ผิด ประกอบด้วย การขึ้นพรหมนั่ง และการขึ้นพรหมยืน
    ถ้าฝ่ายหนึ่งขึ้นพรหมนั่ง อีกฝ่ายจะขึ้นพรหมยืน ต้องรำให้ครบ 4 ทิศ
    • การขึ้นพรหมนั่ง: ผู้เล่นจะนั่งรำแต่ละทิศ จนครบ 4 ทิศ จากนั้นจึงลุกขึ้นยืน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับขั้นตอนต่อไป
    • การขึ้นพรหมยืน: ผู้เล่นจะยืนรำแต่ละทิศจน ครบทั้ง 4 ทิศ จบลงด้วยการเตรียมพร้อม สำหรับการต่อสู้หรือแสดงท่าต่อไป
  3. การรำเพลงอาวุธ ผู้เล่นจะรำเพลง ตามท่าที่ฝึกฝนมา โดยเลือกท่าที่เหมาะสมกับอาวุธที่ใช้ ประมาณ 1 ท่า อุปกรณ์ที่ใช้ เช่น กระบี่ ดาบสองมือ หอก ง้าว หรือพลอง
  4. การเดินแปลง เป็นการประเมินสถานการณ์ เตรียมพร้อมเข้าสู่การต่อสู้ เป็นการเดินไปยังสุดสนาม แล้วกลับมาที่เดิม โดยที่คู่ต่อสู้จะหลีกไปทางซ้ายเล็กน้อย ขณะเดินสวนกัน เพื่อดูเชิงและประเมินฝ่ายตรงข้าม ก่อนที่จะกลับมาเข้าประลองกันอย่างจริงจัง
  5. การต่อสู้ เป็นช่วงที่ใช้ทักษะ ที่ฝึกฝนมาทั้งหมดในสถานการณ์จริง ใช้อาวุธของการต่อสู้ที่เรียกว่า เครื่องไม้ตี
  6. การขอขมา หลังจากสิ้นสุดการต่อสู้ จะเป็นการขอขมาคู่ต่อสู้ เป็นการไหว้กันระหว่าง ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายหลังจบการต่อสู้ เป็นการขอโทษต่อการแสดง ที่ผิดพลั้งต่อกัน

ที่มา: รูปแบบการเล่นกระบี่กระบอง (สืบค้นเมื่อ 9 ตุลาคม 2025) [2]

กระบี่กระบอง กับพุทไธสวรรย์ เกี่ยวข้องยังไง?

สำนักดาบพุทไธสวรรย์ เป็นสถาบันที่ก่อตั้งขึ้น เพื่อเผยแพร่ และสอนวิชากระบี่กระบอง โดยมี พ่อครูสมัย เมษะมาน เป็นคนก่อตั้ง

  • โรงเรียนสำนักดาบพุทไธสวรรย์ ในช่วงปี พ.ศ. 2457 เป็นที่รู้จัก ในฐานะผู้ฝึกสอนศิลปะการต่อสู้กระบี่กระบอง
  • พ่อครูสมัย เสียชีวิตใน พ.ศ. 2541 สิริอายุได้ 84 ปี

สามารถอ่านประวัติของพ่อครูสมัย เมษะมาน เพิ่มเติมได้ที่ wikipedia

กระบี่กระบอง ต้องมี กรรมการตัดสิน หรือป่าว?

โดยนอกจากที่จะมี กระบวนแผนการก่อนจะเล่นแล้ว ตอนเล่นจริงก็จะมี ขั้นตอนการเล่นอีก มีกรรมการค่อยตัดสินคะแนน สำหรับการเล่นกีฬาชนิดนี้ด้วย มีการคิดคะแนนเป็นส่วนๆ การใช้เวลาในการแข่ง ผู้ที่จะมาตัดสินคะแนน แต่ละอย่างนั้นมีขั้นตอนหมด

กระบี่กระบอง มีการคิดคะแนน การแข่งขัน ยังไง?

สำหรับการคิดคะแนน ของการเล่นกีฬาชนิดนี้ จะแบ่งเป็น 4 ประเภท ตัวอย่าง คะแนนรวม 40 คะแนน ใช้กรรมการผู้ตัดสินทั้ง 5 ท่าน ตัดสินคะแนนสูงที่สุด และตัดคะแนนต่ำที่สุดออก รวมคะแนนที่ได้แล้วหารด้วย 3 และเรียงลำดับคู่ที่มีคะแนนมากสุดจะชนะ

  1. เครื่องแต่งกาย มี 4 คะแนน ประเมินจากความเรียบร้อย การแต่งกาย จากเรื่องสี ความสะอาด การสวมมงคลที่หัว ต้องใส่ทุกครั้งที่ออกแสดง
  2. ท่ารำ มี 10 คะแนน ประเมินจากความสวยงาม และถูกต้องของท่ารำ เช่น ลีลาการรำ ท่ารำถวายบังคม การรำพรหมนั่ง และรำพรหมยืน
  3. การเดินแปลง มี 6 คะแนน ประเมินจากความพร้อมเพรียง และสวยงามในการเคลื่อนไหว การรำจบแล้ว ไม่ต้องไหว้ถวายบังคม จะเริ่มรำพรหม หรือไม่ทำก็ได้ แล้วออกเดินแปลงเพียงเที่ยวเดียว
  4. การต่อสู้ มี 20 คะแนน ประเมินจากความเฉลียวฉลาด และพละกำลังที่แสดงออก ต้องมีเหตุผลสมจริง ในการต่อสู้ของแต่ละคู่ ถูกต้องตามหลักวิชาการต่อสู้ป้องกันตัว และไม่เป็นการอนาจาร

ถ้ามีคู่ที่คะแนนเท่ากัน ให้ดูต่อที่คะแนนการต่อสู้ ใครเยอะกว่าชนะ แต่ถ้าคะแนนเท่ากันอีกก็ดูเรียงลงมา เป็นคะแนนการรำ คะแนนการเดินแปลง ถ้าคะแนนเท่ากันทุกประเภท ให้ครองเป็นผู้ชนะทั้งคู่ แล้วก็เลื่อนคนที่ได้รอง ขึ้นมาเรียงลำดับ 1 หรือ 2 หรือ 3 ต่อๆ ไป

ที่มา: ประวัติความเป็นมากีฬากระบี่กระบอง (29 พฤษภาคม 2012) [3]

กระบี่กระบอง มีกำหนดเวลาการ การแข่งกีฬา ยังไง?

การกำหนดเวลาการแข่งขัน จะกำหนดให้คู่ละประมาณ 7 นาที ถ้าคู่ไหนใช้เวลาไปเกิน 7 นาที จะถูกกรรมการหักคะแนนไป 2 คะแนน กรรมจะเป็นคนแจ้ง และบอกเวลาให้ สามารถเริ่มการแข่งไปได้เรื่อยๆ พอ 6 นาที จะกดกริ่งเตือน 1 ครั้ง พอครบ 7 นาทีแล้วจะประกาศว่า หมดเวลาการแข่งแล้ว

สรุปวิธี การเล่น กระบี่กระบอง กีฬาโบราณ ที่คุ้นเคย

สรุปวิธี การเล่น กระบี่กระบอง มีขั้นตอนพื้นฐาน ในการเล่นกำหนดไว้ อยู่ประมาณ 6 ขั้นตอน เริ่มจาก การถวายบังคม การขึ้นพรหม การรำเพลงของ อาวุธของ กระบี่กระบอง การเดินแปลง การต่อสู้ การขอขมา เป็นแผนการเล่นหลักที่ต้องทำทุกครั้งก่อนเล่นจริง

ขั้นตอน ที่สำคัญที่สุด สำหรับกีฬาการต่อสู้

ขั้นตอน การเล่น กระบี่กระบอง ความจริงทุกขั้นตอนก็สำคัญหมด ตั้งแต่การเริ่มไหว้ครู และขอโทษกันหลังเล่นเสร็จ เพราะเป็นการแสดงถึงความเคารพ และแสดงการขึ้นพรหม การรำเพลงอาวุธ การเดินแปลง การต่อสู้ เป็นท่าที่จำเป็นจะต้องทำให้ครบทุกตอน ถ้าขาดขั้นตอนไหนก็จะไม่สมบูรณ์

กติกา การเล่นกีฬานี้ ยากหรือไม่?

สำหรับกติกา ที่ใช้ในการเล่นกีฬาประเภทนี้ จะยากกับคนใหม่ที่หัดเล่น และยังไม่คุ้นชินกับท่ารำหรือท่าต่อสู้ ดูเหมือนจะมีขั้นตอนรายละเอียดซับซ้อนอยู่มาก แต่ถ้าเริ่มชินกับมัน พอทำเป็นและคล่องตัว ก็จะดูง่ายขึ้น กับคนที่เล่นจนเก่งเป็นมืออาชีพแล้ว จะเข้าใจเร็วและเล่นได้อย่างคล่องแคล่วและว่องไว

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง