กินคลีนแบบไม่จืด ทำยังไง ให้สนุก อร่อย และอยู่ได้นาน

กินคลีนแบบไม่จืด ทำยังไง

กินคลีนแบบไม่จืด ทำยังไง ให้รู้สึกสนุกกับทุกมื้ออาหาร หลายคนอาจเบื่ออาหารคลีนที่ดูจืดชืด ไร้รสชาติ แต่ความจริงแล้วการกินคลีนไม่จำเป็นต้องน่าเบื่อเสมอไป ถ้ารู้เคล็ดลับและเลือกวัตถุดิบที่ใช่ เราสามารถทำให้มื้อคลีนมีรสชาติ จึงไม่ใช่เรื่องยากเกินไป เริ่มต้นด้วยรู้จักดัดแปลงเมนูให้เหมาะกับลิ้นของตัวเอง

  • เมนูอาหารคลีน
  • วิธีการเลือกกินคลีน
  • สารอาหารและประโยชน์จากการกินคลีน

รู้จักวัตถุดิบการกินคลีนดี มีชัยไปกว่าครึ่ง

การเลือกวัตถุดิบคือหัวใจสำคัญของการ กินคลีนให้ไม่จืด เพราะถ้าคุณเลือกวัตถุดิบที่สดใหม่ รสชาติดีตามธรรมชาติ จะช่วยให้ไม่ต้องพึ่งเครื่องปรุงมากก็ยังอร่อยได้ วัตถุดิบคุณภาพยังคงรสชาติเฉพาะตัว ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของมื้อคลีนที่มีรสสัมผัสน่าทาน

หลายคนมักเข้าใจผิดว่ากินคลีนต้องหลีกเลี่ยงรสชาติทั้งหมด แต่ความจริงคือการเลือกวัตถุดิบที่ให้รสชาติ อาทิ ข้าวกล้องหอมๆ หรือผักที่มีรสหวานธรรมชาติ อาทิ ฟักทอง มะเขือเทศ จะช่วยเติมสีสันให้กับจานอาหารได้โดยไม่ต้องปรุงเยอะ

แค่เปลี่ยนมุมมองเล็กน้อย การเลือกวัตถุดิบให้เหมาะสมก็สามารถเปลี่ยนอาหารจืดชืดให้กลายเป็นจานที่อยากกินได้ทุกวัน และแน่นอนว่า กินคลีนแบบไม่จืด ทำยังไง ก็เริ่มจากจุดนี้เลย

ผักสดกรอบ รสธรรมชาติแบบไม่ต้องแต่ง

ผักอย่างแครอท แตงกวา หรือพริกหวานมีรสหวานกรอบตามธรรมชาติ แค่ล้างให้สะอาดและจัดจานให้สวยก็ช่วยเพิ่มความน่ากินได้มาก ลองใช้ผักสดหลากสีในแต่ละมื้อ จะช่วยให้มื้อคลีนของคุณไม่น่าเบื่อ และยังได้ประโยชน์จากสารต้านอนุมูลอิสระไปพร้อมๆ กัน

หลายคนอาจคิดว่า “ผัก” เป็นแค่อาหารที่ไม่มีรสชาติ ไม่น่าดึงดูด แต่จริง ๆ แล้ว ผักสดคุณภาพดี ไม่ต้องปรุงมากก็อร่อยได้ เพราะมี รสหวานธรรมชาติ กลิ่นหอมสด และสัมผัสกรอบแน่น ที่หาไม่ได้จากอาหารแปรรูป อีกทั้งผักยังมีประโยชน์มากมาย สามารถเข้าไไปอ่านประโยชน์ของผักได้ที่ ประโยชน์ของผัก มีอะไรบ้าง

โปรตีนคุณภาพ ดีต่อใจและอร่อย

อกไก่ ปลาแซลมอน เต้าหู้ หรือไข่ล้วนเป็นแหล่งโปรตีนดีที่มีรสในตัวเอง หากปรุงให้ถูกวิธีก็จะได้รสชาติกลมกล่อมโดยไม่ต้องใส่ซอสเยอะ เพียงหมักด้วยสมุนไพรหรือย่างด้วยกระทะไม่ติดมัน ก็สามารถเป็นมื้อ กินคลีนแบบให้ไม่จืด ได้แล้ว ใครว่ากินเพื่อสุขภาพต้องน่าเบื่อ โปรตีนคุณภาพ ไม่ได้มีดีแค่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ หรือควบคุมน้ำหนัก

ปรุงรสอย่างมีศิลปะ ไม่ต้องหวานเค็มก็อร่อยได้

กินคลีนแบบไม่จืด ทำยังไง

ปรุงรสให้พอดี ทำยังไง โดยใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ อาทิ มะนาว ขิง ตะไคร้ หรือพริกไทย จะช่วยเพิ่มกลิ่นและรสให้มื้อคลีนโดยไม่ต้องพึ่งผงปรุงรสหรือซอสโซเดียมสูง การใช้สมุนไพรไทยหรือเครื่องเทศจะทำให้จานอาหารคลีนมีมิติขึ้น และยังมีคุณสมบัติช่วยย่อย ลดอาการแน่นท้องหลังมื้ออาหารได้ดีอีกด้วย

กินคลีนแบบไม่จืด ทำยังไง คำตอบคือ “ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องปรุงสำเร็จรูป” แค่ใส่ใจวัตถุดิบที่เลือกมาผสมให้ลงตัวก็เพียงพอ หลายคนติดกับดักของรสจัด หวานนำ เค็มตาม แต่จริง ๆ แล้วความอร่อยไม่ได้อยู่แค่ “ปริมาณน้ำตาลหรือโซเดียม” แต่อยู่ที่ การรู้จักรสชาติของวัตถุดิบ และการปรุงอย่างมีศิลปะ

ซอสคลีนทำเอง รสกลมกล่อมไม่ซ้ำใคร ทำยังไง

ลองทำซอสคลีนจากเต้าเจี้ยวธรรมชาติ น้ำส้มสายชูหมัก หรือถั่วลิสงบดเอง รับรองว่าอร่อยได้โดยไม่รู้สึกผิด ซอสโฮมเมดเหล่านี้ควบคุมรสชาติได้ตามใจ ไม่ต้องห่วงเรื่องสารปรุงแต่งหรือโซเดียมเกิน

สมุนไพรไทย ใช้ให้เป็น อร่อยแน่ ใบมะกรูด ข่า ตะไคร้ หรือพริกขี้หนูมีรสเฉพาะตัวที่ช่วยให้จานอาหารน่าสนใจขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งน้ำปลา ใช้สมุนไพรช่วยชูรสแล้วคุณจะรู้ว่า กินคลีนแบบไม่จืด เป็นเรื่องใกล้ตัวกว่าที่คิด

กินคลีนแบบไม่จืด กับเมนูลาบปลาทูน่า แซ่บสะใจ สไตล์คลีน ทำยังไง

ส่วนผสม

  1. เนื้อปลาทูน่ากระป๋องในน้ำแร่ 1 กระป๋อง (ประมาณ 150 กรัม)
  2. น้ำมะนาวสด 2 ช้อนกินข้าว
  3. น้ำปลาโซเดียมต่ำ 1 – 1½ ช้อนกินข้าว (ปรับตามชอบ)
  4. พริกป่น ½ – 1 ช้อนชา (หรือมากน้อยตามระดับความแซ่บ)
  5. ข้าวคั่ว 1 ช้อนกินข้าว
  6. หอมแดงซอยบาง 2 – 3 หัว
  7. ต้นหอมซอย 1 ช้อนกินข้าว
  8. ผักชีซอย 1 ช้อนกินข้าว
  9. ใบโหระพา เล็กน้อย (ฉีกหยาบ)
  10. ผักสดกินแกล้ม เช่น ผักกาดขาว แตงกวา
  11. ถั่วฝักยาว โหระพา ฯลฯ

วิธีทำลาบปลาทูน่า

  1. เตรียมปลาทูน่า เปิดกระป๋องปลาทูน่า เทน้ำแร่ออกให้หมด แล้วใช้ส้อมยีเนื้อปลาเบา ๆ ให้แยกตัวพอหยาบ (ไม่ต้องละเอียดจนเละ) ใส่น้ำมะนาว น้ำปลา และพริกป่นลงในเนื้อปลาทูน่า คลุกเคล้าให้เข้ากัน ชิมรสดูก่อน แล้วค่อยปรับให้แซ่บตามใจชอบ
  2. ใส่เครื่องลาบ ตามด้วยข้าวคั่ว (ใส่ทีหลังสุดจะช่วยให้หอมมากขึ้น), หอมแดงซอย, ต้นหอมซอย, ผักชีซอย และใบโหระพา คลุกทุกอย่างเบา ๆ ให้พอเข้ากัน อย่าขยำแรง เพื่อให้ยังได้รสสัมผัสของวัตถุดิบ
  3. จัดเสิร์ฟ ตักลาบปลาทูน่าลงจาน เสิร์ฟพร้อมผักสดตามชอบ อาจเพิ่มใบสะระแหน่หรือตะไคร้ซอยบาง ๆ เพิ่มกลิ่นหอมก็ได้

ที่มา: 25 สูตรอาหารคลีนง่าย ๆ กินง่าย ๆ จัดเต็มทั้งคาวและหวาน [1]

กินคลีนแบบไม่จืด กับเมนูกุ้งย่างเครื่องเทศ ทำยังไง

ส่วนประกอบ

  1. กุ้งสด ปอกเปลือกไว้หาง ผ่าหลังดึงเส้นดำออก (ประมาณ 10 ตัว)
  2. พริกหวาน หั่นเป็นชิ้นยาวหลากสี (เช่น แดง เหลือง เขียว)
  3. กระเทียม สับหยาบ 1 ช้อนตวง
  4. หอมใหญ่ หั่นเสี้ยวหรือซอยบาง ½ หัว
  5. พริกไทยดำบด ตามชอบ (แนะนำให้ใช้แบบบดสดหอมกว่า)

วิธีทำ

  1. เตรียมกุ้ง
    ล้างกุ้งให้สะอาด ปอกเปลือกไว้หาง ผ่าหลังและดึงเส้นดำออก ใช้กระดาษซับน้ำให้แห้ง แล้วนำไป ย่างบนกระทะร้อน หรือกระทะเทฟลอนโดยไม่ใช้น้ำมัน หรือใช้น้ำมันมะกอกเพียงเล็กน้อย ย่างพอให้กุ้งสุกและผิวตึงขึ้น แล้วพักไว้
  2. ผัดเครื่องหอม
    ตั้งกระทะใส่น้ำมันเล็กน้อย ใส่กระเทียมสับลงไปเจียวจนหอม ตามด้วยหอมใหญ่ ผัดจนเริ่มนุ่มใส และกลิ่นหอมลอยขึ้น
  3. เติมพริกหวาน
    ใส่พริกหวานลงผัดรวมกัน ให้สุกแต่ยังคงความกรอบและสีสด (ไม่ควรผัดนานจนเปื่อย)
  4. ใส่กุ้งย่างลงผัดรวม
    นำกุ้งที่ย่างไว้ลงกระทะ คลุกเคล้าให้เข้ากับเครื่องทั้งหมด ปรุงรสด้วยพริกไทยดำบดใหม่ ๆ ตามชอบ
  5. จัดเสิร์ฟ
    ตักใส่จาน เสิร์ฟร้อน ๆ กินคู่กับข้าวกล้อง หรือเป็นเมนู Low-carb แบบไม่ต้องมีข้าวก็ได้

ที่มา: 30 เมนูอาหารคลีน สำหรับสาวขี้เกียจ 2568 ทำตามง่ายมาก กินแล้วผอม [2]

กินคลีนแบบไม่จืด กับเมนูสเต๊กอกไก่ ทำยังไง

วัตถุดิบสำหรับสเต๊กอกไก่

  1. อกไก่ลอกหนัง 260 กรัม
  2. น้ำมันมะกอก ½ ช้อนชา
  3. เกลือโซเดียมต่ำ ½ ช้อนชา
  4. พริกไทยดำบด ½ ช้อนชา
  5. วัตถุดิบสำหรับซัลซามะม่วง
  6. มะม่วงสุกแข็ง (ชนิดที่ไม่เละ หั่นเต๋า) 1 ลูก
  7. มะเขือเทศหั่นเต๋า 1 ช้อนตวง
  8. หอมแดงสับ 1 ช้อนตวง
  9. ต้นหอมซอย 1 ช้อนตวง
  10. ผักชีสับละเอียด 1 ช้อนตวง
  11. น้ำมะนาว 2 ช้อนชา
  12. น้ำมันมะกอก ½ ช้อนชา

วิธีทำ

  1. เตรียมไก่: ล้างอกไก่ให้สะอาด ซับให้แห้งสนิท จากนั้นโรยเกลือโซเดียมต่ำและพริกไทยให้ทั่วทั้งสองด้าน
  2. ย่างอกไก่: ตั้งกระทะเทฟลอนหรือกระทะย่างให้ร้อน หยดน้ำมันมะกอกเล็กน้อย ใช้ไฟกลางถึงกลางอ่อน
  3. วางอกไก่ลงกระทะ ย่างแต่ละด้านประมาณ 4–6 นาที หรือจนสุกและมีสีเกรียมนิด ๆ ด้านนอก ถ้าอกไก่หนามาก อาจใช้ฝาปิดหรืออบต่อในเตาเพื่อให้เนื้อสุกถึงด้านใน
  4. พักอกไก่บนตะแกรงหรือจานก่อนเสิร์ฟประมาณ 5 นาที เพื่อให้เนื้อแน่นไม่แห้ง
  5. หั่นมะม่วงสุก (ควรเลือกแบบที่ยังแน่น ไม่เละ) เป็นชิ้นเต๋าเล็ก ๆ ใส่ลงชาม
  6. ใส่มะเขือเทศหั่นเต๋า หอมแดง ต้นหอม ผักชี และน้ำมันมะกอกลงไป
  7. ราดน้ำมะนาวลงไป ปรุงรสตามชอบ แล้วใช้ช้อน คลุกเบา ๆ เพื่อไม่ให้เนื้อมะม่วงช้ำหรือเละ

ที่มา: 40 เมนูอาหารคลีนแบบประหยัด กินได้ทั้งเช้า กลางวัน เย็น [3]

เปลี่ยนวิธีทำอาหารก็เปลี่ยนรสสัมผัสได้

การปรุงอาหารคลีนไม่จำเป็นต้องต้มอย่างเดียว ลองเปลี่ยนมาใช้การนึ่ง อบ หรือย่าง จะช่วยเพิ่มกลิ่นหอมและรสชาติให้วัตถุดิบมากขึ้นโดยไม่ต้องใส่น้ำมัน กลวิธีเหล่านี้ยังช่วยรักษาสารอาหารในอาหารไว้ได้ดี ไม่สูญหายไปกับความร้อนสูงแบบการทอด

ย่างด้วยเตาอบ กลิ่นหอมแบบไม่ต้องพึ่งน้ำมัน ทำยังไง

การใช้เตาอบช่วยให้อาหารมีเนื้อสัมผัสกรอบนอกนุ่มใน เช่น อกไก่ย่างหรือผักอบ ทำให้น่ากินยิ่งขึ้น กลิ่นหอมของการย่างยังช่วยกระตุ้นความอยากอาหาร และทำให้รู้สึกว่าไม่จืดเลย

นึ่งให้หอม ใส่ใบเตย ใบตองเพิ่มมิติ

การนึ่งอาหารโดยใช้ใบเตย ใบตอง หรือสมุนไพรห่อร่วมด้วย จะช่วยให้อาหารมีรสหอมเฉพาะตัว นุ่มและไม่มัน เทคนิคนี้เหมาะกับเมนูปลานึ่ง ผัก หรือแม้แต่ข้าว ก็ช่วยให้ กินคลีนแบบไม่จืด ได้ง่ายขึ้นมาก

บทสรุป กินคลีนแบบไม่จืด ทำยังไง ให้สนุก อร่อย และอยู่ได้นาน

บทสรุป กินคลีนแบบไม่จืด ทำยังไง คือการเข้าใจว่าอาหารคลีนไม่จำเป็นต้องจืดถ้าเราใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ ทั้งวัตถุดิบ วิธีปรุง และรสธรรมชาติที่มีอยู่แล้วในวัตถุดิบเหล่านั้น ไม่ต้องพึ่งซอสหรือผงชูรสก็อร่อยได้ กินคลีนแบบไม่จืด ไม่ใช่แค่เรื่องของสุขภาพ แต่คือเรื่องของความสุขในแต่ละมื้อที่เราสร้างเองได้ ถ้าเราสนุกกับการทำอาหารและกล้าลองสิ่งใหม่ๆ

การกินคลีนช่วยลดน้ำหนักได้จริงหรือไม่

ช่วยได้ เพราะอาหารคลีนมักให้พลังงานพอเหมาะ มีไฟเบอร์สูง และไขมันน้อย ช่วยให้อิ่มนาน ลดการกินจุบจิบ และควบคุมแคลอรีได้ง่ายกว่าการกินแบบทั่วไป

ทำไมหลายคนถึงบอกว่าอาหารคลีน “จืด”

เพราะอาหารคลีนหลีกเลี่ยงเครื่องปรุงที่มีรสจัด เช่น น้ำปลา ซีอิ๊ว หรือผงปรุงรส แต่จริงๆ แล้วสามารถปรุงรสได้จากสมุนไพรธรรมชาติ เช่น พริก กระเทียม ขิง มะนาว หรือใช้ซอสคลีนโฮมเมด ทำให้อร่อยได้โดยไม่จืด

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง