
กีฬาปาร์กัวร์ เบิร์นขั้นไหน ผลาญพลังงานได้แค่ไหน ปาร์กัวร์ไม่ใช่แค่การโชว์สกิลเท่ๆ แต่คือศิลปะแห่งการเคลื่อนไหว ที่มีจุดเริ่มต้นจากฝรั่งเศส
กีฬาปาร์กัวร์ (Parkour) คือการเคลื่อนไหวร่างกาย ด้วยทักษะที่คล่องแคล่ว รวดเร็ว และเป็นธรรมชาติ เพื่อ “ผ่านสิ่งกีดขวาง” จากจุดหนึ่ง ไปยังอีกจุดหนึ่ง อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
ไม่ว่าจะเป็นการกระโดด ปีน โหน วิ่ง ทรงตัว หรือกลิ้งตามสถานการณ์ โดยเริ่มต้นจากกลุ่มวัยรุ่นในฝรั่งเศส ที่ต้องการท้าทายร่างกายตัวเอง และใช้สภาพแวดล้อมรอบตัวให้กลายเป็นสนามฝึก
กีฬาปาร์กัวร์มีรากฐาน มาจากแนวคิดเรื่อง “การเคลื่อนไหวเพื่อเอาตัวรอด” ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 20 ประมาณปี 1900–1910 เมื่อ Georges Hébert นายทหารเรือชาวฝรั่งเศส ได้พัฒนาแนวคิด Méthode Naturelle หรือ “วิธีธรรมชาติ” ที่เน้นการฝึกวิ่ง กระโดด ปีน โหน และทรงตัว
เพื่อรับมือสถานการณ์จริง แนวคิดนี้ถูกนำไปใช้สร้าง “parcours du combattant” หรือสนามฝึกวิ่งข้ามสิ่งกีดขวางของทหารฝรั่งเศสในช่วงทศวรรษ 1920–1930 ต่อมาในปี 1970–1980 Raymond Belle อดีตทหารหน่วยกู้ภัยในฝรั่งเศส ซึ่งได้รับการฝึกแบบนี้ ได้นำแนวคิดการเคลื่อนไหว อย่างมีประสิทธิภาพ มาถ่ายทอดให้ลูกชายของเขา David Belle ซึ่งเติบโตในย่าน Lisses และ Évry ชานปารีส (2 ตุลาคม 2025) [1]
กีฬาปาร์กัวร์เป็นการออกกำลังกาย ที่กระตุ้นทั้งร่างกาย และสมองแบบเต็มระบบ ผู้ฝึกจะเคลื่อนไหวด้วยการวิ่ง กระโดด ปีน โหน ทรงตัว และรับแรงกระแทก ซึ่งทำให้ร่างกายแข็งแรงอย่างรอบด้าน โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษ การใช้กล้ามเนื้อหลายมัดพร้อมกัน
ช่วยเสริมทั้งกำลังช่วงแขน ลำตัว และขา ขณะเดียวกันหัวใจ – ปอด ก็ทำงานหนักขึ้น ทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงาน และเสริมความอึดได้ดี การฝึกลงพื้น การพับตัว การกลิ้งรองรับแรงตกกระแทก ยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น ของข้อต่อและเอ็น พร้อมลดอาการบาดเจ็บจากการใช้ชีวิตประจำวัน ร่างกายจะตอบสนอง ต่อ สถานการณ์ได้เร็วขึ้น (19
มกราคม 2024) [3]
เพราะต้องตัดสินใจภายในเสี้ยววินาทีว่า จะก้าว กระโดด หรือรับแรงอย่างไร กิจกรรมลักษณะนี้ยังกระตุ้นระบบประสาทให้สั่งงานอย่างแม่นยำ ซึ่งส่งผลให้การทรงตัวดีขึ้น และควบคุมการเคลื่อนไหวได้มั่นคงขึ้นกว่าเดิม
เมื่อมีการเคลื่อนไหวต่อเนื่อง ร่างกายจะดึงพลังงานจากระบบ คาร์ดิโอ มีอะไรบ้าง และระบบกล้ามเนื้อไปพร้อมกัน หัวใจเต้นเร็วขึ้น กล้ามเนื้อเกร็ง คลายตัวซ้ำๆ ทำให้การเผาผลาญแคลอรี่ เกิดขึ้นทั้งระหว่างฝึกและหลังฝึก เช่นเดียวกับการออกกำลังกายแบบ HIIT
การกระโดดข้ามสิ่งกีดขวาง ปีนป่าย และรับแรงกระแทก ยังทำให้ร่างกาย ต้องใช้พลังงานมากกว่า การวิ่งหรือเดินธรรมดา ส่งผลให้ไขมัน ถูกนำมาใช้แทนพลังงานสำรองได้เร็วขึ้น ยิ่งฝึกในพื้นที่ไม่สม่ำเสมอ หรือมีอุปสรรคเยอะ
ร่างกายก็ยิ่งเผาผลาญมากขึ้นตามไปด้วย ทำให้ปาร์กัวร์ เป็นกิจกรรมที่ช่วยลดไขมัน และเพิ่มความฟิตได้รวดเร็ว โดยไม่ต้องใช้เครื่องออกกำลังกายเลย
ผู้ฝึกน้ำหนัก 60 กิโลกรัม
ผู้ฝึกน้ำหนัก 70 กิโลกรัม
ผู้ฝึกน้ำหนัก 80 กิโลกรัม
การฝึกปาร์กัวร์ประมาณ 1 ชั่วโมง สามารถเผาผลาญพลังงาน ได้ประมาณ 500–900 แคลอรี่ ขึ้นอยู่กับความเข้มข้น และน้ำหนักตัว ซึ่งถือว่าเป็นการออกกำลังกาย แบบเผาผลาญสูง
สรุป กีฬาปาร์กัวร์ เบิร์นขั้นไหน ยังเป็นกิจกรรมเผาผลาญพลังงานสูง ขึ้นกับน้ำหนัก และความเข้มข้นของการฝึก ยิ่งฝึกมาก ก็ยิ่งเผาผลาญมากยิ่งขึ้น
การฝึกปาร์กัวร์มีความเสี่ยงบาดเจ็บพอสมควร โดยเฉพาะการกระโดด ปีน หรือรับแรงกระแทกหากเทคนิคไม่ถูกต้อง ผู้ฝึกจึงควรเริ่มจากพื้นราบ อุปกรณ์รองรับแรงกระแทก และเรียนรู้ท่าพื้นฐานก่อน
โดยทั่วไป เด็กสามารถเริ่มฝึก ปาร์กัวร์ได้เมื่ออายุประมาณ 6–7 ปีขึ้นไป ซึ่งร่างกายเริ่มมีความแข็งแรง และการทรงตัวพอสมควร สำหรับผู้ใหญ่ก็สามารถเริ่มฝึกได้ทุกวัย แต่ควรประเมินความแข็งแรง ความยืดหยุ่น และสภาพร่างกายก่อนเริ่ม