
ทางเลือกการลงทุน ยุคใหม่ เริ่มเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตการลงทุนมากขึ้น เช่นเดียวกับแนวคิดการลงทุนแบบ ESG ที่เน้นคุณค่า และความยั่งยืน ไม่ใช่แค่ผลตอบแทน บทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับ ทางเลือกการลงทุนยุคใหม่ พร้อมเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของแต่ละทางเลือก เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ และเหมาะกับเป้าหมายของตัวเองที่สุด
การลงทุนยุคนี้ ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เทคโนโลยีเข้ามาเปลี่ยนเกมอย่างสิ้นเชิง จากเดิมที่ต้องพึ่งโบรกเกอร์ หรือข่าวจากหนังสือพิมพ์ ตอนนี้แค่มีมือถือ ก็เข้าถึงข้อมูล วิเคราะห์หุ้น หรือดูความเคลื่อนไหว ของตลาดแบบเรียลไทม์ได้ทันที
ที่น่าสนใจคือการใช้ AI และ Big Data ช่วยคัดกรองหุ้น วิเคราะห์แนวโน้ม หรือจัดพอร์ตลงทุนแบบอัตโนมัติ ไม่ต้องเก่งเรื่องการเงิน ก็เริ่มลงทุนได้ง่ายๆ ผ่านแอปต่างๆ นอกจากนี้ นักลงทุนบางกลุ่มยังเริ่มสนใจ ลงทุนในแบรนด์หรู ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า นาฬิกา หรือสินค้าลิมิเต็ด ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นตามกาลเวลาและความนิยม
และเมื่อโลกการเงินขยายตัวไปสู่สินทรัพย์ใหม่ๆ อย่างคริปโต NFT หรือแม้แต่ สินทรัพย์ ที่จับต้องไม่ได้ ก็กลายเป็นกุญแจสำคัญ ในการเข้าถึงโอกาสเหล่านี้อย่างทั่วถึง
ที่มา: Robo-advisor: Investments at Your Fingertips [1]
คริปโตเคอร์เรนซี ไม่ใช่แค่คำฮิตในวงการการเงิน แต่กลายเป็นหนึ่งใน ลงทุน ในสินทรัพย์ดิจิทัล ที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล แนวคิดของมันคือการสร้างสกุลเงินที่ไม่ต้องพึ่งธนาคารกลาง ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน เพื่อความโปร่งใสและปลอดภัย [2]
ตลาดคริปโตเติบ โตเร็วอย่างน่าทึ่ง จากการเป็นกลุ่มเล็กๆ สู่ตลาดที่มีมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์ แต่นักวิเคราะห์หลายคนยังเตือนว่า การลงทุนในคริปโตหรือ ลงทุนในเหรียญ Stablecoin มีความผันผวนสูง ราคาเหวี่ยงแรงตามข่าว และความเชื่อมั่นของตลาด จึงไม่เหมาะกับทุกคน
ESG เป็นแนวคิดการลงทุน ที่ไม่มองแค่ผลตอบแทน แต่ใส่ใจเรื่อง สิ่งแวดล้อม (E), สังคม (S) และ ธรรมาภิบาล (G) ด้วย เช่น บริษัทนั้นปล่อยคาร์บอนแค่ไหน ดูแลพนักงานยังไง หรือมีความโปร่งใสในกระบวนการบริหารมากน้อยเพียงใด
คนรุ่นใหม่เริ่มให้ความสำคัญกับการ “ใช้เงินให้มีจุดยืน” มากขึ้น ไม่ใช่แค่ลงทุนเพื่อกำไร แต่ต้องตอบโจทย์เรื่องคุณค่าทางสังคมด้วย หลายคนเลือกลงทุนในกองทุนที่คัดเลือกหุ้นตามเกณฑ์ ESG โดยเฉพาะ
ในบางกรณี นักลงทุนที่ต้องการความมั่นคง ก็อาจเลือก ลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย เพื่อกระจายความเสี่ยงในพอร์ตของตนเอง หรือบางคนอาจใช้กลยุทธ์ การลงทุนแบบ TAA เพื่อปรับสัดส่วนการลงทุนให้เหมาะสมกับสภาวะตลาดในแต่ละช่วงเวลา
Robo-Advisor คือ ผู้จัดการการลงทุนแบบอัตโนมัติ ที่ใช้เทคโนโลยีวิเคราะห์ข้อมูล และจัดพอร์ตให้เหมาะกับเป้าหมายของแต่ละคน ไม่ต้องมีความรู้ลึกเรื่องหุ้นก็เริ่มลงทุนได้ คล้ายกับ ลงทุนแบบ Copy Trade เหมาะมากสำหรับคนที่ไม่มีเวลา หรือไม่มั่นใจว่าจะวางแผนเองอย่างไร
ข้อดีคือ ไม่ต้องเฝ้าตลาด ลงทุนเป็นระบบ และมีวินัย ข้อเสียคือยังไม่ยืดหยุ่นเท่าที่ปรึกษาส่วนตัว และอาจไม่เหมาะกับคนที่อยากควบคุมการลงทุนเองทุกขั้นตอน
บางแพลตฟอร์มยังเปิดให้เลือก กลยุทธ์ลงทุน ตามโมเมนตัม เพื่อจับจังหวะการขึ้นลงของสินทรัพย์ตามแนวโน้มตลาดได้อัตโนมัติ หรือเลือกลงทุนแบบเน้นอนาคต ด้วยการ ลงทุน ในพลังงานสะอาด ผ่านกองทุนหรือ ETF ที่คัดสรรหุ้นของบริษัทที่มุ่งพัฒนาเทคโนโลยีสีเขียวและพลังงานทางเลือก
เทคนิคง่ายๆ คือ ลองแบ่งพอร์ตตามเป้าหมาย เช่น ลงทุน เพื่อเก็งกำไรระยะสั้น อาจไว้ในกองทุนความเสี่ยงต่ำ ส่วนระยะยาวก็อาจเพิ่มสัดส่วนในหุ้นหรือ REIT มากขึ้น เพื่อกระจายความเสี่ยง และเพิ่มโอกาสเติบโต
NFT หรือ Non-Fungible Token คือสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่สามารถทดแทนกันได้ เป็นของชิ้นเดียวในโลกดิจิทัล เช่น ภาพวาด เพลง ที่ดินเสมือน ลงทุน ในของสะสม หรือไอเท็มในเกม ทุกชิ้นมีข้อมูลยืนยันความเป็นเจ้าของบนบล็อกเชน ทำให้ไม่สามารถก๊อบปี้ หรือปลอมแปลงได้ง่าย
หลายคนรู้จัก NFT จากโลกศิลปะหรือเกม เช่น การซื้อภาพวาดดิจิทัลที่มีลิขสิทธิ์เฉพาะคนเดียว หรือถือครองไอเท็มในเกม ที่มีมูลค่าแลกเปลี่ยนจริงได้ บางโปรเจกต์ยังขยายไปสู่การลงทุนใน Metaverse เช่น การซื้อที่ดินเสมือน เพื่อปล่อยเช่า หรือใช้จัดอีเวนต์ [3]
โดยสรุป ทางเลือกการลงทุน ยุคใหม่ สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าโลกการเงินไม่ได้เดินอยู่ที่เดิมอีกต่อไป นักลงทุนยุคใหม่มีทางเลือกมากขึ้น แต่ไม่ว่าเราจะเลือกลงทุนแบบไหน หัวใจสำคัญยังคงเหมือนเดิม คือ “เข้าใจในสิ่งที่ลงทุน” และ “เลือกให้เหมาะกับตัวเอง” เพราะในยุคที่โอกาสเปิดกว้าง ความรู้ และการวางแผนที่ดี จะทำให้คุณลงทุนได้อย่างมั่นใจ
โดยทั่วไปแล้ว บุคคลทั่วไปสามารถลงทุนในคริปโตหรือ NFT ได้โดยไม่จำเป็นต้องมีใบอนุญาต แต่ควรเปิดบัญชีผ่านแพลตฟอร์ม ที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานกำกับ เช่น ก.ล.ต. (ในประเทศไทย) เพื่อความปลอดภัยของข้อมูล และเงินลงทุนของตนเอง
โดยทั่วไปแล้ว บุคคลทั่วไป สามารถลงทุนในคริปโตหรือ NFT ได้โดยไม่จำเป็นต้องมีใบอนุญาต แต่ควรเปิดบัญชีผ่านแพลตฟอร์ม ที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานกำกับ เช่น ก.ล.ต. (ในประเทศไทย) เพื่อความปลอดภัยของข้อมูล และเงินลงทุนของตนเอง