ทำไมบางคน เลิกเล่นพนันไม่ได้ รู้ทันก่อนจะพัง

ทำไมบางคน เลิกเล่นพนันไม่ได้

ทำไมบางคน เลิกเล่นพนันไม่ได้ แม้รู้ว่าการพนันมีแต่เสีย แต่หลายคนยังหยุดไม่ได้ เพราะมันไม่ใช่แค่เรื่องเงิน แต่เป็นเรื่องของสมอง พฤติกรรม และสิ่งแวดล้อม บางคนรู้ตัวช้า บางคนไม่รู้ตัวเลยว่ากำลัง“ติด”บทความนี้เราจะพาคุณไปดูว่า ทำไมบางคนถึงหลุดออกจากวงจรนี้ ได้ยากกว่าที่คิด

  • เส้นทางการพนัน พฤติกรรมและสาเหตุหลักการติดพนัน
  • วิธีสังเกตว่าตนเองหรือคนใกล้ตัวติดพนัน
  • ผลกระทบจากการติดพนัน และแนวทางการเลิกเล่นพนัน

เส้นทางการพนัน จากพฤติกรรมสู่โรคติดพนัน

พ.ศ. 2556 – WHO และ DSM-5 รับรอง “โรคติดพนัน” American Psychiatric Association เพิ่ม “Gambling Disorder” ในคู่มือวินิจฉัยโรค DSM-5 ถือเป็นการยอมรับว่า “การพนันสามารถเสพติดได้” เช่นเดียวกับสารเสพติด ส่งผลให้หลายประเทศเริ่มจัดบริการ บำบัดผู้ติดพนันอย่างจริงจัง

พ.ศ. 2562 สสส. และ ThaiHealth เริ่มเผยแพร่ข้อมูล “พฤติกรรมติดพนันในวัยรุ่นไทย” พบว่าคนไทยจำนวนมาก ไม่รู้ว่าการพนันสามารถเสพติดได้ มีการจัดทำอินโฟกราฟิก และคู่มือสังเกตอาการติดพนันเบื้องต้น และเริ่มมีการผลักดันให้รวมพฤติกรรมนี้ในแผนสุขภาพจิตระดับประเทศ

พ.ศ. 2566 – Thai PBS และกรมสุขภาพจิตเผยแพร่ “7 สัญญาณติดพนัน” เน้นการสื่อสารเชิงป้องกัน โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นและผู้ใช้โซเชียล มีการจัดอบรมครู และผู้ปกครองให้เข้าใจพฤติกรรมเสี่ยง เริ่มมีสายด่วนให้คำปรึกษาเบื้องต้นสำหรับผู้ที่เลิกเล่นพนันไม่ได้ (28 พฤศจิกายน 2022) [1]

พฤติกรรมการติดพนัน

  • หมกมุ่นกับการพนัน คิดถึงแต่เรื่องเล่นพนัน วางแผนหรือหาวิธีเล่นอยู่ตลอดเวลา
  • อยากเล่นมากขึ้นเรื่อย ๆ ต้องเพิ่มจำนวนเงินหรือความเสี่ยงเพื่อให้รู้สึกตื่นเต้นเหมือนเดิม
  • เล่นต่อแม้จะเสีย พยายาม “แก้มือ” หรือ “เอาคืน” แม้รู้ว่าอาจเสียมากกว่าเดิม
  • หงุดหงิดเมื่อหยุดเล่นไม่ได้ มีอารมณ์ฉุนเฉียว เครียด หรือซึมเศร้าเมื่อไม่ได้เล่น
  • โกหกหรือปกปิดคนใกล้ตัว ไม่บอกความจริงเรื่องการเล่นพนัน หรือซ่อนค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง
  • ใช้การพนันเป็นทางหนีปัญหา เล่นพนันเมื่อรู้สึกเครียด เหงา หรือมีปัญหาส่วนตัว
  • กระทบชีวิตประจำวัน เสียงาน เสียความสัมพันธ์ หรือมีปัญหาทางการเงินจากการพนัน

สาเหตุหลักที่ทำให้เลิกเล่นพนันไม่ได้

  1. พฤติกรรมเสพติดแบบซ่อนเร้น (Hidden Addiction) ผู้เล่นหลายคนไม่รู้ตัวว่าตนเอง “ติด” เพราะไม่มีอาการทางกายเหมือนการติดยา แต่กลับมีพฤติกรรมหมกมุ่น คิดถึงแต่การพนัน และเล่นซ้ำแม้จะตั้งใจเลิกแล้วหลายครั้ง
  2. สมองติดรางวัลกับการพนัน (Dopamine Loop สมองหลั่งสารอะไร เวลาชนะพนัน ? คำตอบคือ “โดพามีน” ซึ่งเป็นสารแห่งความสุข ที่ทำให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนได้รับรางวัลใหญ่ แม้จะเป็นเงินจำนวนน้อยก็ตาม ทำให้รู้สึกตื่นเต้น และพึงพอใจชั่วขณะ สมองจะจดจำความรู้สึกนี้ และเรียกร้องให้กลับไปเล่นอีกครั้ง
  3. หวังจะได้คืน เล่นต่อเพราะเชื่อว่าครั้งหน้าจะแก้มือได้ ความหวังนี้ทำให้เล่นต่อเรื่อย ๆ จนกลายเป็นหนี้สะสม และยิ่งเล่นยิ่งถลำลึก (1 มิถุนายน 2025) [2]
  4. สิ่งแวดล้อมชักนำ การเห็นคนรอบตัวเล่นพนัน หรือได้รับการชักชวนจากเพื่อน และโฆษณาในโซเชียล ทำให้รู้สึกว่า “ไม่ผิด” หรือ “ใคร ๆ ก็เล่น” สิ่งแวดล้อมที่เอื้อให้เล่นซ้ำ จึงกลายเป็นตัวกระตุ้นสำคัญ ที่ทำให้เลิกได้ยาก

วิธีสังเกตว่าตนเองหรือคนใกล้ตัว “ติดพนัน”

  • เล่นพนันมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ความพึงพอใจลดลง
  • กระวนกระวายใจ เมื่อหยุดเล่นไม่ได้
  • พยายามเลิกหลายครั้ง แต่ไม่สำเร็จ
  • หมกมุ่นกับการพนัน คิดถึงแต่การเล่น หรือเอาคืน
  • เล่นพนันเพื่อหนีความเครียด หรืออารมณ์ลบ
  • โกหกหรือปกปิดเรื่องเงิน และเวลาที่ใช้ไปกับการพนัน
  • เสียงาน เสียความสัมพันธ์ หรือมีปัญหาทางการเงิน
  • ขอยืมเงิน หรือพึ่งพาคนอื่น เพื่อใช้หนี้พนัน

ที่มา: “โรคติดพนัน” กรมสุขภาพจิต ชี้สามารถเกิดได้ในทุกเพศทุกวัย แนะ 10 วิธีเช็กอาการ (20 พฤษภาคม 2025) [3]

ผลกระทบจากการเลิกเล่นพนันไม่ได้

1. ผลกระทบทางการเงินและหนี้สิน

  • ใช้เงินเกินตัวจนเกิดหนี้สะสม
  • ขายทรัพย์สิน ยืมเงิน หรือกู้จากแหล่งที่ไม่ปลอดภัย
  • บางรายถึงขั้นกระทำผิดกฎหมายเพื่อหาเงินใช้หนี้

2. ผลกระทบต่อความสัมพันธ์และสุขภาพจิต

  • เกิดความขัดแย้งในครอบครัวจากการโกหกหรือปกปิด
  • ความเครียด วิตกกังวล และภาวะซึมเศร้าอาจตามมา
  • สูญเสียความเชื่อมั่นจากคนรอบข้างและสังคม

3. ผลกระทบต่อการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวัน

  • ขาดสมาธิในการทำงานหรือเรียน
  • ละเลยหน้าที่หรือใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการพนัน
  • เสี่ยงตกงานหรือเสียโอกาสในชีวิตจากพฤติกรรมซ้ำซ้อน

แนวทางการเลิกเล่นพนัน

ทำไมบางคน เลิกเล่นพนันไม่ได้

1. วิธีจัดการพฤติกรรมเสี่ยงด้วยตนเอง

  • ตั้งเป้าหมายชัดเจนว่าจะหยุดเล่น และจดบันทึกพฤติกรรมทุกครั้งที่รู้สึกอยากเล่น
  • หลีกเลี่ยงสถานการณ์หรือสิ่งกระตุ้น เช่น แอปพนัน โฆษณา หรือเพื่อนที่ชวนเล่น
  • ใช้เทคนิคเบี่ยงเบน เช่น ออกกำลังกาย ทำงานอดิเรก หรือฝึกสมาธิ

2. การขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญหรือสายด่วน

  • ปรึกษานักจิตวิทยา หรือเข้ารับการบำบัดพฤติกรรมเสพติด
  • ใช้บริการสายด่วนสุขภาพจิต 1323 เพื่อพูดคุยและรับคำแนะนำฟรี
  • เข้าร่วมกลุ่มสนับสนุน เช่น กลุ่มเลิกพนัน หรือกลุ่มฟื้นฟูพฤติกรรม

3. การเปลี่ยนกิจกรรมและสิ่งแวดล้อมเพื่อเบี่ยงเบนพฤติกรรม

  • เปลี่ยนกิจวัตรประจำวันให้มีเป้าหมายใหม่ เช่น เรียนรู้ทักษะใหม่หรือทำงานเสริม
  • ใช้เวลาร่วมกับคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการพนัน
  • ปรับสภาพแวดล้อม เช่น ลบแอปพนัน ออกจากกลุ่มที่ชวนเล่น และจัดพื้นที่บ้านให้สงบ

สรุป ทำไมบางคน เลิกเล่นพนันไม่ได้ เพราะยิ่งเล่น ยิ่งลึก

สรุปแล้ว ทำไมบางคน เลิกเล่นพนันไม่ได้ เพราะสมองจดจำความสุขจากการชนะ และเรียกร้องให้เล่นซ้ำ พฤติกรรมเสพติดแฝงตัวในชีวิตประจำวันโดยไม่รู้ตัว สิ่งแวดล้อมและความหวังว่าจะ “ได้คืน” ยิ่งทำให้หลุดออกมายากขึ้น ยิ่งเล่น ยิ่งถลำลึก ยิ่งยากจะถอนตัว อย่ารอให้สูญเสียทุกอย่าง ก่อนจะยอมรับว่าตนเอง “ติด” จริง ๆ

ทำไมการพนันถึงทำให้คน “ติด” ได้ง่าย?

เพราะการพนันกระตุ้นสมองให้หลั่ง “โดพามีน” ซึ่งเป็นสารแห่งความสุขที่เกี่ยวข้องกับระบบรางวัลในสมอง เมื่อผู้เล่นชนะหรือเกือบชนะ สมองจะจดจำความรู้สึกดีนั้นไว้ และเรียกร้องให้กลับไปเล่นอีกครั้ง เพื่อสัมผัสความรู้สึกเดิม แม้จะรู้ว่ามีความเสี่ยง หรือเคยเสียเงินมาก่อนก็ตาม

ถ้าอยากเลิก ต้องเริ่มจากตรงไหน?

เริ่มจากยอมรับว่าตนเองมีปัญหา และหยุดหาเหตุผลเข้าข้างตัวเอง หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น เช่น แอปพนันหรือเพื่อนที่ชวนเล่น ขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ และเปลี่ยนกิจวัตรให้ห่างจากการพนัน

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง

บทความที่น่าสนใจ