
ประโยชน์ บาสเกตบอล ช่วยเสริมความแข็งแรงของร่างกายจริงหรือไม่ แล้วการทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมทีม จะช่วยฝึกสมาธิ และความอดทนได้อย่างไร ก่อนจะหาคำตอบเหล่านี้ ลองมาทำความรู้จัก ที่มาของกีฬาบาสเกตบอลกันก่อน
กีฬาบาสเกตบอล (Basketball) ถือกำเนิดขึ้นในปี ค.ศ. 1891 ที่เมืองสปริงฟิลด์ รัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา โดย เจมส์ ไนสมิท (James Naismith) ครูพลศึกษาชาวแคนาดา เขาต้องการคิดค้นกีฬาในร่ม ที่สามารถเล่นได้ ในช่วงฤดูหนาว และช่วยให้นักเรียน ได้ออกกำลังกาย (14 กรกฎาคม 2025) [1]
โดยไม่รุนแรงเกินไป เหมือนกีฬาฟุตบอล หรือรักบี้ ไนสมิทจึงได้นำ ตะกร้าลูกพีช มาติดไว้บนผนัง ทั้งสองฝั่งของโรงยิม และใช้ ลูกฟุตบอล เป็นอุปกรณ์ในการเล่น พร้อมตั้งกติกาง่ายๆ 13 ข้อ ซึ่งต่อมาก็กลาย เป็นต้นแบบ ของกติกาบาสเกตบอลสมัยใหม่
แม้ในช่วงแรก จะยังไม่มีการตัดรู ที่ก้นตะกร้า ทำให้ทุกครั้งที่มีการทำคะแนน ต้องมีคนใช้บันได ปีนขึ้นไปเก็บลูกบอลลงมา แต่ด้วยความสนุก และความแปลกใหม่ของเกม ทำให้บาสเกตบอล ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ถูกเผยแพร่ไปยังสถาบัน YMCA หลายแห่งทั่วอเมริกา และขยายไปยังประเทศอื่นๆ ภายในเวลาไม่นาน
บาสเกตบอลเริ่มเข้าสู่ประเทศไทย ในช่วงปลายสมัยรัชกาลที่ 6 ต่อเนื่องมาถึงต้นรัชกาลที่ 7 โดยเข้ามาพร้อมกับ ระบบการศึกษาแบบตะวันตก และกิจกรรมพลศึกษา ที่ถูกนำเข้ามาใช้ ในโรงเรียนสมัยใหม่ หลายแหล่งเชื่อว่า
กีฬาอย่างบาสเกตบอล ได้รับการเผยแพร่ ผ่านครูชาวต่างชาติ และมิชชันนารี ที่เข้ามาสอนในโรงเรียน รวมถึงองค์กรอย่าง YMCA ซึ่งมีบทบาทสำคัญ ในการแนะนำกีฬาประเภทใหม่ๆ ให้กับเยาวชนไทยในยุคนั้น
ช่วงแรก บาสเกตบอลยังคงเป็นกิจกรรมเฉพาะกลุ่ม มักเล่นกันในโรงเรียน หรือสถาบันที่มีสนามรองรับ เช่น โรงเรียนสตรี และโรงเรียนคาทอลิก เนื่องจากเป็นกีฬาที่ใช้การเคลื่อนไหว ไม่รุนแรงมาก จึงได้รับความนิยม ในกลุ่มนักเรียนหญิง ไม่น้อยไปกว่านักเรียนชาย
เมื่อบาสเกตบอล เริ่มได้รับความนิยม มากขึ้นในประเทศไทย ทั้งในระดับโรงเรียน มหาวิทยาลัย และหน่วยงานต่างๆ จึงเกิดความต้องการ ที่จะ รวบรวมการแข่งขัน ให้อยู่ภายใต้กติกา ที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน เพราะในช่วงแรก หลายแห่ง อาจมีกติกา หรือรูปแบบการเล่น ที่แตกต่างกัน ไปตามความเข้าใจ ของแต่ละพื้นที่
เพื่อให้การแข่งขัน สามารถดำเนินไปอย่างยุติธรรม และเป็นระบบ จึงจำเป็นต้องมี องค์กรกลาง ที่ทำหน้าที่วางกติกา กำกับดูแล และจัดการแข่งขัน อย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ การมีสมาคมยังช่วยให้ประเทศไทย สามารถส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันในระดับนานาชาติ ได้อย่างถูกต้อง
เพราะองค์กรกีฬาสากล เช่น FIBA หรือคณะกรรมการโอลิมปิก จะรับรองเฉพาะประเทศที่มีสมาคม อย่างเป็นทางการเท่านั้น อีกหนึ่งเหตุผลสำคัญคือการ พัฒนาบุคลากรด้านกีฬา ไม่ว่าจะเป็น นักกีฬา ผู้ตัดสิน หรือโค้ช ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการฝึกอบรม ตามมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ (18 มกราคม 2022) [3]
บาสเกตบอลเป็นกีฬาที่ แข่งขันกันระหว่าง 2 ทีม ทีมละ 5 คนในสนาม โดยมีเป้าหมายหลักคือ ทำคะแนนให้ได้มากกว่าคู่ต่อสู้ ด้วยการนำลูกบาส โยนลงห่วงของฝ่ายตรงข้าม
ระยะเวลาแข่งขัน
หากผู้เล่นคนใด ฟาวล์ครบ 5 ครั้ง จะถูก ตัดออกจากเกม
ทางด้านร่างกาย บาสเกตบอลช่วยเสริมความแข็งแรง ของกล้ามเนื้อทุกส่วน โดยเฉพาะกล้ามเนื้อขา แขน และแกนกลางลำตัว การวิ่งเลี้ยงลูก การกระโดดชู้ต หรือการป้องกันคู่ต่อสู้ ทำให้ผู้เล่นมี ความคล่องตัว ความอดทนสูงขึ้น นอกจากนี้ การเคลื่อนไหวต่อเนื่องยังช่วย เผาผลาญพลังงานและลดน้ำหนัก ได้อีกด้วย
ทางด้านจิตใจ การเล่นบาสเกตบอลต้องใช้ สมาธิ การตัดสินใจอย่างรวดเร็ว และการวางแผนในการเล่นเป็นทีม การทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมทีม ช่วยพัฒนาทักษะ การสื่อสาร ความอดทน และการควบคุมอารมณ์ ในสถานการณ์กดดัน ทำให้ผู้เล่นมีความมั่นใจ และความคิดเชิงกลยุทธ์มากขึ้น เช่นเดียวกับ วอลเลย์บอล เพื่อสุขภาพไหม
สรุป ประโยชน์ บาสเกตบอล ไม่เพียงช่วยให้ร่างกายแข็งแรง แต่ยังเสริมสร้าง สมอง ใจ และทักษะการเข้าสังคม ทำให้เป็นกีฬาที่เหมาะกับทุกวัย และสามารถพัฒนาได้อย่างต่อเนื่อง
โดยผู้เล่นต้องโฟกัสกับลูกบอล และตำแหน่งของเพื่อนร่วมทีม อยู่ตลอดเวลา การตัดสินใจส่ง หรือชู้ตอย่างรวดเร็ว เสริมความสามารถ ในการคิดวิเคราะห์แบบทันที และการวางแผนรับมือคู่ต่อสู้ ช่วยพัฒนาการควบคุมอารมณ์ และสมาธิในสถานการณ์กดดัน
ช่วยให้การแข่งขันเป็นธรรม และปลอดภัย สำหรับผู้เล่นทุกคน กติกาช่วยควบคุมการเคลื่อนไหว การเล่นให้เป็นระบบ ลดความขัดแย้งระหว่างทีม และยังทำให้เกมสามารถวัดผลคะแนน เป็นมาตรฐานสากล