

ประโยชน์ วอลเลย์บอล กีฬาที่ต้องใช้ความเร็ว ความคล่องตัว การทำงานเป็นทีม จะช่วยพัฒนาร่างกาย และจิตใจของเราได้อย่างไร แล้วประโยชน์จริงๆ ของการเล่นวอลเลย์บอลมีอะไรบ้าง
กีฬาวอลเลย์บอล (Volleyball) เป็นกีฬาที่เล่นกันเป็นทีม ทีมละ 6 คน โดยมีเป้าหมายหลักคือการตีลูกบอลให้ข้ามตาข่าย ไปตกในแดนของฝ่ายตรงข้าม โดยไม่ให้ลูกตกในแดนของตนเอง วอลเลย์บอลถือเป็นกีฬา ที่ใช้ทั้งความเร็ว ความแม่นยำ การสื่อสาร และการทำงานเป็นทีมอย่างสูง
กีฬานี้ถูกคิดค้นขึ้นในปี ค.ศ. 1895 โดย วิลเลียม จี. มอร์แกน (William G. Morgan) ชาวอเมริกัน ซึ่งเดิมตั้งชื่อว่า “มินโทเนตต์” (Mintonette) ก่อนจะถูกเปลี่ยนชื่อเป็น “Volleyball” เนื่องจากลักษณะของการเล่น ที่ต้องตีลูกบอล ลอยข้ามตาข่ายไปมา
หลังจากที่ วิลเลียม จี. มอร์แกน คิดค้นกีฬาวอลเลย์บอลขึ้นในปี ค.ศ. 1895 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา กีฬานี้ก็เริ่มได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในหมู่คนทั่วไป เพราะเล่นได้ทั้งในร่มและกลางแจ้ง ใช้อุปกรณ์ไม่มาก และเหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย
ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 วอลเลย์บอลเริ่มแพร่หลาย ออกไปยังประเทศอื่นๆ ผ่านทางสมาคม YMCA (Young Men’s Christian Association) ซึ่งเป็นองค์กรที่มีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่กีฬาไปทั่วโลก โดยเฉพาะในทวีปเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ และจีน ที่รับเอากีฬานี้ไปพัฒนา และจัดการแข่งขันกันเอง
กีฬาวอลเลย์บอลเริ่มเข้ามา ในประเทศไทยราวปี พ.ศ. 2470 (ค.ศ. 1927) โดยมีการเผยแพร่ผ่านทาง สมาคม YMCA (Young Men’s Christian Association) เช่นเดียวกับหลายประเทศในเอเชียในช่วงนั้น ซึ่งเป็นช่วงที่กีฬาตะวันตก เริ่มเข้ามามีอิทธิพลในสังคมไทย
ในระยะแรก วอลเลย์บอลถูกใช้เป็นกิจกรรมออกกำลังกายใน โรงเรียนและหน่วยงานราชการ เพราะเป็นกีฬาที่เล่นได้ทั้งชายและหญิง ไม่ต้องใช้อุปกรณ์มาก และช่วยส่งเสริมความสามัคคีในหมู่ผู้เล่น จึงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ต่อมาในปี พ.ศ. 2500 (ค.ศ. 1957) ได้มีการก่อตั้ง สมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย เพื่อดูแลและพัฒนากีฬานี้อย่างเป็นทางการ ทั้งในระดับสมัครเล่นและอาชีพ จากนั้นประเทศไทย ก็เริ่มส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันระดับนานาชาติ และประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะทีมวอลเลย์บอลหญิง ที่กลายเป็นตัวแทนสร้างชื่อเสียงให้ประเทศในเวทีโลก

กีฬาวอลเลย์บอล มีรูปแบบการเล่นที่ชัดเจนและเป็นระบบ โดยแบ่งผู้เล่นออกเป็น 2 ทีม ทีมละ 6 คน แต่ละทีมจะต้องพยายามตีลูกบอลให้ข้ามตาข่ายไปตกในแดนของฝ่ายตรงข้าม และป้องกันไม่ให้ลูกตกในแดนของตนเอง โดยใช้ทักษะหลักคือ เสิร์ฟ (Serve), รับ (Receive), เซต (Set), ตบ (Spike), บล็อก (Block) และ ขุด (Dig)
การเล่นจะเริ่มจากการเสิร์ฟลูก จากหลังเส้นให้ข้ามตาข่ายไปยังอีกฝั่ง หากลูกตกในแดนของฝ่ายตรงข้าม ฝ่ายเสิร์ฟจะได้คะแนน และได้เสิร์ฟต่อไป แต่ถ้าฝ่ายรับสามารถรับลูกและโต้กลับได้จนฝ่ายตรงข้ามพลาด ก็จะได้สิทธิ์ในการเสิร์ฟแทน
การแข่งขันวอลเลย์บอลใช้ระบบ “ชนะ 3 ใน 5 เซต” (Best of Five Sets) หมายความว่าทีมใดสามารถชนะได้ก่อนครบ 3 เซต จะเป็นผู้ชนะการแข่งขันทันที โดยแต่ละเซตจะนับคะแนนดังนี้
ทุกเซตต้องมีผลต่างคะแนน อย่างน้อย 2 คะแนน เช่น 25 – 23 หรือ 16 – 14 หากคะแนนเท่ากัน จะต้องเล่นต่อจนกว่า จะมีทีมที่นำห่าง 2 คะแนน
ในการเก็บคะแนนระหว่างแข่งขัน ใช้ระบบที่เรียกว่า Rally Point System คือไม่ว่าทีมใดจะเป็นฝ่ายเสิร์ฟหรือรับ หากฝ่ายใดทำลูกตก ในแดนของคู่ต่อสู้ หรือคู่ต่อสู้ทำผิดกติกา ทีมนั้น จะได้คะแนนทันที และได้สิทธิ์เสิร์ฟต่อ
สรุป ประโยชน์ วอลเลย์บอล โดยรวมแล้ว วอลเลย์บอลเป็นกีฬาที่เหมาะกับคนทุกวัย เพราะให้ทั้งสุขภาพ ความสนุก และทักษะชีวิตในเวลาเดียวกัน
การหมุนตำแหน่งในวอลเลย์บอล จะเกิดขึ้นเมื่อทีมเป็นฝ่าย ได้คะแนนจากการรับเสิร์ฟสำเร็จ ผู้เล่นทุกคน ต้องหมุนตำแหน่ง ตามเข็มนาฬิกา เพื่อให้ทุกคนได้สลับตำแหน่งเสิร์ฟ และเล่นในทุกจุดของสนาม การหมุนตำแหน่งนี้ ช่วยให้เกมมีความยุติธรรม เพิ่มความท้าทายให้กับผู้เล่นทุกคน
ในการเล่นวอลเลย์บอล การบล็อกลูกสามารถทำได้พร้อมกันสูงสุด 3 คน โดยผู้เล่นที่อยู่แนวหน้า เป็นผู้มีสิทธิ์กระโดดขึ้น บล็อกหน้าตาข่าย การบล็อกเป็นเทคนิคสำคัญ ในการป้องกันการตบของฝ่ายตรงข้าม และยังช่วยสร้างแรงกดดันให้ผู้เล่น ฝั่งตรงข้ามต้องปรับจังหวะการรุกอีกด้วย


