
ปูเยติ ลักษณะ สิ่งมีชีวิตชนิดนี้ ไม่ได้อยู่รอดด้วยวิธีการ แบบปูทั่วไป แต่ได้ปรับตัวเข้ากับ สภาพแวดล้อมสุดขั้ว ได้อย่างน่าอัศจรรย์ แล้วกลไกการเอาตัวรอด ของมันคืออะไร และมันใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างไร ในสภาพแวดล้อม ที่โหดร้ายเช่นนี้
ปูเยติ (Kiwa hirsuta) เป็นปูชนิดแปลก ที่ถูกค้นพบในทะเลลึก แถบมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ ห่างจากเกาะอีสเตอร์ประมาณ 1,500 กิโลเมตร ในเขตน่านน้ำของประเทศชิลี การค้นพบครั้งนี้ เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 2005 โดยบังเอิญ เมื่อเรือดำน้ำสำรวจทะเลลึก ลงไปที่ระดับความลึก ประมาณ 2,200 เมตร (7,200 ฟุต) และพบตัวปูแปลก ที่เกาะอยู่ตามรอยแยก บนพื้นทะเล (30 มีนาคม 2023) [1]
แบคทีเรียเหล่านี้ ถูกเชื่อว่า เป็นพันธมิตรทางชีวภาพ (symbiotic bacteria) ที่ช่วยปูเยติในหลายๆ ด้าน หนึ่งในบทบาทหลักคือ การช่วยกรอง หรือย่อยสลายสารพิษ ในน้ำทะเลลึก ทำให้ปูเยติ สามารถอยู่ในสภาพแวดล้อม ที่มีสารเคมีอันตราย เช่น ก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ได้ โดยไม่เป็นอันตราย
นอกจากนี้ แบคทีเรีย ยังอาจทำหน้าที่ เป็นแหล่งอาหารให้กับปูเยติด้วย โดยปูเยติใช้กรงเล็บ ที่มีขนเก็บแบคทีเรียเหล่านี้ แล้วนำมาเป็นอาหาร ในรูปแบบที่เรียกว่า “การกินแบคทีเรีย” ด้วยความสัมพันธ์ ที่แน่นแฟ้นนี้ ระหว่างปูเยติกับแบคทีเรีย จึงเป็นตัวอย่างที่ชัดเจน ของความร่วมมือ ในธรรมชาติ ที่ทั้งสองฝ่าย ได้รับประโยชน์ร่วมกัน
แบคทีเรียได้รับที่อยู่อาศัย ที่ปลอดภัยบนขน ของปูเยติ ส่วนปูเยติได้รับการปกป้อง จากสารพิษ และแหล่งอาหารที่สำคัญ ช่วยให้มันสามารถอยู่รอด ในระบบนิเวศ ที่รุนแรงของทะเลลึก ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยั่งยืนมากขึ้นเรื่อยๆ
วงจรชีวิตของปูเยติ เป็นเรื่องที่ยังมีการศึกษา ค้นคว้าอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมันเป็นสัตว์ทะเลลึก ที่พบได้ในสภาพแวดล้อมที่เข้าถึงยาก แต่จากข้อมูลที่มีอยู่ พบว่า ปูเยติมีวงจรชีวิตคล้ายคลึง กับปูชนิดอื่นๆ ในกลุ่มครัสเตเชียน โดยเริ่มต้นจากไข่ ที่แม่ปูวางไว้ ในบริเวณที่เหมาะสม ใกล้กับพื้นทะเลลึก (30 มีนาคม 2020) [3]
เมื่อไข่ฟักออกมา ตัวอ่อนของปูเยติ จะมีลักษณะเป็นแพลงตอนิก (larvae) ที่ลอยอยู่ในน้ำ เพื่อใช้ชีวิต และเจริญเติบโตในช่วงแรกนี้ ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงที่อ่อนแอ และต้องเผชิญ กับสภาพแวดล้อม ที่รุนแรงในทะเลลึก ในระยะตัวอ่อนนี้ ปูเยติจะค่อยๆ เปลี่ยนรูปร่าง ผ่านกระบวนการลอกคราบ และฤดูกาลที่สัมพันธ์กับพฤติกรรมปูเยติ
เริ่มเก็บตั้งแต่ ช่วงปี 2006–2008 เป็นต้นมา จากการสำรวจซ้ำ ในพื้นที่เดิม – พื้นที่ใกล้เคียงในทะเลลึก จึงพัฒนาไปสู่ระยะ ที่เรียกว่า ตัวอ่อนลักษณะครัสเตเชียน ที่คล้ายปูตัวเต็มวัยมากขึ้น เมื่อเติบโตขึ้น ตัวปูจะเริ่มเคลื่อนที่ ใกล้บริเวณช่อง ระบายความร้อนใต้ทะเล ที่เป็นที่อยู่อาศัยหลักของมัน และเริ่มพัฒนาขน ที่กรงเล็บ ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะตัว
ในปัจจุบัน ยังไม่มีข้อมูลวิจัย หรือการสำรวจ ที่ระบุเป็นตัวเลข หรือร้อยละที่ชัดเจน เกี่ยวกับการพบปูเยติในธรรมชาติ เพราะมันเป็นสัตว์ทะเลลึก ที่พบในพื้นที่จำกัด และการเก็บข้อมูลจากทะเลลึกนั้น ทำได้ยาก ต้องใช้เวลานานมาก
ถ้าจะประมาณอย่างคร่าวๆ จากรายงาน การสำรวจสิ่งมีชีวิต ในช่องระบายความร้อนใต้ทะเล โดยทั่วไป ปูเยติถือเป็นสัตว์ที่พบ น้อยกว่า 1% ของประชากรปูทั้งหมด ในพื้นที่นั้นๆ ซึ่งเป็นการคาดการณ์ โดยอิงจากความถี่การพบ ในงานวิจัยต่างๆ ที่เน้นสัตว์ทะเลลึก เช่นเดียวกับ บล็อบฟิช กินได้ไหม
สรุป ปูเยติ ลักษณะ มีขนปกคลุมกรงเล็บ ซึ่งมีแบคทีเรีย ช่วยกรองสารพิษ และเป็นอาหาร ชีวิตและการสืบพันธุ์ ยังศึกษาน้อย พบได้น้อยมากในธรรมชาติ และไม่เหมาะนำมารับประทาน เนื่องจากความหายากขาดข้อมูลความปลอดภัย
อาจรวมถึงสัตว์นักล่าขนาดใหญ่ เช่น ปลาทะเลลึก ปลาหมึกยักษ์ และสัตว์จำพวกปลาไหลทะเลลึก ที่สามารถเข้าถึงบริเวณช่อง ระบายความร้อนใต้ทะเล นอกจากนี้ ยังอาจถูกคุกคาม จากสัตว์นักล่าขนาดเล็กหรือปรสิตที่เกาะอาศัย
หาอาหารโดยอาศัยแบคทีเรีย ที่เติบโตบนขนกรงเล็บ ซึ่งสามารถสังเคราะห์ สารอาหารจากสารเคมี ในน้ำทะเลลึก จากนั้นปูเยติจะเก็บ และกินแบคทีเรียเหล่านี้ เป็นอาหารหลัก แต่ก็อาจกินสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก หรือเศษซากอินทรีย์ ที่ลอยมาจากส่วนอื่น ของทะเล เพื่อเสริมพลังงาน