Link

ผักผลไม้ตามฤดูกาล มีดีอย่างไร เคล็ดลับให้ได้ประโยชน์

ผักผลไม้ตามฤดูกาล มีดีอย่างไร

ผักผลไม้ตามฤดูกาล มีดีอย่างไร หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าการเลือกกินผักผลไม้ที่เหมาะกับช่วงฤดูกาล ไม่เพียงช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ยังดีต่อสุขภาพในหลายด้านอย่างไม่น่าเชื่อ ด้วยความสดใหม่ รสชาติที่อร่อย และคุณค่าทางโภชนาการที่สูงกว่า ผักผลไม้ตามฤดูกาล จึงกลายเป็นตัวเลือกที่ควรมีติดบ้านอยู่เสมอ

  • ประโยชน์ของผักและผลไม้
  • ผักและผลไม้ตามฤดู มีอะไรบ้าง
  • ผักและผลไม้ช่วยเรื่องอะไรบ้าง

ผักผลไม้ประโยชน์ทางโภชนาการที่มากกว่า

เมื่อเลือกบริโภค ผักผลไม้ คุณจะได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่ เพราะผักผลไม้ในฤดูจะเจริญเติบโตตามธรรมชาติ ไม่ต้องใช้สารเร่งการเจริญเติบโตหรือสารเคมีมากนัก นั่นหมายถึงความสดและคุณภาพที่ดีกว่าอาหารนอกฤดูอย่างชัดเจน

อีกทั้งในช่วงเวลาที่เหมาะสม ผักผลไม้จะสะสมวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระได้สูง ทำให้การบริโภคในฤดูกาลเป็นทางเลือกที่ดีต่อร่างกาย ช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน และป้องกันโรคต่าง ๆ ได้มากขึ้น
เมื่อคุณเลือกกินผักผลไม้ให้เหมาะกับฤดูกาล คุณจะได้ความคุ้มค่าทั้งในด้านโภชนาการและคุณภาพ

ผักผลไม้ฤดูร้อน มีดีอย่างไร

ฤดูร้อนเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับผักผลไม้ที่มีน้ำมาก ตัวอย่าง แตงโม มะม่วง และแตงกวา ซึ่งช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ร่างกาย และมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง อาหารเหล่านี้ยังช่วยลดอุณหภูมิร่างกายและป้องกันภาวะขาดน้ำได้ดี โดยเฉพาะในวันที่อากาศร้อนจัด การเลือกทานให้เหมาะจึงช่วยให้ร่างกายสมดุลขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ผักผลไม้ฤดูฝน กับภูมิคุ้มกันร่างกาย

ฤดูฝนมักมาพร้อมกับโรคต่าง ๆ การกินผักผลไม้ ตัวอย่าง มะนาว ฝรั่ง หรือผักบุ้ง จึงช่วยเสริมวิตามินซีและสารต้านโรคได้ดี ร่างกายจะได้รับการฟื้นฟูจากสารอาหารที่เป็นธรรมชาติ พร้อมรับมือกับเชื้อโรคที่มักระบาดในช่วงหน้าฝนอย่างได้ผล

ผักผลไม้ฤดูหนาว มีดีอย่างไร

เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว พืชผักและผลไม้หลายชนิดจะเจริญเติบโตได้ดีตามสภาพอากาศที่เย็นลง ซึ่งทำให้ได้ผลผลิตที่สด กรอบ และมีรสชาติเข้มข้นยิ่งขึ้น ตัวอย่าง ผักคะน้า บรอกโคลี แครอท ส้ม และสตรอว์เบอร์รี ล้วนเป็นพืชที่นิยมปลูกในช่วงนี้ และอุดมด้วยวิตามินซี เบตาแคโรทีน และสารต้านอนุมูลอิสระสูง

นอกจากจะมีรสชาติดีแล้ว ผักผลไม้ในฤดูหนาวยังช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายต้านหวัดและโรคที่มักเกิดขึ้นในช่วงอากาศเย็น การรับประทานผักยังทำให้ได้สารอาหารอย่างครบถ้วนตามธรรมชาติ ลดการใช้สารเคมีหรือการเก็บรักษานาน ซึ่งอาจส่งผลต่อคุณภาพของอาหารได้

ที่สำคัญ ผักผลไม้ฤดูหนาวมักมีราคาย่อมเยาและหาซื้อได้ง่ายในท้องถิ่น ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและยังสนับสนุนเกษตรกรไทยอีกทางหนึ่ง การเลือกบริโภคอาหารตามฤดูกาลจึงเป็นทั้งทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพและยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว

รสชาติผักผลไม้ตามฤดูกาลและความสดที่เหนือกว่า

สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือรสชาติ ผลไม้ตามฤดูกาล จะมีความหอม หวาน กรอบ หรือฉ่ำแบบธรรมชาติ ซึ่งหาไม่ได้จากผักผลไม้ที่ปลูกนอกฤดูที่อาจมีรสจืดหรือไม่เต็มที่ ความสดของวัตถุดิบยังทำให้อาหารจานโปรดของคุณมีรสชาติดีขึ้น เหมาะกับการนำไปประกอบอาหารหลากหลายเมนู

การรับประทานผักผลไม้ที่อร่อยตามธรรมชาติยังช่วยลดการเติมน้ำตาลหรือปรุงแต่งรส ทำให้การดูแลสุขภาพกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นอีกขั้น

รสชาติของผลไม้ฤดูหนาว

ผลไม้อย่างส้ม สตรอว์เบอร์รี่ และแอปเปิลที่ออกผลในฤดูหนาว มักมีรสชาติหวานอมเปรี้ยวสดชื่น ช่วยกระตุ้นความอยากอาหารได้ดี ผลไม้เหล่านี้ยังมีใยอาหารสูงและช่วยระบบขับถ่ายให้ทำงานได้ราบรื่นในช่วงอากาศเย็นที่มักทำให้ระบบย่อยอาหารถดถอย

ผักสดจากไร่แบบออร์แกนิก

การเก็บเกี่ยวผักในฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นผักสลัด คะน้า หรือผักชีลาว จะได้คุณภาพสดใหม่จากไร่โดยตรง และไม่ต้องเดินทางไกล นั่นหมายความว่าคุณจะได้ผักที่ยังคงความสดอยู่เสมอ พร้อมกลิ่นหอมและรสชาติที่เป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง

ผักผลไม้ช่วยประหยัดและช่วยโลกยังไง

ผักผลไม้ตามฤดูกาล มีดีอย่างไร

การเลือกกิน ผักผลไม้ตามฤดูกาล ไม่เพียงช่วยลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน เพราะผลผลิตมีมาก ราคาจึงถูกลง แต่ยังช่วยลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์จากการขนส่งพืชผักข้ามฤดูกาลหรือข้ามประเทศ เป็นทางเลือกที่ดีต่อโลก เพราะสนับสนุนการเกษตรในพื้นที่ และลดการใช้พลังงานในการควบคุมสภาพอากาศของการปลูกนอกฤดูกาล

  1. ช่วยประหยัดเงิน
    ราคาถูกกว่าของแปรรูปหรือเนื้อสัตว์ ผักผลไม้ (โดยเฉพาะตามฤดูกาล) มักมีราคาย่อมเยากว่าอาหารแปรรูปหรือเนื้อสัตว์
    ลดค่ารักษาพยาบาลระยะยาว การกินผักผลไม้ช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง อาทิ เบาหวาน ความดัน หัวใจ ทำให้ประหยัดค่ารักษาในระยะยาว
    เก็บและปลูกเองได้ ถ้าปลูกผักสวนครัวเอง อาทิ กะเพรา โหระพา มะนาว จะช่วยประหยัดค่าวัตถุดิบในครัวเรือน
  2. ช่วยโลกและสิ่งแวดล้อม
    ปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อย การผลิตผักผลไม้ปล่อยคาร์บอนน้อยกว่าการเลี้ยงสัตว์ อาทิ วัว หรือหมู ซึ่งปล่อยมีเทนมาก
    ใช้ทรัพยากรน้อย การปลูกผักใช้น้ำน้อยกว่าเลี้ยงสัตว์ อาทิ การผลิตเนื้อวัว 1 กก. ใช้น้ำ ~15,000 ลิตร แต่ผักบางชนิดใช้น้ำเพียงหลักร้อยลิตร
    ลดขยะพลาสติก ถ้าเลือกซื้อผักผลไม้แบบไม่บรรจุหีบห่อพลาสติก ก็ช่วยลดขยะพลาสติกได้มาก
    สนับสนุนเกษตรอินทรีย์/ท้องถิ่น ผักผลไม้จากตลาดท้องถิ่นหรือแบบอินทรีย์ ช่วยลดการขนส่ง ลดมลพิษ และส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน

ผักผลไม้ท้องถิ่นในราคาย่อมเยา

ผักผลไม้ท้องถิ่นเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการความสดใหม่ ปลอดภัย และราคาไม่แพง เนื่องจากเป็นผลผลิตที่ปลูกในพื้นที่ใกล้เคียง ไม่ต้องผ่านกระบวนการขนส่งไกลหรือเก็บรักษานาน จึงมีต้นทุนต่ำและสามารถจำหน่ายในราคาย่อมเยาได้ อีกทั้งยังช่วยให้เกษตรกรในชุมชนมีรายได้อย่างยั่งยืน

ตัวอย่างผักท้องถิ่นที่นิยมในหลายพื้นที่ ตัวอย่าง ตำลึง ผักบุ้ง ผักหวาน ยอดฟักทอง หรือแม้แต่ผลไม้พื้นบ้านอย่างกล้วย มะละกอ ฝรั่ง และมะม่วง ที่สามารถปลูกได้ง่ายตามฤดูกาล ราคาจับต้องได้ และนำไปปรุงอาหารหรือกินเล่นได้หลากหลายรูปแบบ

การเลือกซื้อผักผลไม้ท้องถิ่นไม่เพียงช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน แต่ยังเป็นการสนับสนุนเศรษฐกิจฐานราก และลดการพึ่งพาอาหารจากแหล่งไกล ซึ่งส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมในภาพรวมอีกด้วย

การทานผักผลไม้ ลดขยะอาหารได้จริงหรือไม่

การกินตามฤดูกาลช่วยลดของเสีย เพราะผักผลไม้ที่สดจะเก็บไว้ได้นานกว่าและไม่เน่าง่าย ลดการทิ้งอาหารโดยไม่จำเป็น เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทั้งดีต่อสิ่งแวดล้อมและช่วยลดภาระงานบ้านจากการจัดการขยะอินทรีย์

ผักผลไม้ตามฤดูกาล มีอะไรบ้าง

ผักผลไม้ฤดูร้อน (เดือนกุมภาพันธ์ – เดือนพฤษภาคม)
ในฤดูร้อนที่มีอากาศร้อนจัด เราจะได้พบกับผักผลไม้ที่มีความสดชื่นและรสชาติหวานฉ่ำ เช่น ตะลิงปลิง แตงกวา ผักกาดเขียวปลี ผักกาดขาว ผักโขม พริกยักษ์ มะเขือเทศ มะดัน และมะระ ที่จะช่วยให้ร่างกายเย็นลงและช่วยเพิ่มความสดชื่น [1]

ผักผลไม้ฤดูฝน (เดือนมิถุนายน – เดือนกันยายน)
ในช่วงฤดูฝนที่อากาศชื้นและมีฝนตกบ่อย พืชผักที่เติบโตได้ดีมักเป็นพืชที่ชอบน้ำหรือขึ้นได้ดีในสภาพดินชุ่ม เช่น ขิง ข่า ยอดตำลึง ข่าอ่อน ผักกะเฉด สะตอ มะนาว ดอกขจร ผักแว่น และชะพลู ที่ล้วนเป็นผักพื้นบ้านรสชาติดี มีสรรพคุณทางยา และอุดมด้วยสารอาหารหลากชนิด ผลไม้เช่น สับปะรด มะเฟือง กล้วย เป็นต้น [2]

ผักผลไม้ฤดูหนาว (เดือนตุลาคม – เดือนมกราคม)
เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาวที่อากาศเย็นสบาย พืชผักหลายชนิดจะเจริญเติบโตได้ดีและให้ผลผลิตที่สดกรอบน่ารับประทาน เช่น ใบบัวหลวง สันตะวา กระจับอ่อน ถั่วพู ผักบุ้ง ผักกะเฉด บอน มะระ เห็ดตับเต่า คูน และส้มซ่า ผลไม้ ยกตัวอย่างเช่น พุทรามะละกอ ลูกพลับ สับปะรด สตรอว์เบอร์รีชมพู่ แอปเปิล [3]

บทสรุป ผักผลไม้ตามฤดูกาล มีดีอย่างไรบ้าง

บทสรุป ผักผลไม้ตามฤดูกาล เป็นทางเลือกที่ทั้งดีต่อสุขภาพ ดีต่อสิ่งแวดล้อม และดีต่อเศรษฐกิจชุมชน ช่วยให้เราได้รับสารอาหารครบถ้วน ประหยัดงบประมาณ และลดผลกระทบต่อโลกได้จริง เริ่มต้นง่าย ๆ แค่เปิดใจให้กับพืชผักผลไม้ที่อยู่ใกล้ตัว แล้วคุณจะรู้ว่าความอร่อยและคุณค่าที่แท้จริงนั้นไม่ต้องไปไกลเลย

ผักผลไม้ตามฤดูกาล มีดีอย่างไร และกินช่วงไหน

แต่ละฤดูกาลก็มีของดีแตกต่างกัน เช่น ฤดูร้อนเหมาะกับผลไม้ฉ่ำน้ำอย่าง แตงโม มะม่วง และสับปะรด ส่วนฤดูฝนจะมีผักใบเขียวอย่างผักบุ้ง ผักกาดขาว และเห็ดหลากชนิด สำหรับฤดูหนาว ผักผลไม้ที่นิยมได้แก่ แครอท ส้ม บรอกโคลี และสตรอว์เบอร์รี ซึ่งช่วยเสริมภูมิคุ้มกันในช่วงอากาศเย็นได้ดี

ผักผลไม้ตามฤดูกาล หาซื้อที่ไหน

การหาซื้อผักผลไม้ตามฤดูกาลในปัจจุบันทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นตลาดสดใกล้บ้าน ตลาดนัดเกษตรกร หรือซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป ที่มักจัดโซนสินค้าเกษตรตามฤดูกาลไว้ให้เลือกอย่างชัดเจน โดยเฉพาะตลาดสด จะมีพืชผักผลไม้จากเกษตรกรท้องถิ่นนำมาจำหน่ายในราคาที่เข้าถึงได้

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง