ฟิตบอล ประโยชน์ ที่ซ่อนอยู่ภายในลูกยางกลมๆ

ฟิตบอล ประโยชน์

ลูกบอลกลมๆ เล็กๆ อย่าง ฟิตบอล ประโยชน์ จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง และสมดุลได้อย่างไร ทำไมการนั่ง นอน หรือวางมือบนลูกบอลธรรมดาๆ ถึงสามารถเปลี่ยน ทั้งกล้ามเนื้อ และอารมณ์ของเราได้ บทความนี้มีคำตอบ

  • ออกกำลังกายฟิตบอล คืออะไร?
  • เพราะอะไร ฟิตบอลจึงมีประโยชน์ต่อร่างกาย?
  • ควรใช้ฟิตบอลกี่นาที/ต่อชั่วโมง?

การออกกำลังกายฟิตบอล คืออะไร

คือรูปแบบการออกกำลังกาย ที่ใช้ลูกบอลยางขนาดใหญ่ เป็นอุปกรณ์หลัก โดยผู้ฝึก จะใช้ลูกบอล เป็นฐานในการนั่ง นอน หรือวางมือและเท้า จากนั้นทำท่าต่างๆ เพื่อฝึกทั้งความแข็งแรง ของกล้ามเนื้อ แกนกลางลำตัว (Core) ความยืดหยุ่น และความสมดุลของร่างกาย (5 สิงหาคม 2025) [1]

ริเริ่มใช้ฟิตบอล ตั้งแต่ตอนไหน ?

ฟิตบอลริเริ่มใช้ครั้งแรก ในช่วงทศวรรษ 1960 โดยถูกพัฒนาโดยแพทย์ และนักกายภาพบำบัด ชาวสวิสและอิตาลี เพื่อใช้ในการฟื้นฟูร่างกาย รักษาอาการปวดหลัง ในช่วงแรกถูกเรียกว่า “Swiss Ball” หรือ “Gym Ball” เนื่องจากเริ่มต้นผลิต และนิยมใช้ในสวิตเซอร์แลนด์ (26 พฤษภาคม 2023) [2]

ต่อมาในช่วงปี 1980–1990 ฟิตบอลเริ่มเข้ามา ในวงการฟิตเนสทั่วไป และมีการปรับปรุงวัสดุให้แข็งแรง ทนทานมากขึ้น ทำให้ผู้ฝึก สามารถใช้ฟิตบอล ในบ้าน ฟิตเนส หรือโปรแกรมออกกำลังกาย แบบกลุ่มได้ เช่นเดียวกับ บอดี้เวท คืออะไร

ฟิตบอลมีประโยชน์ ต่อร่างกายอย่างไร ?

  • เพิ่มความสมดุล การประสานงานของร่างกาย : ร่างกายต้องคอยปรับสมดุล บนพื้นผิวไม่มั่นคง ทำให้ระบบประสาท และกล้ามเนื้อ ทำงานร่วมกันได้ดี
  • ยืดหยุ่นและคลายกล้ามเนื้อ : หลายท่าฝึกบนฟิตบอล ช่วยยืดเหยียดกล้ามเนื้อหลัง ไหล่ และขา ลดความตึงเครียด
  • กระตุ้นการเผาผลาญ และความฟิตโดยรวม : การฝึกฟิตบอลบางท่า เป็นแบบคาร์ดิโอเบาๆ ทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น เผาผลาญแคลอรี และเพิ่มความคล่องตัว
  • เหมาะกับทุกวัย ปรับระดับได้ : ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ หรือผู้ฝึกขั้นสูง สามารถปรับท่า – เวลาฝึก ให้เหมาะสมกับร่างกายได้

ท่าออกกำลังกายพื้นฐาน ด้วยฟิตบอล

ฟิตบอล ประโยชน์

ก่อนจะเริ่มลงมือฝึก ด้วยฟิตบอล เรามาลองคิดดูว่า ทำไมลูกบอลกลมๆ เล็กๆ ถึงช่วยให้ร่างกาย แข็งแรงขึ้นได้ ซึ่งจะมีท่าอะไรบ้าง สามารถศึกษาได้ 

  • Sit-up : บนฟิตบอล (เริ่มเป็นที่นิยมในช่วงปี 1990) เพราะนั่งบนลูกบอล แล้วค่อยๆ เอนหลัง ลงจนหลังส่วนกลาง และล่างสัมผัสลูกบอล เกร็งหน้าท้อง แล้วดันตัวขึ้นกลับมานั่งตรง
  • Wall Squat : กับฟิตบอล วางลูกบอลระหว่าง หลังกับกำแพง ย่อตัวลง เหมือนทำสควอต โดยให้เข่างอ ประมาณ 90 องศา
  • Plank : มือบนฟิตบอล วางมือบนลูกบอล แล้วทำท่าแพลงก์ตัวตรง เกร็งหน้าท้อง และหลังให้ตัวตรง
  • Bridge (สะพาน) : บนฟิตบอล นอนหงาย วางส้นเท้าบนลูกบอล ดันสะโพกขึ้นจนลำตัว เป็นเส้นตรง จากหัวถึงเข่า 
  • Back Extension : บนฟิตบอล คว่ำหน้าลงบนลูกบอล วางมือไว้ข้างหูหรืออก ยกตัวขึ้นช้าๆ แล้วค่อยๆ ลดลง (17 มกราคม 2024) [3]

ใช้ฟิตบอลออกกำลังกาย ควรใช้กี่นาที/ต่อชั่วโมง ?

  • มือใหม่ : เริ่มต้น 15 – 20 นาทีต่อครั้ง ทำ 3 – 4 ครั้งต่อสัปดาห์ เน้นท่าพื้นฐาน เพื่อปรับสมดุล และกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว
  • ระดับกลาง – ขั้นสูง : สามารถทำ 20 – 40 นาทีต่อครั้ง ทำ 4 – 5 ครั้งต่อสัปดาห์ รวมท่าหลากหลาย ทั้งเสริมกล้ามเนื้อหน้าท้อง หลัง ขา สะโพก
  • เคล็ดลับ : หากรวมฟิตบอล เข้ากับการออกกำลังกาย ประเภทอื่น เช่น คาร์ดิโอ หรือยกน้ำหนัก สามารถฝึก 10 –15 นาทีเป็นส่วนเสริม

ทำไมเล่นฟิตบอล ช่วยผ่อนคลายทางด้านอารมณ์ ?

การเล่นฟิตบอล ไม่ใช่เพียงแค่ การออกกำลังกาย เพื่อสร้างความแข็งแรง ของร่างกายเท่านั้น แต่ยังมีผลดีต่อสภาพจิตใจ และอารมณ์อีกด้วย เพราะเมื่อคุณนั่ง นอน หรือวางมือ และเท้าบนลูกบอล ร่างกายจะต้องโฟกัส กับการทรงตัว และการเคลื่อนไหว ทำให้สมองถูกเบี่ยงเบน จากความคิดกังวล หรือความเครียด

นอกจากนี้ การเคลื่อนไหวบนฟิตบอล มักควบคู่กับการหายใจ เข้าลึก – ออกยาว ซึ่งช่วยกระตุ้นระบบ พาราซิมพาเทติก ทำให้ร่างกาย รู้สึกผ่อนคลาย สงบลง การออกกำลังกายชนิดนี้ ยังช่วยให้ร่างกาย ปล่อยสารเอ็นดอร์ฟิน หรือสารแห่งความสุข ทำให้อารมณ์ดีขึ้นได้ 

สรุป ฟิตบอล ประโยชน์

สรุป ฟิตบอล ประโยชน์ ช่วยเสริมความแข็งแรง ปรับบุคลิกภาพ ลดอาการปวดหลัง และกระตุ้นการเผาผลาญแคลอรี ยังช่วยผ่อนคลายอารมณ์ ลดความเครียด ด้วยการโฟกัสการทรงตัว และกระตุ้นสารเอ็นดอร์ฟินในร่างกาย

ฟิตบอลเหมาะกับใครบ้าง ?

ฟิตบอลเหมาะกับทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่ผู้เริ่มต้นจน ถึงผู้ที่มีประสบการณ์ออกกำลังกาย โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการ เสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ

ฟิตบอลช่วยลดอาการปวดหลัง ได้จริงไหม ?

ฟิตบอลช่วยลดอาการปวดหลังได้จริง เพราะการฝึกบนลูกบอล จะเสริมกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว (Core) ซึ่งช่วยพยุงกระดูกสันหลัง และปรับบุคลิกภาพ

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง