พามา รู้จัก กบบูลฟร็อก กบยักษ์ที่ใหญ่ที่สุด ในอเมริกาเหนือ

รู้จัก กบบูลฟร็อก

รู้จัก กบบูลฟร็อก หรือ กบอเมริกันบูลฟร็อก เป็นกบขนาดใหญ่ ที่ผู้คนส่วนมากนิยมเลี้ยงไว้ เพื่อส่งออกไปขาย เป็นอาหาร แต่ในบางท่าน ที่ชื่นชอบความแปลกของเสียง กบชนิดนี้ ก็มักจะเลี้ยงไว้ เพื่อเป็นสัตว์เลี้ยง เช่นกัน โดยเจ้ากบตัวนี้ ถือเป็นสัตว์เลี้ยง ที่เลี้ยงง่าย เพราะแข็งแรง และไม่ค่อยเจ็บป่วย

  • ข้อมูลของกบบูลฟร็อก
  • วิธีการเลี้ยงลูกของกบบูลฟร็อก
  • อาหารที่เหมาะกับกบบูลฟร็อก

รู้จัก กบบูลฟร็อก สัตว์แปลกที่ผู้คนนิยมเลี้ยง

กบบูลฟร็อก หรือ กบอเมริกันบูลฟร็อก (American bullfrog) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Lithobates catesbeianus เป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ ที่อยู่ในวงศ์ของกบนา (Ranidae) กบชนิดนี้ เป็นกบที่มีกลาง ค่อนไปทางขนาดใหญ่ ในกบที่โตเต็มที่ มีน้ำหนักที่มากกว่า 1 กิโลกรัม และมีขนาดความยาวถึง 8 นิ้ว

กบชนิดนี้ มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาเหนือ ประเทศสหรัฐอเมริกา ในพื้นที่ทางตะวันออก แต่ต่อมาผู้คนได้มีการนำไปเลี้ยง จึงทำให้กบแพร่กระจาย ไปจนถึง ฝั่งตะวันตก ของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งกบอเมริกันบลูฟร็อก จัดได้ว่าเป็นสัตว์เศรษฐกิจ เพราะว่าได้มีการเพาะพันธุ์ขาย เพื่อที่จะใช้เนื้อ ในการบริโภค ในหลาย ๆ ประเทศ

ทางด้านของประเทศไทย มีการนำเข้ามาเพาะเลี้ยง เป็นเวลานานแล้ว แต่เนื่องจากว่า มีกบบางส่วนได้หลุด ออกไปสู่ธรรมชาติ และได้ผสมพันธุ์ข้ามสายพันธุ์ กับกบที่ในพื้นเมือง จึงทำให้กบบูลฟร็อก หรือ กบอเมริกันบูลฟร็อก ที่เจอในประเทศไทยส่วนมาก เสียสายพันธุ์ดั้งเดิมไป

ที่มา: กบอเมริกันบูลฟร็อก [1]

ลักษณะของกบอเมริกันบูลฟร็อก เป็นแบบไหน

กบบูลฟร็อก หรือ กบอเมริกันบูลฟร็อก ต้องบอกว่า เมื่อโตเต็มที่ด้านหลังของกบ จะมีสีเขียว ปนกับสีน้ำตาลเข้ม และจะมีจุดประสีน้ำตาลทั่วทั้งตัว ส่วนหน้าของกบ จะมีสีเขียว และขาจะเป็นเหมือนลายพราง พาดขวางทั้งสองข้าง โดยกบชนิดนี้ จะแยกเพศได้ โดยการสังเกตจากหู คือ หากกบตัวไหนมีวงหูที่เล็กกว่าตา

กบตัวนั้น คือ กบตัวเมีย เพราะกบตัวเมีย มักจะมีวงหูเล็กกว่าตา ส่วนกบตัวผู้จะมีวงหูใหญ่กว่าตา นอกจากนี้ลำตัว ตั้งแต่ใต้คางลงไปของกบชนิดนี้ ลำตัวจะมีสีอ่อน และใต้คางจะเป็นสีขาวครีม ส่วนท้องจะอูม และมีขนาดใหญ่

ในช่วงฤดูสืบพันธุ์ กบชนิดนี้ลำตัวจะมีสีที่เข้มขึ้น และใต้คางจะเป็นสีเหลือง หรือบางทีอาจเหลืองปนเขียว กบชนิดนี้จะไม่มีถุงเสียง แต่จะมีกล่องเสียง ที่สามารถส่งเสียงร้องได้ไกล และเนื่องจากเสียงร้อง ของกบชนิดนี้ มีเสียงที่คล้ายกับวัว นี่จึงเป็นที่มาของชื่อ Bullfrog

ที่มา: กบอเมริกันบูลฟร็อก [2]

พฤติกรรมตามธรรมชาติ ของเจ้ากบบูลฟร็อก

เจ้ากบบูลฟร็อก เป็นสัตว์ที่ไม่ค่อยชอบ ที่จะเคลื่อนไหวร่างกาย ทำให้เรามักจะเห็นพวกมัน นั่งอยู่เฉย ๆ เป็นส่วนใหญ่ โดยการเลี้ยงกบชนิดนี้ ไม่ควรเลี้ยงกบที่เป็นตัวผู้ไว้รวมกัน เพราะกบตัวผู้มักจะก้าวร้าว และหวงอาณาเขต โดยกบชนิดนี้ ตัวผู้จะคอยดูแล และปกป้องลูกอ๊อด แต่ในบางครั้ง กบตัวผู้ก็อาจกินลูกอ๊อดเข้าไปด้วย [3]

วิธีการการเพาะพันธุ์ เจ้ากบอเมริกันบูลฟร็อก

รู้จัก กบบูลฟร็อก

เจ้ากบอเมริกันบูลฟร็อก สามารถเพาะพันธุ์ได้ง่าย เพราะสามารถเพาะพันธุ์ได้ โดยใช้วิธีเลียนแบบธรรมชาติ คือ การนำพ่อพันธุ์ และแม่พันธุ์ มาเลี้ยงและปรับสภาพบ่อเลี้ยง ให้เหมือนกับธรรมชาติมากที่สุด โดยภายในบ่อ จะต้องทำเป็นสวนหย่อม ที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติ และทำบ่อน้ำที่สามารถถ่ายเทน้ำได้สะดวก

และที่สำคัญ จะต้องทำความสะอาดง่ายด้วย โดยช่วงที่กบอเมริกันบูลฟร็อกผสมพันธุ์ ส่วนมากจะเป็นช่วงฤดูร้อน โดยเราจะได้ยินเสียงเจ้ากบตัวผู้ ร้องเรียกหากบตัวเมีย โดยการใช้วิธีพองลมที่ลำคอ เราจึงมักจะได้ยินเสียงเจ้ากบชนิดนี้ เสียงคล้ายกับเสียงร้องของวัว

วิธีการเลี้ยงลูกอ๊อดของ เจ้ากบอเมริกันบูลฟร็อก

หลังจากที่เจ้ากบอเมริกันบูลฟร็อก ฟักออกจากไข่ ได้ประมาณ 5-7 วัน ให้เรานำลูกอ๊อด ไปใส่ในบ่อซีเมนต์ ควรใส่บ่อซีเมนต์ ที่มีระบบน้ำสะอาด ไหลผ่านตลอดเวลา โดยระดับความลึก ควรลึกประมาณ 10-15 เซนติเมตร และให้ผงปลาแห้ง หรือผงอาหารสำเร็จรูป และผักกาดขาวต้มสุก เป็นอาหาร

อาหารที่เหมาะกับกบอเมริกันบูลฟร็อก หากเลี้ยงแค่ตัวเดียว

เนื่องจากกบอเมริกันบูลฟร็อก เป็นกบที่มีขนาดใหญ่ พวกมันจึงมักจะกินทุกอย่าง ที่เอาข้าปากได้ ไม่ว่าจะเป็นแมลง กบที่มีขนาดเล็กกว่า สัตว์ฟันแทะขนาดเล็ก หรือสัตว์ปีกก็ตาม ซึ่งอาหารที่ดีต่อสุขภาพกบชนิดนี้ ที่หาได้ง่าย ได้แก่ จิ้งหรีด, ไส้เดือน, แมลงต่าง ๆ และปลาตัวเล็ก เช่น ปลาหางนกยูง

ส่วนอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง ในการให้กบชนิดนี้ คือ เนื้อสัตว์ใหญ่ เช่น ไก่ และเนื้อวัว เป็นต้น เพราะเนื้อสัตว์ประเภทนี้ ไม่ได้ให้คุณค่าทางโภชนาการ กับกบเท่าที่ควร ที่สำคัญ พวกสัตว์ฟันแทะขนาดเล็ก เช่น หนู ก็ควรที่จะให้ เป็นรางวัลเพียงเท่านั้น ไม่ควรให้เป็นอาหารหลัก

ปัญหาด้านสุขภาพ ที่มักจะเกิดกับกบอเมริกันบูลฟร็อก

แม้ว่ากบอเมริกันบูลฟร็อก จะเป็นกบที่แข็งแรง แต่เจ้ากบชนิดนี้ ก็อาจเสี่ยงติดโรคได้เช่นกัน หากเราไม่ได้ดูแลเอาใจใส่นัก โดยปัญหาที่มักจะเจอ กับกบอเมริกันบูลฟร็อก คือ การติดเชื้อแบคทีเรีย การติดเชื้อรา ปรสิตในลำไส้ และพิษแอมโมเนีย เพราะฉะนั้นควรที่จะดูแล และหมั่นทำความสะอาดตู้กบอยู่เสมอ

รู้จัก กบบูลฟร็อก กับบทสรุป

รู้จัก กบบูลฟร็อก

สรุป กบบูลฟร็อก เป็นกบที่มีขนาดใหญ่ โดยตัวที่โตเต็มวัย มีน้ำหนักที่มากกว่า 1 กิโลกรัม และยังมีความยาว ถึง 8 นิ้วด้วยกัน กบชนิดนี้จะมี ลักษณะที่แตกต่างจากกบตัวอื่น คือ กบชนิดนี้จะมีวงหูใกล้ตา โดยตัวเมียจะมีวงหู ที่เล็กกว่าตัวผู้ ที่สำคัญผู้คนยังนิยมเลี้ยงไว้เพื่อเป็นอาหาร และสัตว์เลี้ยงสุดแปลกอีกด้วย

กบอะไรเป็นกบที่ใหญ่ ที่สุดในโลก ใหญ่กว่ากบอเมริกันบูลฟร็อก

กบที่ใหญ่ ที่สุดในโลก คือ กบโกไลแอท โดยกบโกไลแอท ถือว่าเป็นกบ ที่มีขนาดใหญ่ ที่สุดในโลก เพราะแค่ไซซ์ปกติ ก็อยู่ที่ประมาณ 27-30 เซนติเมตร และตัวที่ได้บันทึกไว้ว่า ใหญ่ที่สุดในโลก นั้นมีขนาดถึง 35 เซนติเมตรเลยทีเดียว

มีกบสายพันธุ์ไหน ที่เชื่องหรือไม่

สำหรับกบที่เชื่อง และน่าเลี้ยงที่สุด ขอแนะนำ กบแคระแอฟริกัน เป็นกบน้ำ ที่มีขนาดเล็ก น่ารัก มีสีสันสวยงาม และที่สำคัญยังเชื่องอีกด้วย โดยกบชนิดนี้ ผู้คนส่วนมากนิยมเลี้ยง เหมือนกับปลาสวยงาม เพราะกบชนิดนี้ ใช้ชีวิตอยู่ในน้ำ จะโผล่ขึ้นน้ำมาแค่ดูเหยื่อ เพื่อจับเหยื่อเป็นอาหารเท่านั้น

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง