
รู้จัก ด้วงกว่าง หรือแมงกว่าง เป็นหนึ่งในด้วง สุดยอดนักสู้ ที่ได้สมญานามว่า ราชันนักสู้แห่งผืนป่า เพราะด้วงกว่าง มีเขา และปีก ที่แข็งแรงมาก จึงทำให้ผู้คน หลงใหลในความสวยงาม ของวิถีชีวิต การต่อสู้ และรูปร่างของมัน จึงทำให้มัน เป็นหนึ่งในสัตว์ Exotic ที่ใครหลาย ๆ คน ให้ความสนใจ
ด้วงกว่าง เป็นแมลงในวงศ์ย่อย Dynastinae (ด้วงแรด) อยู่ในอันดับ Coleoptera (แมลงปีกแข็ง) มีสายพันธุ์ต่าง ๆ มากกว่า 1,500 ชนิด ซึ่งในบางพื้นที่ มักจะเรียกว่า แมงกว่าง, แมงกวาง และแมงคาม แล้วแต่พื้นที่ ด้วงกว่างนั้น เป็นแมลงปีกแข็ง ที่แตกต่างกับแมลงปีกแข็งพวกอื่น ๆ
เพราะว่าในด้วงกว่าง ตัวผู้นั้น จะมีขนาดที่ใหญ่ และมีปีกที่แข็ง หุ้มอยู่ด้านบน เหมือนกับใส่ชุดเกาะ ซึ่งด้วงกว่างมีทั้งสีดำ สีน้ำตาล และสีทอง แล้วแต่ชนิด และสายพันธุ์ จุดเด่นของด้วงกว่าง คือ จะมีเขา 1 คู่ อยู่ด้านบน และด้านล่างของหัว ซึ่งจะมีขนาดสั้น หรือยาว ก็จะแตกต่างกันไป ตามแต่ละชนิด และสายพันธุ์
ส่วนในด้วงกว่าง ตัวเมียนั้นจะไม่มีเขา และจะมีขนาดที่เล็กกว่าตัวผู้ อย่างเห็นได้ชัด หรือในตัวเมียบางตัว ที่มีเขา เขาก็จะสั้น และเล็กกว่าตัวผู้มาก นอกจากนี้ ด้วงกว่างยังใช้เขา ในการต่อสู้ ทั้งการต่อสู้ เพื่อป้องกันตัว และแย่งตัวเมีย เพื่อผสมพันธุ์ ซึ่งเขาที่มีความแข็งแรงมากนั้น จึงทำให้ได้ชื่อว่า ราชันนักสู้แห่งผืนป่า
ที่มา: ด้วงกว่าง [1]
สำหรับด้วงกว่างสายพันธุ์ ที่ได้รับความนิยม มากที่สุดในไทย มีอยู่ 5 สายพันธุ์ด้วยกัน ได้แก่ ด้วงกว่างโซ้ง, ด้วงกว่างเฮอร์คิวลิส, ด้วงกว่างมูชิคิง, ด้วงกว่างซาง และด้วงกว่างญี่ปุ่น (ด้วงแรดญี่ปุ่น) ด้วงทั้ง 5 สายพันธุ์นี้ ถือเป็นด้วงที่ได้รับความนิยม เป็นอย่างมาก ทั้งในไทย และต่างประเทศเลยทีเดียว
อาทิเช่น ด้วงกว่างโซ้ง (Siamese rhinoceros beetle) เป็นด้วงกว่างที่เป็นที่รู้จัก และนิยมเลี้ยงกันอย่างแพร่หลาย ทั้งในไทย และต่างประเทศ หรือด้วงกว่างเฮอร์คิวลิส (Hercules beetle) ที่เรียกได้ว่าเป็นด้วงกว่างยักษ์ ก็เป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ในต่างประเทศ และได้ถูกนำเข้ามาเลี้ยงในไทย เมื่อไม่นานมานี้เอง
ซึ่งวันนี้ ขอนำเสนอ เจ้าด้วงกว่างโซ้ง (Siamese rhinoceros beetle) เพราะว่าด้วงชนิดนี้ เป็นด้วงสายพันธุ์ไทย ที่นิยมกันอย่างมาก และยังเป็นด้วง ที่รู้จักกันดี ในประเทศไทย อีกด้วย
ข้อมูลของด้วงกว่างโซ้ง:
ที่มา: ด้วงกว่างชน [2]
สำหรับด้วงกว่าง อย่างเช่น ด้วงกว่างโซ้งนั้น เป็นด้วงที่มีอยู่ในประเทศไทย มีเยอะในบริเวณภาคเหนือ และภาคอีสาน เป็นส่วนใหญ่ หากอยากจะเลี้ยง สามารถหาซื้อ หรือตามจับด้วงกว่าง ที่มักจะอยู่ตามต้นไม้ใหญ่ เช่น ต้นคาม หรือไปจับในช่วงเช้ามืด ก็ได้เช่นกัน เพราะด้วงกว่าง มักจะชอบบินมาเล่นไฟ ตามชานบ้าน
และท้องถนน ในแถบชนบท ซึ่งวิธีการเลี้ยงคือ เราสามารถหาผลไม้ ที่มีรสชาติหวาน มาให้ด้วงกว่างกินได้ เพราะด้วงกว่างนั้น เป็นสัตว์ที่ชอบกิน ผลไม้รสหวาน เช่น กล้วย มะละกอ สับปะรด หรือหากมีอ้อย ก็สามารถให้อ้อยได้ เช่นกัน ซึ่งด้วงกว่างนั้น ถือว่าเป็นสัตว์ที่มีอายุสั้น ในช่วงปลายฤดูของด้วงกว่าง
ผู้คนส่วนใหญ่ ที่จับด้วงมาเลี้ยง จึงมักจะปล่อยด้วง กลับคืนสู่ธรรมชาติ ในช่วงเดือนตุลาคม เพื่อให้ด้วงกว่างนั้น ไม่สูญพันธุ์ และในบางท่าน ที่ชอบสะสมด้วงกว่าง ก็จะมีการเก็บซากของด้วงกว่าง ที่ตายแล้ว มาเป็นของสะสม เพื่อความสวยงาม เช่นกัน
ที่มา: ขั้นตอนการเลี้ยงด้วงกว่าง [3]
ที่มาของสมญานาม ราชันนักสู้แห่งผืนป่า ของด้วงกว่างนั้น มาจากการต่อสู้ เพื่อป้องกันตัว และเพื่อแย่งชิงตัวเมีย ในช่วงฤดูผสมพันธุ์ ซึ่งผู้คน ที่นิยมเลี้ยงด้วงกว่าง เพราะว่าในช่วงนั้น จะมีการแข่งขัน การชนเขากว่าง ซึ่งเป็นการแข่งขัน และการละเล่น ที่มาช้านาน
อาทิเช่น ในภาคเหนือ จะนิยมเล่นชนกว่าง ในช่วงเดือนเดือนสิงหาคม จนถึงเดือนตุลาคม ซึ่งด้วงที่คนเหนือ นิยมนำมาใช้ในการต่อสู้ จะมีด้วงกว่างโซ้ง ด้วงกว่างรัก ด้วงกว่างรักน้ำปู๋ และด้วงกว่างรักน้ำใส เป็นต้น นอกจากนี้ทางภาคเหนือ ของประเทศไทย ยังมีการนิยมนำด้วงกว่างมาสตัฟฟ์ เพื่อเป็นของสะสมอีกด้วย
สรุป รู้จัก ด้วงกว่าง เจ้าด้วงกว่าง หรือแมลงกว่างนั้น จริง ๆ แล้ว ไม่ใช่แมลงธรรมดา เหมือนแมลงทั่วไป แต่เป็นแมลง ที่ได้รับความนิยม และยังเป็นสัญลักษณ์ ของความแข็งแกร่ง ของพละกำลัง อีกด้วย ซึ่งใครที่กำลังกังวลใจ อยากเลี้ยงสัตว์แปลก ลองดูเจ้าด้วงกว่าง ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน
ใช่แล้ว แม้ว่าเจ้าด้วงกว่างนั้น จะไม่มีเหมือนมนุษย์ หรือสัตว์ชนิดอื่น ๆ แต่เจ้าด้วงกว่างนั้น สามารถรับรู้ แรงสั่นสะเทือนได้ โดยการจับเสียงกระทบ หรือแรงสั่นสะเทือน ผ่านทางขน และลำตัวของมัน
อาหารที่ด้วงกว่างนั้น ชื่นชอบมากที่สุด คือ กล้วยน้ำว้า เพราะว่าด้วงกว่างนั้น เป็นสัตว์ที่มักจะกิน ผลไม้รสหวาน เป็นอาหาร จึงทำให้กล้วยน้ำว้า ที่มีรสชาติหวานนั้น ถือเป็นผลไม้ที่ด้วงกว่าง ชอบกินมากที่สุด เพราะนอกจากจะหวานแล้ว ยังย่อยง่าย น้ำตาลสูง และกลิ่นหอมสุด ๆ