
รู้จัก เต่าญี่ปุ่น เต่าญี่ปุ่น หรือเต่าแก้มแดง เป็นเต่าน้ำจืด ที่มีอายุยืน สามารถอยู่กับมนุษย์ได้ถึง 30 ปี นอกจากนี้ เต่าสายพันธุ์นี้ยังราคาถูก และหาเลี้ยงง่ายอีกด้วย สาเหตุที่ทำให้เต่าสายพันธุ์นี้ได้รับความนิยม เพราะว่าหน้าตาที่น่ารัก ตัวและกระดองสีเขียว กับแก้มสีแดงสุดจะน่ารักน่าชัง
เต่าญี่ปุ่น หรือ เต่าแก้มแดง เป็นเต่าน้ำจืดที่จัดเป็นชนิด T. scripta ชนิดย่อยของเต่าแก้มแดง มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Trachemys scripta elegans มีถิ่นกำเนิดเดิมอยู่ที่ทวีปอเมริกาเหนือ ในพื้นที่ชุ่มน้ำแถบรัฐอิลลินอย, แม่น้ำมิสซิสซิปปี [1]
เหตุผลที่ได้ชื่อว่า เต่าญี่ปุ่น เพราะว่าในอดีตผู้ที่ได้นำเต่าญี่ปุ่น เข้ามาขายในไทยเป็นพ่อค้าชาวญี่ปุ่น โดยในสมัยนั้น เต่าญี่ปุ่นส่วนมากที่นำเข้ามาในประเทศไทย ไม่ได้นำเข้ามาเพื่อเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยง แต่นำเข้ามาเพื่อรับประทานเป็นอาหาร โดยความเชื่อของชาวญี่ปุ่นที่ว่า หากทานเต่าญี่ปุ่นจะช่วยให้มีอายุยืนยาว
ตำนานที่โด่งดังเกี่ยวกับเต่าญี่ปุ่น คือ ตำนาน Urashima Tarō เป็นตำนานที่กล่าวว่าได้มีชายหนุ่มคนหนึ่งที่ได้ช่วยเต่าจากการถูกทำร้าย ต่อมาเต่าได้พาเขาไปยังวังใต้ทะเลเพื่อขอบคุณ และเขาได้พบกับเจ้าหญิง Otohime ซึ่งหลังจากที่เขาได้กลับมายังโลกมนุษย์ เขาพบว่าเวลาผ่านไปหลายร้อยปีแล้ว
นอกจากตำนานยังมีความเชื่อเกี่ยวกับพิธีกรรม และโชคลาภอีกด้วย เช่น ในบางเทศกาลที่ญี่ปุ่นเต่าถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของความสงบสุข และการปกป้องจากอันตราย โดยคนญี่ปุ่นจะปล่อยเต่าในช่วงพิธีกรรมเพื่อแสดงถึงการปลดปล่อยและการให้อภัย เป็นต้น หากสนใจอ่านรายละเอียด เกี่ยวกับเรื่องเล่า ตำนาน และความเชื่อของเต่าญี่ปุ่น คลิกอ่านต่อได้ที่ petz.world
ลักษณะทั่วไปของเต่าญี่ปุ่น ที่ผู้คนนิยมเลี้ยง คือ ตอนที่ยังเป็นเต่าแรกเกิด จะเป็นเต่าที่มีกระดองเป็นสีเขียว แต่เมื่อโตขึ้นสีของกระดองจะเปลี่ยนไปเป็นสีดำ เท้าทั้ง 4 ข้างของเต่าจะมีพังผืด เพื่อใช้สำหรับว่ายน้ำ โดยเต่าญี่ปุ่นมีจุดเด่น คือ ข้าง ๆ ดวงตา จะมีแถบสีแดงข้าง ๆ จึงทำให้เต่าชนิดนี้ มีอีกชื่อว่า เต่าแก้มแดง
เต่าชนิดนี้เมื่อโตเต็มที่ จะมีขนาดประมาณ 15-30 ซม. โดยที่ตัวผู้จะมีขนาดที่เล็กกว่าตัวเมียเล็กน้อย โดยเต่าชนิดนี้เป็นเต่าที่สามารถกินได้ทั้งพืชและสัตว์ เต่าชนิดนี้มีอายุขัยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 20- 30 ปี โดยวิธีที่สังเกตตัวผู้กับตัวเมีย คือ ตัวผู้จะมีเล็บเท้าหน้ายาว และหางเรียว ส่วนตัวเมียจะมีเล็บสั้น และหางสั้น [2]
สิ่งที่ควรจะต้องรู้ก่อนเลี้ยงเต่าญี่ปุ่น
สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงขั้นตอนเบื้องต้น ที่หากอยากจะเลี้ยงเต่าต้องมีเท่านั้น เพราะว่าหากเต่าต้องอยู่ในตู้เลี้ยงที่ สกปรก ได้กินอาหารที่มีคุณภาพต่ำ หรืออยู่ในพื้นที่ที่ ไม่เหมาะสม อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา เช่น โรคตาติดเชื้อจากแบคทีเรีย กระดองนิ่ม หรือติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ เป็นต้น
ที่มา: ทำความรู้จัก กับ เต่าญี่ปุ่น หรือ เต่าแก้มแดง [3]
เนื่องจากเต่าญี่ปุ่น เป็นสัตว์กินเนื้อเป็นหลัก แต่ก็ยังสามารถกินพืชได้บ้าง อาหารที่เหมาะสำหรับเต่าชนิดนี้ คือ อาหารเม็ดสำเร็จรูปสำหรับเต่าน้ำ เนื้อกุ้งสามารถให้เป็นกุ้งสดหรือกุ้งแห้งก็ได้ เนื้อปลา เนื้อไก่ไม่ติดมัน ไส้เดือนน้ำ หนอนแดง และผักสดบางชนิด เช่น ผักบุ้ง ผักกาดหอม (แต่ควรให้ในปริมาณที่น้อย)
สำหรับอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง และไม่ควรให้เต่าญี่ปุ่นทาน คือ อาหารจำพวกที่มีไขมันสูง เช่น หมู อาหารที่มีการปรุงรส เช่น ข้าวขนมปังต่าง ๆ เป็นต้น และสุดท้ายผักจำพวกผักที่มีออกซาเลตสูง เช่น ผักโขม และกะหล่ำปลี เพราะหากทานอาจทำให้ป่วย และอาจตายได้
สำหรับโรคที่มักพบบ่อยในเต่าญี่ปุ่นมี โรคกระดูกอ่อน (MBD), โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ, โรคกระดองเน่า (Shell Rot), พยาธิและการติดเชื้อภายใน โดยมีสาเหตุมาจาก
สรุป เต่าญี่ปุ่น เป็นเต่าที่มีถิ่นกำเนิดมาจากทวีปอเมริกาเหนือ ในพื้นที่ชุ่มน้ำแถบรัฐอิลลินอย และแม่น้ำมิสซิสซิปปี โดยเต่าญี่ปุ่นจะสามารถกินได้ทั้งพืช และสัตว์ โดยอาหารหลักที่ควรใช้ คือ เนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน นอกจากนี้นิสัยส่วนตัวของเต่าญี่ปุ่น จะเป็นเต่าที่ดุ และไม่ชอบให้คนจับ หากอยากให้เชื่องจะต้องเลี้ยงตั้งแต่เด็ก
ภาชนะที่แนะนำสำหรับการเลี้ยงเต่าญี่ปุ่น คือ ตู้ปลา, อ่างพลาสติกหรือไฟเบอร์กลาส หากใส่น้ำ ความลึกของน้ำควรสูงอย่างน้อย 1.5-2เท่าของความยาวกระดองเต่า และจะต้องมีพื้นที่ว่างระหว่างผิวน้ำถึงขอบบ่อ เพื่อป้องกันเต่าหลุด นอกจากนี้ต้องมีโซนสำหรับอาบแดด และหลบแดด ให้กับเต่าด้วย
นอกจากเต่าญี่ปุ่นแล้ว หากชอบเต่าที่เชื่อง ใจดี และรักสงบ ขอแนะนำ เต่าซูลคาต้า แต่ต้องขอบอกก่อนว่าหากจะเลี้ยง เต่าซูลคาต้า ควรที่จะต้องมีพื้นที่ว่าง เพื่อให้เต่าสามารถเดินเล่นเพื่อออกกำลังกายได้ นอกจากนี้ยังมี เต่าเสือดาว เป็นเต่าอีกสายพันธุ์ที่น่าสนใจเช่นกัน