
รู้จัก เต่าเสือดาว เต่าเสือดาว ถือเป็นเต่าบกที่มีขนาดใหญ่ที่สุด เป็นอันดับที่ 4 ของโลก เป็นรองเพียงเต่ากาลาปากอส, เต่าอัลดาบร้า และ เต่าซูลคาต้า นอกจากนี้ยังเป็นเต่าที่ไม่ดุ นิสัยที่ดี และไม่กัด แต่ในเต่าเสือดาวที่โตเต็มวัย หากเอามือเข้าที่ปาก เต่าจะคิดว่านิ้วมือเป็นอาหาร และอาจจะกัดได้
เต่าเสือดาว (Leopard tortoise) หรือชื่อทางวิทยาศาสตร์ คือ Stigmochelys pardalis จัดเป็นเต่าบกเพียงชนิดเดียว ที่อยู่ในสกุล Stigmochelys นอกจากนี้ยังจัดว่าเป็น เต่าบกที่มีขนาดใหญ่ที่สุด เป็นอันดับที่ 4 ของโลก รองจากเต่ากาลาปากอส, เต่าอัลดาบร้า และ เต่าซูลคาต้า อีกด้วย
โดยเต่าเสือดาว จะแบ่งออกเป็น 2 ชนิดย่อย คือ เต่าเสือดาวธรรมดา และเต่าเสือดาวแอฟริกาใต้ มีลักษณะที่แตกต่างกัน คือ เต่าเสือดาวธรรมดา จะมีลักษณะของกระดอง เป็นลักษณะกลมมนและเป็นโดมสูง ส่วนเต่าเสือดาวแอฟริกาใต้ จะมีลักษณะของกระดอง เป็นลักษณะโดมสูง แต่จะมีความยาวและเป็นทรงรีกว่า
ที่มา: เต่าเสือดาว [1]
เต่าเสือดาว หรือ Leopard tortoise เป็นเต่าบกที่มีขนาดกลาง จนถึงขนาดใหญ่ ที่พบได้ทั่วไปตามแถบสะวันนาตะวันออก และทวีปแอฟริกาตอนใต้ ตั้งแต่ซูดานไปจนถึงแหลมทางตอนใต้สุดของเคปทาวน์ โดยเต่าสายพันธุ์นี้ จะไม่ขุดรังเอาไว้นอน เหมือนเต่าซูลคาต้า แต่จะสร้างรังเฉพาะเวลาที่จะวางไข่เท่านั้น [2]
เต่าเสือดาว เป็นเต่าที่ไม่ดุ ไม่ก้าวร้าว และมีนิสัยที่ดี แต่โดยทั่วไป ถ้าไม่ใช่เต่าเสือดาวที่เลี้ยง ในวัยที่โตเต็มวัย หากเอามือเข้าไปแหย่หรือจับ เต่าจะคิดว่านิ้วมือเป็นอาหาร และอาจจะกัดได้ นอกจากนี้พวกมันไม่ชอบให้ใครจับบ่อย ๆ อีกด้วย เพราะหากจับบ่อย พวกมันรู้สึกว่าถูกคุกคาม
และจะถอยกลับเข้าไปในกระดอง เพื่อป้องกันตัว แต่หากเป็นเต่าที่เลี้ยงตัวแต่เด็กเต่าชนิดนี้จะค่อนข้างเชื่อง นอกจากนี้เต่าเสือดาว ยังแตกต่างจากเต่าบกสายพันธุ์อื่น ๆ อีกด้วย เพราะเต่าเสือดาวจะไม่ค่อยชอบปีนป่าย หรือขุดรู เหมือนกับเต่าบกสายพันธุ์อื่น ๆ
ที่มา: Leopard Tortoise [3]
ต้องบอกก่อนว่า เต่าชนิดนี้ไม่ค่อยเหมาะ สำหรับเจ้าของมือใหม่ เพราะว่าเต่าชนิดนี้จำเป็นที่จะต้องดูแลค่อนข้างมาก เมื่อเทียบกับเต่าชนิดอื่น เพราะเต่าชนิดนี้จะต้องการพื้นที่ที่ค่อนข้างกว้าง และยังต้องอยู่ในอุณหภูมิที่ไม่เย็นจนเกินไป และไม่ร้อนจนเกินไปอีกด้วย อีกทั้งยังต้องการอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนา ที่หลากหลาย
อาหารที่เหมาะสมสำหรับเต่าเสือดาว คือ ผักใบเขียวชนิดต่าง ๆ และหญ้าสด เช่น ผักกาดหอม คะน้า หรือจะเป็นหญ้าทิโมธี หญ้าอัลฟัลฟา เป็นต้น โดยเต่าสายพันธุ์นี้ลูกเต่าสามารถกินอาหารได้เช่นเดียวกับเต่าโต แต่อาจจะต้องหั่นอาหารให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ และหลีกเลี่ยงการให้ผักแข็ง ๆ เช่น แครอท กับลูกเต่าก่อน
สำหรับลูกเต่าเสือดาว อาจจะต้องการสารอาหารมาก เพื่อการเจริญเติบโตเป็นพิเศษ โดยสามารถให้เป็นสลัดมิกซ์ สำหรับลูกเต่า เพื่อโภชนาการที่ดีก็ได้ โดยสลัดมิกซ์ สำหรับลูกเต่า มีสูตรดังนี้
สูตรอาหารนี้เป็นเพียงแนวทาง ที่เหมาะสำหรับลูกเต่าเท่านั้น หากอยากจะทานอาหารอย่างอื่นก็สามารถให้ได้ แต่ควรระวังเรื่องความสมดุลของอาหาร และควรให้อาหารให้เพียงพอจนถึงช่วงกลางคืน เพื่อให้ลูกเต่าตัวเล็กได้รับสารอาหารที่เพียงพอ ที่จะสามารถรักษาจุลินทรีย์ ในระบบทางเดินอาหาร ให้แข็งแรงได้
สรุป เต่าเสือดาว ถือเป็นหนึ่งในสัตว์เลี้ยงที่แสนจะฉลาด นิสัยดี และน่ารัก แต่หากต้องการที่จะเลี้ยง เต่าชนิดนี้ ควรจะต้องมีความรู้ให้มาก หรือเคยเลี้ยงเต่าสายพันธุ์อื่นมาก่อน เพราะเต่าชนิดนี้จะดูแลยากกว่าเต่าสายพันธุ์อื่น ๆ นอกจากนั้นเต่าชนิดนี้อาจราคาสูงเกินไป สำหรับมือใหม่อีกด้วย
เต่าตามความเชื่อผู้คนเชื่อว่า หากเลี้ยงเต่าจะทำให้คนในบ้านนั้น ๆ มีอายุยืนเหมือนเต่า และเชื่อว่าการเลี้ยงเต่า ยังทำให้มีโชคลาภ และความร่ำรวยเข้ามา นอกจากนี้เต่ายังดูแลง่าย และเลี้ยงง่าย จึงทำให้ผู้คนที่ชื่นชอบสัตว์แปลก ในปัจจุบันจึงนิยมเลี้ยงเต่านั่นเอง
นอกจากเต่าแล้วยังมี 1. สุนัข 2. แมว 3. ปลา 4. ไก่ 5. นก 6. โค (วัว) และ 7. กระดิ่งเงิน กระดิ่งทอง เป็นสัตว์ที่ผู้คนเชื่อว่า หากเลี้ยงสัตว์เหล่านี้ได้อย่างดี จะช่วยเรื่องโชคลาภ ร่ำรวยเงินทอง นำพาความมั่งคั่งมาให้ และยังเชื่ออีกว่าจะช่วยเสริมสุขภาพ ให้แข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บอีกด้วย