
รู้จัก แมงป่องช้าง Asian giant forest scorpion เป็นแมงป่องชนิดหนึ่ง ที่ได้ชื่อว่าเป็นเพชฌฆาตยามราตรี เพราะว่ามีนิสัยที่ไม่ชอบแสงสว่าง และมักซ่อนตัวอยู่ในเงามืด นอกจากนี้ ยังมีชื่อเสียง ในเรื่องของ Dance of Death ระบำแห่งความรัก และความตาย
แมงป่องช้าง คือ แมงป่องชนิดหนึ่ง ที่อยู่ในสกุล Heterometrus เป็นแมงป่องที่มีพิษร้ายแรง ในหมู่สัตว์เล็ก และแมลงต่าง ๆ แต่ไม่มีพิษกับมนุษย์ แมงป่องชนิดนี้ จะมีขนาดตัวที่ใหญ่ กว่าแมงป่องทั่วไป พบได้ในประเทศเขตร้อน เช่น ประเทศไทย ประเทศลาว ประเทศเวียดนาม และประเทศอินเดีย เป็นต้น
สาเหตุที่ได้ชื่อว่า เพชฌฆาตยามราตรี เพราะว่านิสัยที่ไม่ชอบแสงสว่าง ชอบที่จะซ่อนตัว อยู่ในพื้นที่ที่ไม่ค่อยมีแสง และมีความชื้นสูง เช่น ใต้ก้อนหิน กองใบไม้ และรูใต้โพรงไม้ ตามป่าละเมาะ อีกทั้งยังมีกิจวัตร การออกล่า ออกหากิน และใช้ชีวิต ในตอนกลางคืน เป็นส่วนใหญ่ จึงทำให้ได้สมญานามว่า เพชฌฆาตยามราตรี
ซึ่งสายพันธุ์ของแมงป่องช้าง ที่พบมากที่สุดในประเทศไทย มี 2 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ Heterometrus longimanus และสายพันธุ์ Heterometrus laoticus ซึ่งสายพันธุ์ ที่จะมาแนะนำในวันนี้ คือ สายพันธุ์ H. laoticus เป็นสายพันธุ์ที่ขึ้นชื่อว่า เป็นแมงป่อง ที่มีขนาดใหญ่ ที่สุดสกุลหนึ่งของโลก
ที่มา: แมงป่องช้าง สัตว์พิษผู้ลึกลับ [1]
ข้อมูลของรู้จัก แมงป่องช้าง:
ที่มา: Heterometrus laoticus [2]
พฤติกรรมของแมงป่องช้าง ที่ได้ขึ้นชื่อว่า ทั้งสวยงาม และน่ากลัว ในเวลาเดียวกัน นั่นคือ ระบำแห่งความรัก และความตาย หรือ Dance of Death ระบำแห่งความรัก ของแมงป่องช้าง ที่นำไปสู่ความตาย คือ พฤติกรรมในช่วงฤดูผสมพันธุ์ ของแมงป่อง ที่มักจะเกิดขึ้น ในเดือนพฤษภาคม ถึงสิงหาคม
ในการจับคู่ เพื่อผสมพันธุ์ ของแมงป่องช้างนั้น แมงป่องตัวผู้ จะใช้ก้ามของตน หนีบกับก้าม ของแมงป่องตัวเมีย และจะมีการเดินเป็นวงกลม หรือบางครั้งอาจเดินก้าวหน้า และถอยหลัง เหมือนกับกำลังเต้นรำกัน ซึ่งในช่วงนั้น แมงป่องตัวผู้ จะทำการวางถุงน้ำเชื้อ ลงบนพื้น และหมุนตัวเมีย ให้ตัวเมียคร่อมเก็บถุงน้ำเชื้อ
เพื่อทำการผสมพันธุ์ กับไข่ในท้องของตัวเมีย หลังจากที่ตัวเมีย เก็บถุงน้ำเชื้อเรียบร้อย ก็จะเข้าสู่การหลับใหล ของแมงป่องตัวผู้ เพราะแมงป่องตัวเมีย จะทำการกินแมงป่องตัวผู้ เพื่อเป็นอาหารทันที ตามธรรมเนียมการฆ่า หลังการผสมพันธุ์ของแมงป่อง
ต้องบอกก่อนว่า แมงป่องช้างนั้น เป็นแมงป่องที่ได้รับความนิยม เป็นอย่างมาก ทั้งในประเทศไทย และในต่างประเทศ ซึ่งมีทั้งเลี้ยง เพื่อเป็นสัตว์สวยงาม และเลี้ยงเพื่อเป็นอาหาร ซึ่งวันนี้จะมาแนะนำ วิธีการจัดตู้เลี้ยง สำหรับแมงป่องช้าง เพื่อเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยง
แมงป่องช้างนั้น เป็นสัตว์กินเนื้อ ที่ขึ้นชื่อว่าดุ และกินเหยื่อที่หลากหลาย เช่น จิ้งหรีด แมลงสาบ หนอน ไส้เดือน แมงมุม หรือแม้แต่แมงป่องด้วยกันเอง ซึ่งอาหารที่ผู้เลี้ยง นิยมให้ส่วนมากจะเป็น แมลงสาบดูเบีย จิ้งหรีด และหนอน การให้ก็จะให้อาหารครั้งละ 1-2 ตัว ตามแต่ช่วงวัย และขนาดของแมงป่อง
เช่น หากเป็นแมงป่อง ที่อยู่ในช่วงวัยเด็ก ควรให้เป็นแมลงขนาดเล็ก ครั้งละ 1-3 ตัว ควรให้ทุก 3-5 วัน ซึ่งหากแมงป่องโตขึ้นเรื่อย ๆ ก็จะลดจำนวนลง และเพิ่มขนาดขึ้น เช่น แมงป่อง ในวัยโตเต็มวัย ก็จะให้อาหาร เป็นแมลงตัวใหญ่ เช่น แมลงสาบดูเบีย ขนาดกลาง 1-2 ตัว ในทุก ๆ 7 วัน เป็นต้น
ที่สำคัญแมลงที่ให้ ควรที่จะต้องเป็นแมลง ที่ยังมีชีวิต เพราะหากให้เป็นแมลงอบแห้ง แมงป่องอาจจะไม่รู้ ว่าสิ่งนั้น คือ อาหาร เพราะแมงป่องนั้น ใช้สัญชาตญาณ ประสาทสัมผัส ในการรับรู้ผ่านเสียง ไม่ใช่การมองเห็น และหากแมงป่อง กินอาหารที่ให้ไม่หมด ควรนำออกทันที ไม่ปล่อยทิ้งไว้เกิน 24 ชั่วโมง
ที่มา: Asian Forest Scorpion [3]
สรุป รู้จัก แมงป่องช้าง แมงป่องช้างนั้น เป็นแมงป่องที่มีพิษร้ายแรง ในสัตว์ตัวเล็ก และแมลงต่าง ๆ สำหรับมนุษย์นั้น พิษของแมงป่องช้าง จะเป็นเหมือนพิษของผึ้ง ซึ่งหากผู้ที่แพ้ผึ้ง ก็อาจถึงแก่ชีวิตได้เช่นกัน ผู้คนส่วนมาก ที่เลี้ยงแมงป่องช้าง ส่วนใหญ่จะเลี้ยงไว้ เพื่อเป็นอาหาร และสัตว์เลี้ยงสวยงาม เป็นส่วนใหญ่
เพราะว่าแมงป่องช้างนั้น ไม่ใช่สัตว์ที่เชื่อง สามารถจับได้เหมือนกับ แมงป่องจักรพรรดิ นอกจากนี้ แมงป่องช้างยังดุมาก หากมีการเคลื่อนไหวเกิดขึ้น สามารถที่จะต่อย และหนีบได้ในทันที หากจะจับแมงป่องช้าง ควรที่จะใช้หนีบ จับที่บริเวณปลายหาง ที่มีเหล็กในอย่างมั่นคง
สำหรับสัตว์ที่น่าสนใจ ในตระกูลแมงป่อง ที่นอกจากแมงป่องช้าง ยังมี แมงป่องเปลือกไม้ ที่ชอบอยู่ด้วยกันเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 20-30 ตัว ถือว่าเป็นแมงป่อง ที่มีพิษรุนแรงที่สุด ในสายพันธุ์แมงป่องอีกชนิด ก็ว่าได้ และแมงป่องแส้ เป็นแมงป่อง ที่มีหางเป็นแส้ และไม่มีพิษ ซึ่งแตกต่างกับแมงป่องชนิดอื่น ๆ ทั่วไป