
ลงทุนในเหรียญ Stablecoin อย่างไรให้คุ้มค่า
- โอนลี่มี
- 24 views

ลงทุนในเหรียญ Stablecoin ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เหรียญดิจิทัลประเภทนี้ถูกออกแบบมาให้มูลค่า “นิ่ง” หรือใกล้เคียงกับสกุลเงินจริง เช่น ดอลลาร์สหรัฐ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงความเหวี่ยงแรงของตลาด แต่ยังอยากอยู่ในระบบคริปโตต่อไป การเข้าใจสเทย์เบิลคอยน์ ช่วยให้คุณลงทุน ได้อย่างมั่นใจ
- Stablecoin คืออะไร? และข้อดี-ข้อเสียของการลงทุนในสเทย์เบิลคอยน์
- วิธีสร้างผลตอบแทน จากสเทย์เบิลคอยน์
- เปรียบเทียบ สเทย์เบิลคอยน์ยอดนิยม
Stablecoin คืออะไร? เข้าใจง่ายใน 5 นาที
สเทย์เบิลคอยน์ คือเหรียญคริปโตที่ออกแบบมาให้ มูลค่าคงที่ หรือใกล้เคียงกับสกุลเงินจริง เช่น ดอลลาร์สหรัฐ จุดประสงค์หลักคือช่วยลดความผันผวนในการถือครองและใช้งานคริปโต
ประเภทของสเทย์เบิลคอยน์
- Fiat-backed: ค้ำด้วยเงินจริง เช่น USDT, USDC
- Crypto-backed: ค้ำด้วยคริปโตอื่น เช่น DAI
- Algorithmic: ใช้อัลกอริธึมควบคุมมูลค่า เช่น UST (ที่เคยล้ม)
จุดเด่น
- มูลค่าคงที่ ใช้งานง่าย
- เหมาะเป็นที่พักเงินระหว่างลงทุน
- ใช้ใน DeFi ได้หลากหลาย
ที่มา: Stablecoin คืออะไร? [1]
ข้อดี–ข้อเสีย ของการลงทุนในสเทย์เบิลคอยน์
สเทย์เบิลคอยน์ เป็นที่นิยมมากขึ้น แต่ก็มีทั้งข้อดีและข้อควรระวังที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจ ทั้งนี้ การเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่มั่นคงยังสามารถขยายไปสู่ทางเลือกอื่น เช่น ลงทุน ในที่ดิน ซึ่งเป็นอีกแนวทางที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหาการเติบโตระยะยาวควบคู่ความยั่งยืน
ข้อดีของสเทย์เบิลคอยน์
- ความผันผวนน้อยมูลค่าโดยทั่วไปผูกกับเงินดอลลาร์ ทำให้ไม่เหวี่ยงเหมือน Bitcoin
- เหมาะสำหรับเก็บมูลค่าใช้พักเงินระหว่างรอจังหวะลงทุนในเหรียญอื่น
- ใช้งานได้จริงโอนข้ามประเทศรวดเร็ว ค่าธรรมเนียมต่ำ และถูกใช้งานในระบบ DeFi อย่างกว้างขวาง
ข้อเสียของสเทย์เบิลคอยน์
- ความเสี่ยงจากผู้ออกเหรียญ หากผู้ออกไม่โปร่งใส หรือไม่มีหลักทรัพย์ค้ำจริง อาจมีปัญหาในอนาคต
- การถูกเพิกถอนจากตลาด เช่นกรณี BUSD ที่ถูกระงับการออกใหม่ ส่งผลต่อความเชื่อมั่น
ที่มา: Pros and Cons of Stablecoins: Benefits & Purpose [2]
วิธีสร้างผลตอบแทนจาก สเทย์เบิลคอยน์ทำอย่างไรให้เงินนิ่งแต่โต
แม้สเทย์เบิลคอยน์จะไม่ได้หวือหวาเหมือนเหรียญอื่นในตลาดคริปโต แต่นักลงทุนหลายคนกลับใช้มันเป็น “ที่จอดเงิน” ที่ให้ดอกเบี้ยได้จริง แถมยังเสี่ยงต่ำกว่าเหรียญผันผวน ถ้ารู้วิธีใช้ ก็สามารถทำให้ “เงินนิ่ง” กลายเป็น “เงินโต” ได้เหมือนกัน
วิธีสร้างผลตอบแทนจาก สเทย์เบิลคอยน์
- ฝากกับ DeFi: นำสเทย์เบิลคอยน์ไปฝากในแพลตฟอร์มอย่าง Aave หรือ Compound เพื่อรับดอกเบี้ยจากการปล่อยกู้
- Staking & LP: นำเหรียญไป stake หรือจับคู่ใน Liquidity Pool เพื่อรับดอกเบี้ยหรือโทเคนรางวัล
เปรียบเทียบ สเทย์เบิลคอยน์ยอดนิยม
สเทย์เบิลคอยน์ทั้ง 3 ตัวนี้มีเป้าหมายเหมือนกันคือ รักษามูลค่าให้นิ่ง แต่เบื้องหลัง แตกต่างกันชัดเจน มาดูกันแบบสั้น ๆ เข้าใจง่าย
- แหล่งที่มาและการค้ำประกัน
- USDT: ค้ำด้วยเงินสด และสินทรัพย์ทั่วไป (เช่น ตราสารหนี้)
- USDC: ค้ำด้วยเงินสด และพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
- DAI: ค้ำด้วยคริปโต (เช่น ETH) ผ่านระบบ Smart Contract
- ความน่าเชื่อถือและการตรวจสอบบัญชี
- USDT: โปร่งใสน้อย เคยมีข้อกังขาเรื่องสินทรัพย์ค้ำ
- USDC: โปร่งใสสูง ตรวจสอบบัญชีโดยบริษัทภายนอก
- DAI: เปิดให้ตรวจสอบได้ตลอด เพราะทำงานบนบล็อกเชน
- ความนิยมและการยอมรับ
- USDT: ใช้งานแพร่หลายที่สุดในตลาดโลก
- USDC: นิยมในกลุ่มนักลงทุนสายปลอดภัย
- DAI: ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ใช้สาย DeFi
ที่มา: How Are Stablecoins Backed? A Look at USDC, USDT, and DAI [3]
จะรู้ได้อย่างไรว่า ควรถือสเทย์เบิลคอยน์ตอนไหน?
เหรียญสเทย์เบิลคอยน์ ไม่ได้มีไว้แค่ “พักเงิน” เท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือช่วยบริหารจังหวะลงทุนในตลาดคริปโตได้อย่างชาญฉลาด คำถามคือ เราควรถือมัน “ตอนไหน” ถึงจะเหมาะ?
- รอจังหวะตอนตลาดขาลง: ถ้าแนวโน้มตลาดเป็นขาลง หรือมีสัญญาณความไม่แน่นอน การแปลงสินทรัพย์คริปโตเป็น สเทย์เบิลคอยน์ ช่วยรักษามูลค่าพอร์ตได้ดี และพร้อมเข้าซื้อเมื่อราคาต่ำ
- ใช้ร่วมกับเหรียญอื่นในพอร์ต: นักลงทุนจำนวนมากเลือกถือสเทย์เบิลคอยน์ ควบคู่กับเหรียญหลัก เช่น BTC หรือ ETH เพื่อกระจายความเสี่ยงและมี “สภาพคล่อง” พร้อมเทรดทุกเวลา
- เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในภาวะผันผวน: ในวันที่ตลาดเหวี่ยงแรงหรือมีข่าวลบ การถือ Stablecoin ช่วยลดแรงกระแทกจากความผันผวน และยังนำไปใช้งานใน DeFi เพื่อสร้างผลตอบแทนระหว่างรอจังหวะใหม่
สเทย์เบิลคอยน์กับอนาคตของโลกการเงิน

สเทย์เบิลคอยน์ ไม่ใช่แค่เทรนด์ของโลกคริปโตอีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็นตัวจุดประกายให้หลายประเทศเริ่มพัฒนา “สกุลเงินดิจิทัลจากธนาคารกลาง” หรือที่เรียกว่า CBDC (Central Bank Digital Currency)
- สเทย์เบิลคอยน์กับ CBDC: เหรียญอย่าง USDT หรือ USDC แสดงให้เห็นว่าเงินดิจิทัลแบบมีมูลค่าคงที่ใช้งานได้จริง ทำให้หลายประเทศเริ่มพัฒนา CBDC
- บทบาทรัฐและเอกชน: อนาคตอาจมี Stablecoin จากธนาคารหรือร่วมกับภาครัฐ พร้อมการกำกับดูแลที่เข้มงวดขึ้น
- แนวทางควบคุม: สเทย์เบิลคอยน์อาจต้องเปิดเผยหลักทรัพย์ค้ำประกัน และอยู่ภายใต้กฎหมายคล้ายสถาบันการเงิน
บทสรุป ลงทุนในเหรียญ Stablecoin ในพอร์ตยุคใหม่
สรุปแล้ว ลงทุนในเหรียญ Stablecoin ไม่ได้เป็นเพียง “เงินพักรบ” ของนักลงทุนคริปโตอีกต่อไป แต่กลายเป็นเครื่องมือสำคัญ ในการบริหารพอร์ต ลดความเสี่ยง และรอจังหวะเข้าตลาด อย่างมีประสิทธิภาพ แม้จะมีข้อจำกัด และความเสี่ยงบางประการ แต่หากเลือกใช้อย่างรอบคอบสเทย์เบิลคอยน์ ก็สามารถเป็น “สินทรัพย์ปลอดภัย” ในระยะยาวได้
ถือสเทย์เบิลคอยน์ไว้นาน ๆ เสี่ยงหรือไม่?
แม้สเทย์เบิลคอยน์จะมีมูลค่าคงที่ แต่การถือไว้นาน โดยไม่เคลื่อนไหว อาจเจอกับความเสี่ยงด้านค่าธรรมเนียมแฝง, การเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์, หรือเหตุการณ์ไม่คาดคิด จากผู้ออกเหรียญ เช่น ถูกระงับการใช้งาน หรือการเพิกถอน จากแพลตฟอร์มบางแห่ง จึงควรติดตามข่าวสาร และตรวจสอบเหรียญ ที่ถืออยู่เป็นระยะ
การถือสเทย์เบิลคอยน์ ต้องเสียภาษีหรือไม่?
ขึ้นอยู่กับประเทศ และข้อกฎหมาย ในแต่ละเขต หากสเทย์เบิลคอยน์ ถูกใช้เพื่อเก็งกำไร รับดอกเบี้ย หรือแปลงกลับเป็นเงินสด อาจเข้าข่ายภาษีเงินได้ หรือภาษีกำไรจากการลงทุน ควรศึกษาข้อบังคับภาษี ในประเทศของตน หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ทางการเงิน เพื่อความชัดเจน
- Tags: ลงทุน
แหล่งอ้างอิง


