
ลงทุน ในของสะสม ก็สามารถเป็นอีกหนึ่งช่องทาง ในการสร้างมูลค่าได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการ์ดเกม ฟิกเกอร์ ของเล่นวินเทจ ไปจนถึงรองเท้ารุ่นลิมิเต็ด หากเลือกเก็บให้ถูกจังหวะ เข้าใจตลาด และรู้จักประเมินศักยภาพ ของสะสมเหล่านี้ สามารถเปลี่ยนจากงานอดิเรก ให้กลายเป็นสินทรัพย์ ที่งอกเงยในระยะยาวได้จริง
ของสะสมไม่ได้มีแค่คุณค่าทางใจ แต่ยังมีมูลค่าทางการเงิน ที่สามารถเติบโตได้จริง ไม่ว่าจะเป็นการ์ดเกม ฟิกเกอร์ แสตมป์ นาฬิกาวินเทจ หรือรองเท้ารุ่นลิมิเต็ด หากเลือกเก็บให้ถูก ก็มีโอกาส สร้างผลตอบแทน ได้ไม่แพ้การลงทุนรูปแบบอื่น [1]
ต่างจากหุ้นหรือกองทุนตรงที่ของสะสมไม่มีตัวเลขให้วิเคราะห์ และอาจใช้เวลาขายได้นานกว่า แต่ข้อดีคือมันเริ่มจากสิ่งที่เราชอบ และบางชิ้นก็มีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องอิงเศรษฐกิจ ทั้งนี้ นักลงทุนบางราย อาจเลือกกระจายความเสี่ยง ด้วยการ ลงทุน ในสินทรัพย์ปลอดภัย ควบคู่ไปด้วย เพื่อเสริมความมั่นคงให้กับพอร์ตโดยรวม
ไม่ใช่ของสะสมทุกชิ้นจะมีมูลค่า บางชิ้นราคาพุ่ง บางชิ้นแทบไม่มีใครเอา หากอยากรู้ว่าชิ้นไหนน่าลงทุน ต้องดู 3 ปัจจัยหลักคือ ความหายาก สภาพสินค้า และความต้องการตลาด
ของที่ผลิตจำกัด อยู่ในสภาพดี และมีแฟนคลับตามเก็บ มักมีราคาขายต่อดี ยิ่งเป็นของที่มีประวัติ หรือความผูกพันกับวัฒนธรรม ยิ่งมีแนวโน้มเติบโต
ก่อนซื้อควร ตรวจสอบของแท้ให้มั่นใจ ศึกษารายละเอียดสินค้า เช็กกับผู้เชี่ยวชาญ และดูประวัติราคาย้อนหลังสักหน่อย ถ้าทุกอย่างดูดี และตลาดยังมีคนเล่นอยู่ ของชิ้นนั้นก็อาจกลายเป็น สินทรัพย์ในอนาคตได้ไม่ยาก
การลงทุนในของสะสมไม่จำเป็นต้องใช้เงินก้อนใหญ่ ใครมีงบแค่ 5,000 บาทก็เริ่มได้ ถ้าเลือกให้ดี ของเล็กๆ วันนี้อาจมีมูลค่าสูงขึ้นในอนาคต ของสะสมที่น่าสนใจในงบจำกัด เช่น การ์ดโปเกมอนรุ่นใหม่ที่ยังพอมีโอกาสเจอใบหายาก ฟิกเกอร์ลิขสิทธิ์แท้มือสอง LEGO เซตเล็ก หรือรองเท้ารุ่นที่กำลังเริ่มได้รับความนิยม
ช่องทางซื้อที่เหมาะกับคนงบน้อยคือ ตลาดมือสอง เช่น Shopee, Facebook Marketplace, กลุ่มนักสะสมต่างๆ ซึ่งมักมีของในราคาถูกกว่าใหม่หลายเท่า
เคล็ดลับคือควร ต่อรองแบบสุภาพ รู้ราคาตลาดเบื้องต้น และอย่ารีบซื้อทันทีหากยังไม่มั่นใจ ตรวจสอบประวัติผู้ขาย ดูรีวิว และพยายามนัดรับหากเป็นไปได้ เพื่อลดความเสี่ยงโดนโกง
การลงทุนในของสะสมไม่จำเป็นต้องใช้เงินก้อนใหญ่ ใครมีงบแค่ 5,000 บาทก็เริ่มได้ ถ้าเลือกให้ดี ของเล็กๆ วันนี้อาจมีมูลค่าสูงขึ้นในอนาคต ของสะสมที่น่าสนใจในงบจำกัด เช่น การ์ดโปเกมอนรุ่นใหม่ที่ยังพอมีโอกาสเจอใบหายาก ฟิกเกอร์ลิขสิทธิ์แท้มือสอง LEGO เซตเล็ก หรือรองเท้ารุ่นที่กำลังเริ่มได้รับความนิยม
ช่องทางซื้อที่เหมาะกับคนงบน้อยคือ ตลาดมือสอง เช่น Shopee, Facebook Marketplace, กลุ่มนักสะสมต่างๆ ซึ่งมักมีของในราคาถูกกว่าใหม่หลายเท่า
เคล็ดลับคือควร ต่อรองแบบสุภาพ รู้ราคาตลาดเบื้องต้น และอย่ารีบซื้อทันทีหากยังไม่มั่นใจ ตรวจสอบประวัติผู้ขาย ดูรีวิว และพยายามนัดรับหากเป็นไปได้ เพื่อลดความเสี่ยงโดนโกง
การลงทุนในของสะสม อาจดูสนุกและน่าตื่นเต้น แต่ก็มีความเสี่ยงแฝงอยู่ หลายจุดที่มือใหม่มักมองข้าม ถ้าไม่ระวัง อาจเจ็บตัวได้ง่ายกว่าที่คิด
ของปลอม คือปัญหาใหญ่ที่สุดในวงการนี้ หลายชิ้นดูแทบไม่ออกว่าเป็นของเก๊ โดยเฉพาะการ์ด ฟิกเกอร์ หรือรองเท้า หากไม่มีความรู้ หรือไม่ตรวจสอบให้ดี ก็อาจพลาดท่าเสียเงินเปล่า อีกเรื่องคือ การจัดเก็บ ของสะสมบางอย่างอ่อนไหวต่อแสง ความชื้น หรืออุณหภูมิ เช่น การ์ดอาจงอ ฟิกเกอร์เปลี่ยนสี หรือกล่องเปื่อย ส่งผลต่อราคาขายทันทีแม้เป็นของแท้
อย่าลืมว่า ตลาดของสะสมมีความผันผวนสูง เทรนด์มาไวไปไว ของบางอย่างเคยฮิตจนราคาพุ่ง แต่พอกระแสหาย ก็แทบไม่มีใครซื้อ ตัวอย่างเช่น Fidget Spinner หรือของจากซีรีส์ที่เคยดัง แต่คนเลิกติดตาม
ที่มา: Why Are Collectibles Considered A High-Risk Investment? [3]
“เริ่มจากซื้อเพราะชอบ แต่พอรู้ตัวอีกที ของพวกนี้กลายเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่ามากกว่าที่คิดไว้เยอะ” คำบอกเล่าจากคุณนนท์ นักสะสมการ์ดและของเล่นวินเทจ ที่เริ่มจากการเก็บเล่นๆ สมัยมัธยม จนปัจจุบันมีคอลเลกชันมูลค่าหลักล้านบาท
เขาเล่าว่า จุดเปลี่ยนคือวันที่ขายการ์ดโปเกมอนรุ่นเก่าใบหนึ่งได้เกือบหมื่นบาท ทั้งที่ซื้อมาไม่ถึงพัน ตอนนั้นจึงเริ่มศึกษาตลาดอย่างจริงจัง ทั้งดูแนวโน้มราคาในต่างประเทศ วิธีดูของแท้ และเลือกเก็บเฉพาะชิ้นที่มีศักยภาพระยะยาว
สิ่งที่เขาเน้นคือ “อย่าเก็บเพราะอยากขาย แต่ให้เก็บเพราะชอบ แล้วเรียนรู้ไปด้วย” เพราะถ้าอินกับของที่เก็บ จะเข้าใจคุณค่ามากกว่าราคาตลาด และรู้จังหวะซื้อ-ขายได้แม่นยำขึ้น
สรุปแล้ว ลงทุน ในของสะสม คืออีกหนึ่งเส้นทางที่เริ่มต้นได้จากความชอบ และเติบโตได้ด้วยความเข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นการ์ด ฟิกเกอร์ รองเท้า หรือของเล่นวินเทจ ทุกชิ้นล้วนมีโอกาสสร้างมูลค่า หากรู้จักเลือก เก็บ ดูแล และจับจังหวะตลาดให้ถูก ของสะสมก็สามารถเป็นทรัพย์สินที่จับต้องได้ และอาจกลายเป็นผลตอบแทนที่ทั้งคุ้มค่า
คุณสามารถขายของสะสมได้ ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Shopee, eBay, Facebook Marketplace หรือกลุ่มเฉพาะทางในโซเชียลมีเดีย โดยแต่ละแพลตฟอร์ม อาจมีค่าธรรมเนียมแตกต่างกัน เช่น ค่าธรรมเนียมธุรกรรม 2–5% หรือค่าจัดส่งที่ผู้ขายต้องรับผิดชอบเอง แนะนำให้ศึกษาเงื่อนไขให้ชัดเจน ก่อนลงขาย
ในกรณีของสะสมที่มีราคาสูง หรือมีความเสี่ยงต่อการปลอม เช่น การ์ดหายาก นาฬิกา หรือของเล่นลิมิเต็ด การมีใบรับรอง จากบริษัทตรวจสอบ (grading หรือ authentication service) จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ และทำให้ขายได้ง่ายขึ้น ในราคาที่สูงกว่า โดยเฉพาะเมื่อขายกับนักสะสมระดับมืออาชีพ หรือในต่างประเทศ