ลงทุน ในสินทรัพย์ดิจิทัล ดีจริงหรือแค่กระแส

ลงทุน ในสินทรัพย์ดิจิทัล

ลงทุน ในสินทรัพย์ดิจิทัล กลายเป็นคำที่ถูกพูดถึงมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่แค่ในวงการเทคโนโลยี แต่ยังรวมถึงนักลงทุนหน้าใหม่ ที่มองหาทางเลือก นอกเหนือจากหุ้น หรือทองคำ บทความนี้ เราจะพาคุณไปดูภาพรวมของโลกการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล  เพื่อให้คุณสามารถเลือก แนวทางที่เหมาะกับตัวเอง ในยุคที่การเงินกำลังหมุนเร็วขึ้นทุกวัน

  • สินทรัพย์ดิจิทัลคืออะไร
  • ลงทุนคริปโตฯ อย่างไรให้ปลอดภัย
  • รู้จักกับ NFT สินทรัพย์ดิจิทัลสายอาร์ต หรือของสะสมที่มีมูลค่า
  • DeFi คืออะไร? วิเคราะห์แนวโน้มการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลปีนี้
  • เปรียบเทียบการลงทุน สินทรัพย์ดิจิทัล vs หุ้น vs ทองคำ

สินทรัพย์ดิจิทัลคืออะไร? ทำไมคนรุ่นใหม่ถึงหันมาลงทุน

สินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Assets) คือทรัพย์สินที่อยู่ในรูปแบบดิจิทัลทั้งหมด ไม่สามารถจับต้องได้ แต่มีมูลค่าและสามารถซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ต โดยอาศัยเทคโนโลยีบล็อกเชนในการจัดเก็บข้อมูลอย่างปลอดภัย

ประเภทที่เราคุ้นกัน เช่น

  • Cryptocurrency: เงินดิจิทัลอย่าง Bitcoin, Ethereum
  • NFT: โทเคนที่แสดงความเป็นเจ้าของผลงานดิจิทัล
  • Tokenized Assets: สินทรัพย์จริงที่ถูกแปลงมาอยู่ในรูปโทเคน เช่น หุ้นหรืออสังหา

คนรุ่นใหม่สนใจเพราะเข้าถึงง่าย ทันสมัย และมีโอกาสสร้างผลตอบแทนสูง ที่สำคัญไม่ต้องพึ่งพาสถาบันการเงินแบบเดิม อย่างไรก็ตาม ความผันผวนสูงและความเสี่ยงจากการหลอกลวงก็เป็นสิ่งที่ต้องระวัง เช่นเดียวกับการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกอื่นๆ อย่าง ลงทุน ในของสะสม ที่แม้จะจับต้องได้แต่ก็ต้องอาศัยความเข้าใจและการวางแผนอย่างรอบคอบ

ที่มา: สรุปครบ! สินทรัพย์ดิจิทัลคืออะไร? [1]

มือใหม่เริ่มลงทุนคริปโตฯ อย่างไรให้ปลอดภัย

  • เตรียมตัวก่อนเริ่ม: ศึกษาพื้นฐานให้เข้าใจว่า คริปโตคืออะไร มีความเสี่ยงอย่างไร แล้วค่อยเปิดบัญชี กับแพลตฟอร์ม ที่ได้รับอนุญาตในไทย 
  • เลือกกระเป๋าเงิน และแพลตฟอร์มให้เหมาะ: เลือกใช้ Hot Wallet ถ้าต้องการความสะดวก หรือ Cold Wallet ถ้าเน้นความปลอดภัย ส่วนกระดานซื้อขาย ควรเลือกที่เชื่อถือได้ มีระบบป้องกันดี และใช้งานง่าย
  • ระวังมิจฉาชีพ: อย่าโอนเงินให้ใครเพราะคำว่า “การันตีกำไร” หลีกเลี่ยงลิงก์ไม่รู้แหล่ง และเก็บ Seed Phrase ไว้เป็นความลับ ความปลอดภัยเริ่มที่ตัวคุณ
  • ใช้แหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้: ติดตามข่าวจากแหล่งสากล เช่น CoinMarketCap หรือชุมชนที่มีผู้เชี่ยวชาญ และอย่าหยุดอัปเดตตัวเอง เพราะโลกคริปโตเปลี่ยนเร็วมาก

รู้จักกับ NFT สินทรัพย์ดิจิทัลสายอาร์ต หรือของสะสมที่มีมูลค่า

NFT (Non-Fungible Token) คือ สินทรัพย์ดิจิทัลที่มีความเฉพาะตัว ไม่สามารถแลกเปลี่ยนกันได้แบบ 1 ต่อ 1 ต่างจากคริปโตทั่วไปอย่าง Bitcoin ที่แต่ละเหรียญมีมูลค่าเท่ากันหมด จุดเด่นของ NFT คือการแสดงความเป็นเจ้าของที่แท้จริงบนบล็อกเชน [2]

  • NFT ใช้ทำอะไรได้บ้าง:ในวงการศิลปะ ศิลปินสามารถขายผลงานผ่าน NFT โดยไม่ต้องผ่านคนกลาง วงการเกมใช้ NFT แทนไอเท็มที่ผู้เล่นครอบครองจริง และในวงการเพลง NFT กลายเป็นช่องทางใหม่ในการมอบสิทธิพิเศษให้แฟนคลับ
  • เริ่มซื้อ-ขาย NFT ยังไง:แค่มี Wallet (เช่น MetaMask) เติมเหรียญ Ethereum แล้วเข้าแพลตฟอร์มอย่าง OpenSea หรือ Rarible เลือก NFT ที่สนใจ แล้วกดยืนยันธุรกรรม เท่านี้ก็เป็นเจ้าของได้แล้ว

รู้จัก DeFi คืออะไร ก่อนลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล

DeFi (Decentralized Finance) คือ ระบบการเงินรูปแบบใหม่ที่ทำงานบนบล็อกเชน ไม่ต้องพึ่งธนาคารหรือคนกลาง ทุกอย่างควบคุมด้วย Smart Contract เปิดให้ทุกคนเข้าถึงบริการทางการเงินได้อย่างเสรี

ใช้งาน DeFi ทำอะไรได้บ้าง: เช่น ปล่อยกู้ (Lending), ฝากเหรียญเพื่อรับดอกเบี้ย (Staking), หรือทำ Yield Farming เพื่อเพิ่มผลตอบแทนจากเหรียญที่ถืออยู่

แตกต่างจากระบบดั้งเดิมยังไง: DeFi ไม่ต้องมีบัญชีธนาคาร ใช้งานได้ตลอด 24 ชั่วโมง โปร่งใสและตรวจสอบได้ ต่างจากระบบเดิมที่ต้องมีตัวกลางและมีข้อจำกัดหลายอย่าง

ข้อดี ข้อเสียที่ควรรู้: ข้อดีคือเข้าถึงง่าย ไม่ต้องผ่านคนกลาง ผลตอบแทนสูง แต่ความเสี่ยงก็มี เช่น โดนแฮ็ก, ราคาร่วงแรง หรือโปรเจกต์ล้มโดยไม่ทันตั้งตัว

ที่มา: DeFi คืออะไร? ทำความรู้จักกับโลกการเงิน ที่ไม่ต้องพึ่งธนาคาร [3] 

วิเคราะห์แนวโน้ม การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลปีนี้

ปีนี้ เป็นอีกหนึ่งปีที่วงการสินทรัพย์ดิจิทัลยังคงคึกคัก แม้จะผ่านช่วงความผันผวนมาไม่น้อย แต่หลายปัจจัยชี้ให้เห็นว่าตลาดเริ่มเข้าสู่จุดฟื้นตัว โดยเฉพาะความสนใจจากสถาบันและการพัฒนาเทคโนโลยีที่ชัดเจนขึ้น

  • สถานการณ์ตลาด: ราคาของ Bitcoin และ Ethereum เริ่มนิ่งขึ้นหลังรอบขาขึ้น ปัจจัยหลักมาจากการยอมรับของนักลงทุนสถาบันและการมาของ ETF คริปโตที่ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้ตลาด
  • เทคโนโลยีใหม่ที่น่าจับตา: AI เริ่มทำงานร่วมกับ Blockchain มากขึ้น เช่น ใช้จัดการพอร์ตหรือวิเคราะห์ข้อมูล อีกเทรนด์คือ RWA Tokenization ที่แปลงสินทรัพย์จริงให้กลายเป็นโทเคน
  • กฎหมายในไทย: ก.ล.ต. เริ่มกำหนดกรอบที่ชัดเจนขึ้น ส่งเสริมการใช้โทเคนเชิงพาณิชย์ แต่ยังมีข้อจำกัดที่ต้องติดตามโดยเฉพาะนักลงทุนรายย่อย

เปรียบเทียบการลงทุน สินทรัพย์ดิจิทัล vs หุ้น vs ทองคำ

แต่ละสินทรัพย์มีจุดเด่นต่างกัน คนลงทุนควรรู้ไว้เพื่อเลือกให้เหมาะกับสไตล์ตัวเอง

ความผันผวนและสภาพคล่อง

  • คริปโตฯ: ผันผวนแรง เคลื่อนไหวเร็ว ซื้อขายได้ 24 ชม.
  • หุ้น: ผันผวนปานกลาง อิงผลประกอบการ ซื้อขายตามเวลาตลาด
  • ทองคำ: ผันผวนน้อย มั่นคงในภาวะวิกฤต แต่เคลื่อนไหวช้ากว่า

ระยะการลงทุน

  • คริปโตฯ เหมาะกับระยะสั้นที่รับความเสี่ยงได้
  • หุ้นกับทองคำ เหมาะกับระยะกลางถึงยาว

เหมาะกับใคร

  • คนชอบความเร็ว เสี่ยงได้ →คริปโตฯ
  • คนชอบวิเคราะห์ธุรกิจ →หุ้น
  • คนเน้นปลอดภัย →ทองคำ

จัดพอร์ตยังไงดี?: อาจแบ่งแบบ 60% หุ้น, 30% ทอง, 10% คริปโตฯ แล้วปรับตามความเสี่ยงที่ยอมรับได้

บทสรุป ลงทุน ในสินทรัพย์ดิจิทัล เข้าใจก่อนตัดสินใจลงทุน

ลงทุน ในสินทรัพย์ดิจิทัล

โดยสรุปแล้ว ลงทุน ในสินทรัพย์ดิจิทัล ไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงทางการเงินที่กำลังเกิดขึ้นจริง ทั้งคริปโตฯ, NFT, และระบบ DeFi ต่างเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับนักลงทุน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่มองหาทางเลือกที่ยืดหยุ่น และทันสมัย อย่างไรก็ตาม การลงทุนรูปแบบใหม่นี้ ยังมาพร้อมกับความผันผวน และความเสี่ยงที่ต้องเข้าใจให้ถ่องแท้

จำเป็นต้องมีทุนเยอะไหม ถึงจะเริ่มลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลได้?

ไม่จำเป็นเลย การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล สามารถเริ่มต้น ด้วยเงินหลักร้อยก็ได้ เพราะหลายแพลตฟอร์ม เปิดให้ซื้อเหรียญบางส่วนได้ (Fractional investment) เหมาะกับคนที่ต้องการลองศึกษา และเริ่มต้นแบบค่อยเป็นค่อยไป

ถ้าซื้อสินทรัพย์ดิจิทัล แล้วต้องเสียภาษีหรือไม่?

ในประเทศไทย การขายสินทรัพย์ดิจิทัล แล้วได้กำไร ถือเป็นรายได้ ที่ต้องเสียภาษี โดยเฉพาะในกรณีที่ ซื้อขายผ่านแพลตฟอร์ม ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. ดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษา หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีไว้ด้วย

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง