

วิวัฒนาการ กระบี่กระบอง ที่สืบทอดมาแต่โบราณ เกิดจากความจำเป็นในการป้องกันตนเอง และประเทศชาติในยุคที่สงครามยังคงมีอยู่ แสดงให้เห็นถึงความละเอียดอ่อนทางจิตใจ การเคารพคู่ต่อสู้ และความเป็นระเบียบแบบแผนของคนไทย เมื่อกาลเวลาผ่านไป กระบี่กระบองได้เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย จากอาวุธในสนามรบ สู่ศิลปะการแสดงที่งดงาม และกลายเป็นมรดกวัฒนธรรมที่มีคุณค่าอย่างยิ่งของชาติไทย
ต้นกำเนิดของกระบี่กระบองมาจาก การฝึกอาวุธของนักรบในสมัยโบราณ เพื่อป้องกันตนเองและประเทศจากข้าศึก ศิลปะนี้จึงเกิดขึ้นควบคู่กับยุทธศาสตร์การรบในแต่ละยุค ในสมัยสุโขทัยและอยุธยา การฝึกอาวุธเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกกองทัพ อาวุธของ กระบี่กระบอง มีการใช้หลากหลายชนิดโดยมีการแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ อาวุธใช้ต่อสู้ และอาวุธป้องกันตัว ได้แก่
1. อาวุธที่ใช้สำหรับการต่อสู้
2. อาวุธที่ใช้สำหรับการป้องกันตัว
ที่มา: ประวัติความเป็นมากีฬากระบี่กระบอง (18 เมษายน 2024) [1]

เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป สงครามการใช้ดาบสิ้นสุดลง บทบาทของกระบี่กระบองก็ปรับเปลี่ยนตาม ในสมัยก่อน การฝึกกระบี่กระบองคือการเตรียมความพร้อมทางกายและใจ เมื่อบ้านเมืองสงบ การประลองด้วยอาวุธจำลอง หรือ เครื่องไม้ตี ถูกนำมาใช้เป็นการกีฬา และกิจกรรมสันทนาการ เพื่อรักษาความสามารถของนักรบ และเป็นการแสดงออกถึงความกล้าหาญ และความเชี่ยวชาญ
กระบี่กระบองถูกบรรจุเข้าเป็นส่วนหนึ่งของวิชาพลศึกษา ในโรงเรียนและสถาบันต่างๆ ทำให้นักเรียนได้เรียนรู้พื้นฐานการใช้อาวุธ และการเคลื่อนไหวที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ และในปัจจุบันถูกนำมาแสดงสาธิต และจัดการแข่งขันตามกติกา โดยใช้อาวุธจำลองที่ทำจากหวายหรือหนัง ที่ปลอดภัยกว่าอาวุธจริงมาก ทำให้กลายเป็นกีฬาที่แสดงถึงความสวยงามของศิลปะและลีลาการต่อสู้
กระบี่กระบองกลายเป็นกีฬาและศิลปะการแสดงที่ช่วยส่งเสริมทักษะต่างๆ ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ เช่น
ที่มา: กระบี่กระบอง : กลุ่มนักเรียนที่สืบสานศิลปะการต่อสู้ไทยที่ใกล้เลือนหาย ด้วยความเร้าใจเหมือนภาพยนตร์บู๊ (29 กรกฎาคม 2019) [2]
เยาวชนคือ ผู้สืบทอดที่สำคัญในการรักษามรดกไทย การเปิดโอกาสให้เยาวชนได้เรียนรู้ ฝึกฝน และแสดงกระบี่กระบอง จะช่วยให้ศิลปะแขนงนี้คงอยู่ต่อไปอย่างยั่งยืน
วิวัฒนาการ กระบี่กระบอง ไม่ได้เป็นเพียงการแสดงตีดาบไม้บนเวที แต่คือ มรดกทางภูมิปัญญาการต่อสู้ ของนักรบไทยที่สั่งสมมาตั้งแต่โบราณกาล คำเรียกที่รวมอาวุธทั้งแบบสั้น กระบี่ และกระบอง นี้ เป็นตัวแทนของศิลปะการป้องกันตัว ด้วยอาวุธหลากหลายชนิดที่เคยเป็นหัวใจสำคัญ ในการปกป้องเอกราชของชาติ และมีพัฒนาการของวิชา ตั้งแต่สนามรบในอดีตจนกลายมาเป็นกีฬา และวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าในปัจจุบัน
ยุค : สมัยโบราณ – รัตนโกสินทร์ตอนต้น
กระบี่กระบองในยุคแรก เริ่มมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อการสงคราม และการป้องกันตัวของชาติ ในอดีต การฝึกฝนการใช้อาวุธเหล่านี้ คือทักษะสำคัญที่ชายฉกรรจ์ทุกคนต้องมีติดตัว
การประลองและหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของกระบี่กระบอง
ยุค : การเฟื่องฟูในราชสำนักและการละเล่น ในสมัยรัชกาลที่ 5 และ 6
ถือเป็นยุคที่ศิลปะการต่อสู้แขนงนี้เริ่มเผยแพร่ และเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางในหมู่ประชาชน รวมถึงได้รับการสนับสนุนจากราชสำนักในอดีต
บทบาทของกระบี่กระบองในงานเทศกาลและการยกย่องทางศิลปะ
ที่มา: ประวัติกระบี่กระบอง (29 พฤษภาคม 2019) [3]
การฟื้นฟูและบรรจุในหลักสูตรการศึกษา หลังปี พ.ศ. 2475 หลังจากการเปลี่ยนแปลงการปกครอง และความจำเป็นในการรบที่ลดลง ความสำคัญของศิลปะการต่อสู้โบราณเริ่มลดลง แต่ก็มีการฟื้นฟูขึ้นมาอีกครั้ง
จากศิลปะการรบสู่การเป็นวิชาการและกีฬาประจำชาติ
ที่มา: ประวัติกระบี่กระบอง (29 พฤษภาคม 2019) [3]
สรุป วิวัฒนาการ กระบี่กระบอง เป็นศิลปะที่ผสมผสานระหว่าง ความแข็งแกร่ง และความงดงาม เป็นเครื่องหมายแห่งภูมิปัญญา และจิตวิญญาณของนักรบไทย วิวัฒนาการไม่ได้หยุดอยู่แค่ในประวัติศาสตร์ แต่ยังคงพัฒนาให้เข้ากับยุคสมัย การรักษาและพัฒนาให้คงอยู่ เป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน ที่จะช่วยกันสืบสาน มรดกแห่งความกล้าหาญ และความงดงามของชาติไทย ให้คงอยู่ตลอดไป
กระบี่กระบองนอกจากจะเป็นศิลปะการต่อสู้แล้ว ยังเป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญ และความเคารพในกติกา ในทุกท่วงท่าของการรำหรือการต่อสู้ ล้วนสะท้อนถึงการฝึกสมาธิ ความอดทน และความมีน้ำใจนักกีฬา การรักษาศิลปะนี้จึงเป็นมากกว่าการอนุรักษ์ อาวุธไทย แต่คือการสืบต่อจิตวิญญาณของนักรบผู้ปกป้องชาติไทยให้คงอยู่ในหัวใจของคนรุ่นใหม่
การฟื้นฟูและอนุรักษ์ศิลปะกระบี่กระบอง ไม่ได้เป็นเพียงการรักษา ท่าทางการต่อสู้ เท่านั้น แต่เป็นการรักษา จิตวิญญาณของนักรบไทย ที่เปี่ยมด้วยความกล้าหาญ มีระเบียบวินัย และให้เกียรติผู้อื่น ศิลปะแห่งนี้จึงเป็นทั้งมรดกทางวัฒนธรรม และเป็นแรงบันดาลใจให้คนไทยรุ่นใหม่ ได้ภาคภูมิใจในรากเหง้าของตน

