ว่ายน้ำ ตอนไหนดีที่สุด และต้องจัดท่าแบบไหน?

ว่ายน้ำ ตอนไหนดีที่สุด

ว่ายน้ำ ตอนไหนดีที่สุด การว่ายน้ำไม่ได้เป็นเพียงแค่การเล่นสนุกหรือการพักผ่อน แต่ยังเป็น กีฬาที่ฝึกร่างกายและจิตใจพร้อมกัน การเคลื่อนไหวในน้ำช่วยให้กล้ามเนื้อทุกส่วนทำงาน ระบบหายใจ และหัวใจแข็งแรงขึ้น

  • ความเป็นมาของการว่ายน้ำ
  • ว่ายน้ำเป็นกีฬาสากล และเข้าร่วมแข่งขันระดับโลก
  • ทักษะและเทคนิคพื้นฐาน

ความเป็นมาของการว่ายน้ำ

การว่ายน้ำถือเป็นหนึ่งในกิจกรรม ทางน้ำที่มีมาอย่างยาวนาน มนุษย์เริ่มว่ายน้ำตั้งแต่ยุคโบราณ เพื่อความอยู่รอด เช่น การหาปลา การข้ามลำน้ำ หรือการเดินทางข้ามแม่น้ำ หลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่า ชาวอียิปต์และเมโสโปเตเมีย ได้ว่ายน้ำเป็นกิจกรรมประจำ มีภาพจิตรกรรมฝาผนัง ที่แสดงการว่ายน้ำ ตั้งแต่ประมาณ 2,500 ปีก่อนคริสตกาล

ต่อมา การว่ายน้ำได้พัฒนากลายเป็น กีฬาและกิจกรรมสันทนาการ ในยุโรปยุคกลาง โดยเฉพาะในประเทศเยอรมนี อังกฤษ และเนเธอร์แลนด์ มีการจัดการแข่งขันและฝึกสอนการว่ายน้ำอย่างเป็นระบบ

ในช่วงศตวรรษที่ 19 การว่ายน้ำได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นทั่วโลก และได้พัฒนาทางเทคนิคเป็นท่าต่าง ๆ เช่น ท่าฟรีสไตล์, ท่ากบ, ท่าผีเสื้อ และท่ากรรเชียง จนกระทั่งถูกบรรจุเป็นหนึ่งในกีฬาประจำ โอลิมปิกสมัยใหม่ ครั้งแรกในปี ค.ศ. 1896 (ผู้ชาย) และปี ค.ศ. 1912 (ผู้หญิง)

ว่ายน้ำเป็นกีฬาสากล และเข้าร่วมแข่งขันระดับโลก

ว่ายน้ำได้รับการยอมรับให้เป็น กีฬาสากล เนื่องจากเป็นกิจกรรมที่ผู้คนทั่วโลกสามารถฝึกฝนและแข่งขันได้โดยไม่จำกัดเพศหรือวัย การแข่งขันว่ายน้ำถูกจัดขึ้น ทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับนานาชาติ และมีกติกามาตรฐานเดียวกันทั่วโลก

ว่ายน้ำถูกบรรจุเป็นหนึ่งใน กีฬาประจำโอลิมปิกสมัยใหม่ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1896 สำหรับการแข่งขันของผู้ชาย และปี ค.ศ. 1912 สำหรับผู้หญิง การแข่งขันระดับโลกยังรวมถึงรายการสำคัญอื่นๆ เช่น เวิลด์แชมเปียนชิพว่ายน้ำ (FINA World Championships) และ เวิลด์คัพว่ายน้ำ (FINA Swimming World Cup) ซึ่งนักกีฬาจากหลายประเทศ เข้าร่วมเพื่อชิงเหรียญ และสร้างชื่อเสียงให้ประเทศ

ประเภทของว่ายน้ำ

ท่าฟรีสไตล์ (Freestyle / Front Crawl)

เป็นท่าว่ายน้ำที่เร็วที่สุด ใช้แขนหมุนวนเป็นวงกลมสลับกัน และเตะขาแบบสับขึ้นลง ท่าว่ายน้ำนี้ใช้แข่งขันในระยะสั้นและระยะกลาง

ท่ากบ (Breaststroke)

แขนและขาจะเคลื่อนไหวพร้อมกันเป็นลักษณะกวาดออกและดึงเข้าหาตัว ขาใช้การเตะแบบกบ ท่านี้ช้าแต่ประหยัดแรง เหมาะสำหรับการว่ายระยะกลางถึงไกล

ท่าผีเสื้อ (Butterfly)

แขนทั้งสองข้างเหยียดไปข้างหน้าแล้วดึงพร้อมกัน ขาเตะแบบ Dolphin Kick ท่านี้ใช้แรงมากและเป็นท่าที่ต้องใช้เทคนิคสูง

ท่ากรรเชียง (Backstroke)

ว่ายท่ากลับหลัง ใช้แขนหมุนวนและเตะขาแบบสับเหมือนฟรอนต์ครอล แต่หันหลังลงน้ำ ท่านี้ช่วยฝึกกล้ามเนื้อหลังและไหล่

วิ่งผลัด (Medley / Individual Medley)

เป็นการแข่งขันที่รวมทั้ง 4 ท่าว่ายน้ำหลัก โดยผู้แข่งขันต้องว่ายทุกท่าในลำดับที่กำหนด ได้แก่ ผีเสื้อ, หลัง, กบ, ฟรอนต์ครอล

ประโยชน์ของการว่ายน้ำ

ว่ายน้ำ ตอนไหนดีที่สุด

เสริมสร้างสมรรถภาพร่างกาย การว่ายน้ำช่วยพัฒนากล้ามเนื้อ แขน ขา ลำตัว และหลังอย่างทั่วถึง ระบบหัวใจและปอดแข็งแรงขึ้น และช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของร่างกาย เผาผลาญพลังงาน และควบคุมน้ำหนัก การเคลื่อนไหวในน้ำใช้แรงมาก ทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้สูง ช่วยลดไขมันส่วนเกิน ควบคุมน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ฝึกสมาธิและความอดทน การว่ายน้ำต้องใช้สมาธิในการควบคุมร่างกาย การหายใจ และจังหวะการเคลื่อนไหว ช่วยให้ผู้ฝึกมีความอดทน ทั้งทางร่างกายและจิตใจ ลดความเครียดและผ่อนคลายจิตใจ น้ำช่วยลดแรงกดบนข้อต่อ ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย การออกกำลังในน้ำช่วยหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน ทำให้ร่างกายและจิตใจสดชื่น

ทักษะและเทคนิคพื้นฐาน

  • การฝึกหายใจเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับนักว่ายน้ำใหม่ ตัวอย่างเชิงปริมาณ: ฝึกหายใจทุก 3 จังหวะแขน สำหรับท่าฟรีสไตล์ เพื่อให้ร่างกายได้รับออกซิเจนเพียงพอ และลดความเหนื่อยล้า
  • ขาช่วยสร้างแรงขับเคลื่อนและทรงตัวในน้ำ ท่าฟรีสไตล์และหลัง: เตะขาสลับขึ้น-ลง ประมาณ 60 – 80 ครั้งต่อนาที ท่าผีเสื้อ: เตะขาพร้อมกันแบบ Dolphin Kick ประมาณ 30 – 40 ครั้งต่อนาที ท่ากบ: เตะแบบวงกลมพร้อมกัน 2 ขา ประมาณ 20 – 30 ครั้งต่อนาที 
  • รักษาแนวตัวให้ราบกับผิวน้ำเพื่อลดแรงต้าน ฝึกลอยตัวหน้าคว่ำและหลัง อย่างน้อย 30–60 วินาทีต่อครั้ง เพื่อความมั่นใจในการว่ายน้ำ
  • เริ่มจาก Push-off และ Dolphin Kick (ท่าฟรีสไตล์/ผีเสื้อ) หรือ Push-off จากผนัง (ท่ากบ/หลัง) การหมุนตัว (Flip Turn) สำหรับท่าฟรีสไตล์และหลัง ช่วยประหยัดเวลา ประมาณ 0.5 – 1 วินาทีต่อการหมุนหนึ่งครั้ง ในการแข่งขัน

ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการว่ายน้ำ ?

ช่วงเช้า (6.00 – 9.00 น.)

  • ร่างกายยังสดชื่น อุณหภูมิร่างกายต่ำ ทำให้เผาผลาญพลังงานได้ดี
  • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ เริ่มต้นวันด้วยกิจกรรมกระตุ้นร่างกาย
  • ควรอุ่นร่างกายก่อนว่ายน้ำ 5–10 นาทีเพื่อป้องกันการบาดเจ็บ

ช่วงบ่ายต้น (15.00 – 17.00 น.)

  • กล้ามเนื้อและข้อต่ออุ่นตัวเต็มที่ ทำให้เคลื่อนไหวได้ยืดหยุ่นและแรงขับสูงสุด
  • เหมาะสำหรับผู้ฝึก เพิ่มความเร็วหรือแข่งขัน
  • อุณหภูมิของน้ำและสระว่ายน้ำมักคงที่ ช่วยลดความเสี่ยงต่อการตะคริว

ช่วงเย็น (18.00 – 20.00 น.)

  • ช่วยผ่อนคลายร่างกายหลังเลิกงานหรือเรียน
  • เหมาะสำหรับ ว่ายเพื่อสุขภาพและคลายเครียด
  • ควรหลีกเลี่ยงการว่ายน้ำใกล้เวลานอนมากเกินไป เพราะอาจกระตุ้นร่างกายให้ตื่นตัว

บทสรุป ของ ว่ายน้ำ ตอนไหนดีที่สุด

สรุป ว่ายน้ำ ตอนไหนดีที่สุด การเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมช่วยให้ ว่ายน้ำได้เต็มประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บ และเพิ่มประโยชน์ต่อสุขภาพ

ทำไมว่ายน้ำ ถึงถือเป็นกีฬาสากล ?

ว่ายน้ำถือเป็นกีฬาสากล เพราะสามารถฝึกและแข่งขันได้ทั่วโลก ไม่จำกัดเพศหรือวัย มีหลักเกณฑ์ กติกามาตรฐานเดียวกัน ทั้งระดับสมัครเล่นและมืออาชีพ อีกทั้งยังถูกบรรจุในโอลิมปิก การแข่งขันระดับนานาชาติ 

ผู้เริ่มต้นควรฝึกท่าว่ายน้ำไหนก่อน ?

ผู้เริ่มต้นควรฝึก ท่ากบ (Breaststroke) ก่อน เพราะเป็นท่าที่เคลื่อนไหวช้าและควบคุมง่าย ทำให้เรียนรู้การหายใจและการเตะขาได้สะดวก จากนั้นจึงค่อยฝึกท่าฟรีสไตล์ เพื่อเพิ่มความเร็ว และความคล่องตัว

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง