หลอดลม ทำงานยังไง หน้าที่สำคัญที่คุณอาจไม่เคยรู้

หลอดลม ทำงานยังไง

หลอดลม ทำงานยังไง คำถามนี้ฟังดูอาจธรรมดา แต่ความสำคัญของหลอดลมกลับไม่ธรรมดาเลย เมื่อคุณหายใจเข้าไปแต่ละครั้ง หลอดลมเป็นเสมือนทางเดินหลักของอากาศที่เข้าสู่ปอด การเข้าใจว่าหลอดลม ทำงานยังไง ช่วยให้เราดูแลสุขภาพทางเดินหายใจได้ดีขึ้น

  • ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับหลอดลม
  • การทำงานของหลอดลม
  • วิธีดูแลรักษาหลอดลม

หลอดลมคืออะไร และมีหน้าที่อย่างไร

หลอดลม ทำงานยังไง

ก่อนจะไปดูว่าหลอดลมทำงานยังไง เรามาทำความรู้จักกับเจ้าหลอดลมกันก่อนนะคะ หลอดลม (Trachea) คือท่อกลวงยาวที่เชื่อมต่อระหว่างกล่องเสียงและปอด หน้าที่หลักของหลอดลมคือการนำอากาศเข้า-ออกจากปอด ผนังของหลอดลมมีโครงสร้างเป็นกระดูกอ่อนรูปตัว C เพื่อไม่ให้หลอดลมยุบตัว [1]

หลอดลมยังมีเยื่อเมือกและขนเล็ก ๆ ที่ช่วยกรองฝุ่นละอองและสิ่งแปลกปลอมไม่ให้เข้าสู่ปอด หลอดลม (Trachea และ Bronchi) เป็นท่อที่เชื่อมต่อจากกล่องเสียงลงไปยังปอด เมื่อเราหายใจ อากาศจะผ่านหลอดลมเข้าสู่ปอด เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนก๊าซ หลอดลมแบ่งออกเป็นหลอดลมใหญ่ (trachea) และหลอดลมเล็กที่แยกเข้าสู่ปอดแต่ละข้าง [2]

ผนังหลอดลมมีเยื่อเมือกและขนเล็กๆ (cilia) คอยดักจับฝุ่นและเชื้อโรค โครงสร้างของหลอดลมทำจากกระดูกอ่อนรูปตัว C ทำให้ยืดหยุ่นและไม่แฟบลงขณะหายใจ

โครงสร้างของหลอดลมที่ควรรู้

หลอดลมมีความยาวประมาณ 10-12 เซนติเมตร และกว้างประมาณ 2 เซนติเมตร ผนังด้านในของหลอดลมบุด้วยเซลล์เยื่อบุผิวที่มีขน (cilia) ขนเหล่านี้ช่วยพัดเมือกและฝุ่นออกจากทางเดินหายใจ โครงสร้างที่ยืดหยุ่นนี้ช่วยให้หายใจได้สะดวกแม้ในขณะออกแรง ถ้าหลอดลมมีการอักเสบหรือบวม จะส่งผลให้หายใจลำบากทันที [3]

หลอดลมไม่ใช่แค่ท่อส่งอากาศธรรมดา แต่มีโครงสร้างซับซ้อนที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องปอดของเรา ทั้งกระดูกอ่อน เยื่อเมือก และขนเล็กๆ ล้วนทำหน้าที่ประสานกันอย่างดี หากโครงสร้างเหล่านี้เสียหายหรืออักเสบ อาจนำไปสู่ปัญหาใหญ่ได้ ได้แก่ หลอดลมอักเสบ หรือปอดอักเสบ 

หลอดลมเชื่อมต่อกับระบบใดบ้าง

  1. ระบบทางเดินหายใจ (Respiratory System) หลอดลมเป็นโครงสร้างหลักของระบบทางเดินหายใจ
    ทำหน้าที่เป็นท่อส่งอากาศจากลำคอไปยังปอด และจากปอดกลับออกมา เชื่อมต่อกับส่วนอื่นๆ ได้แก่ จมูก คอหอย กล่องเสียง และถุงลมปอด เป็นเส้นทางที่อากาศใช้ในการแลกเปลี่ยนออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์
  2. ระบบไหลเวียนโลหิต (Circulatory System)
    แม้หลอดลมจะไม่ใช่ส่วนหนึ่งโดยตรงของระบบไหลเวียนโลหิต แต่ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในถุงลมปอดที่ปลายหลอดลม ที่นี่จะมีเส้นเลือดฝอยมากมายมารอรับออกซิเจนและปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์
    จึงเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญของสองระบบ
  3.  ระบบภูมิคุ้มกัน (Immune System)ภายในหลอดลมมีเซลล์เม็ดเลือดขาวและเมือกที่ช่วยดักจับเชื้อโรค ขนเล็กๆ หรือ cilia จะพัดพาสิ่งแปลกปลอมออกจากร่างกายผ่านการไอหรือจาม หากมีสิ่งแปลกปลอมเข้ามา ระบบภูมิคุ้มกันจะตอบสนองทันทีเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
  4. ระบบประสาท (Nervous System) เส้นประสาทควบคุมการหดตัวและขยายตัวของหลอดลม ยังควบคุมการตอบสนองต่อสิ่งระคายเคือง ได้แก่ การไอหรือหดเกร็งของหลอดลม ซึ่งสำคัญมากในผู้ที่เป็นโรคหืดหรือหลอดลมไวต่อสิ่งกระตุ้น

หลอดลม ทำงานยังไงในระบบหายใจ

เมื่อเราหายใจเข้า หลอดลมจะเป็นท่อที่นำอากาศไปสู่ปอดโดยตรง กลไกการทำงานของหลอดลมจะประสานกับกล้ามเนื้อระหว่างซี่โครงและกะบังลม ในขณะเดียวกัน ขนเล็ก ๆ ภายในหลอดลมจะกรองอากาศจากสิ่งแปลกปลอม เมื่อหายใจออก อากาศที่มีคาร์บอนไดออกไซด์ก็จะถูกนำออกผ่านหลอดลมเช่นกัน

หลอดลมจึงมีบทบาททั้งรับและส่งผ่านอากาศในทุกลมหายใจ หลอดลมทำหน้าที่เป็น “ทางผ่านของอากาศ” เมื่อเราหายใจเข้า อากาศจะไหลจากจมูกหรือปาก ผ่านกล่องเสียงเข้าสู่ หลอดลมใหญ่ (trachea) หลอดลมใหญ่จะนำอากาศลงสู่ปอด โดยจะแตกแขนงออกเป็นหลอดลมซ้ายและขวา จากนั้นจะแยกย่อยลงเป็นหลอดลมเล็กๆ มากมาย กระจายเข้าสู่ถุงลมปอด (alveoli)

อากาศไปถึงถุงลมปอดเพื่อแลกเปลี่ยนก๊าซ ที่ปลายทางของหลอดลมคือ “ถุงลมปอด” ซึ่งเป็นจุดที่อากาศจะแลกเปลี่ยนก๊าซ ออกซิเจนจากอากาศจะซึมผ่านถุงลมเข้าสู่เส้นเลือด หลอดลมทำหน้าที่เป็นท่อส่งอากาศจากภายนอกเข้าสู่ปอดและช่วยป้องกันสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ทางเดินหายใจ เป็นอวัยวะสำคัญที่ทำให้ระบบหายใจทำงานได้อย่างราบรื่น และมีประสิทธิภาพตลอดเวลา

ทำไมหลอดลมถึงสำคัญต่อระบบหายใจ

หลอดลมไม่เพียงแค่เป็นท่อทางผ่านของอากาศ แต่ยังทำหน้าที่เหมือนด่านหน้าที่กรองสิ่งปนเปื้อน หากไม่มีหลอดลมที่ทำงานดี อากาศที่เข้าสู่ปอดจะมีสารพิษตกค้าง ส่งผลให้ปอดอักเสบ หรือเกิดโรคเรื้อรังได้ ดังนั้นการดูแลหลอดลมจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามเลย

หลอดลม มีความสำคัญต่อระบบหายใจ เพราะเป็นทางผ่านหลักที่นำอากาศจากภายนอกเข้าสู่ปอด และส่งอากาศที่มีคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากร่างกาย อีกทั้งยังมีหน้าที่กรองฝุ่นละอองและสิ่งแปลกปลอมด้วยขนเล็ก ๆ และเยื่อเมือกภายใน ช่วยป้องกันปอดจากการติดเชื้อและระคายเคือง ทำให้ระบบหายใจทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย

สัญญาณที่บ่งบอกว่าหลอดลมอาจมีปัญหา

อาการไอแห้งเรื้อรัง อาการแน่นหน้าอก หรือหายใจไม่สะดวก เป็นสัญญาณที่อาจบ่งชี้ว่าหลอดลมอักเสบหรือมีสิ่งแปลกปลอม ถ้าเสียงหายหรือเสียงเปลี่ยน ก็อาจมีความเกี่ยวข้องกับหลอดลมด้วย บางรายอาจมีอาการไอเสียงแหบร่วมด้วย หากมีอาการเหล่านี้นานเกิน 2 สัปดาห์ ควรปรึกษาแพทย์

สัญญาณที่บ่งบอกว่าหลอดลมอาจมีปัญหามักแสดงออกทางระบบทางเดินหายใจอย่างชัดเจน เริ่มจากอาการไอเรื้อรัง โดยเฉพาะไอแห้งหรือมีเสมหะมากผิดปกติ หายใจลำบาก รู้สึกแน่นหน้าอก หรือหายใจมีเสียงหวีด บางคนอาจมีอาการเสียงแหบหรือเสียงเปลี่ยน โดยไม่ทราบสาเหตุ หากมีไข้ร่วมกับไอ อาจบ่งบอกถึงการอักเสบของหลอดลมหรือการติดเชื้อ

ในบางกรณีอาจรู้สึกเจ็บบริเวณหน้าอกเมื่อไอแรง ๆ รู้สึกเหนื่อยง่ายแม้จะทำกิจกรรมเบา ๆ ก็อาจเกี่ยวข้องกับหลอดลมได้ หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์ หรือแย่ลง ควรรีบพบแพทย์ เพราะปัญหาหลอดลมหากปล่อยไว้อาจลุกลามเป็นโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง

การดูแลหลอดลมให้แข็งแรงในชีวิตประจำวัน

การรักษาหลอดลมให้แข็งแรง เริ่มต้นได้ง่ายจากพฤติกรรมประจำวัน หลีกเลี่ยงการสูดดมควันพิษ ได้แก่ ควันบุหรี่ หรือควันจากท่อไอเสีย ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อให้เยื่อเมือกในหลอดลมไม่แห้งเกินไป รับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผักใบเขียวและ ผลไม้ หมั่นออกกำลังกายเพื่อส่งเสริมการทำงานของปอดและหลอดลม

การดูแลหลอดลมให้แข็งแรงในชีวิตประจำวันเริ่มต้นได้ง่ายจากพฤติกรรมที่เราทำเป็นประจำ หลีกเลี่ยงการสูดดมควันบุหรี่ ควันพิษ และฝุ่นละอองที่เป็นอันตรายต่อทางเดินหายใจ สวมหน้ากากอนามัยเมื่อต้องออกไปในพื้นที่ที่มีมลภาวะสูงหรือช่วงที่ค่าฝุ่น PM 2.5 สูง ดื่มน้ำให้เพียงพอวันละ 6-8 แก้ว เพื่อให้เยื่อเมือกในหลอดลมไม่แห้งและทำงานได้ดี

เลือกรับประทานอาหารที่มีวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผลไม้สดและผักใบเขียว หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของระบบหายใจและกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้อง พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายมีเวลาในการฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ หากมีอาการผิดปกติทางระบบหายใจ ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยอย่างถูกต้อง

อาหารอะไรบ้างที่ดีต่อหลอดลม

ผักผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี ได้แก่ ส้ม ฝรั่ง บรอกโคลี สมุนไพรไทยอย่างขิง กระเทียม หรือมะนาว ก็ช่วยลดการอักเสบได้ดี หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้เกิดเสมหะ เช่น นม หรือของทอด อาหารที่ดีจะช่วยให้หลอดลมไม่ระคายเคืองและฟื้นตัวได้ไว อาหารสุขภาพจึงไม่ใช่แค่เรื่องหุ่น แต่เกี่ยวกับทางเดินหายใจด้วย

อาหารที่ดีต่อหลอดลมควรเน้นที่สารอาหารที่ช่วยลดการอักเสบและเสริมภูมิคุ้มกันของระบบทางเดินหายใจ ผักใบเขียว ได้แก่ น้า ผักโขม และบรอกโคลี อุดมไปด้วยวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระ ผลไม้รสเปรี้ยวอย่างส้ม มะนาว ฝรั่ง และกีวี ช่วยเสริมความแข็งแรงของหลอดลม

ขิง กระเทียม และขมิ้น เป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและช่วยลดเสมหะ น้ำผึ้งมีคุณสมบัติในการเคลือบคอ ลดการระคายเคืองในหลอดลมได้ดี ปลาที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 ได้แก่ แซลมอน ก็มีส่วนช่วยลดการอักเสบในทางเดินหายใจ

ควรหลีกเลี่ยงอะไรเพื่อถนอมหลอดลม

หลีกเลี่ยงมลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะในวันที่ค่าฝุ่น PM 2.5 สูง งดการสูบบุหรี่ รวมถึงการอยู่ใกล้คนที่สูบบุหรี่ ระวังไม่ให้คอแห้ง หรือพูดตะโกนมากเกินไป ซึ่งอาจทำร้ายหลอดลมได้ ควรพักผ่อนให้เพียงพอ และไม่หักโหม ถ้าเจ็บคอเรื้อรังหรือมีอาการผิดปกติ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย

โดยสรุป หลอดลม ทำงานยังไง หน้าที่สำคัญที่คุณอาจไม่เคยรู้

โดยสรุป หลอดลม ทำงานยังไง หลอดลมมีบทบาทสำคัญต่อการหายใจของเราทุกคน หน้าที่ของหลอดลมคือการนำอากาศเข้าและออกจากปอด พร้อมกรองฝุ่นละออง หากหลอดลมมีปัญหา จะกระทบทั้งระบบหายใจและสุขภาพโดยรวม การดูแลหลอดลมจึงควรทำเป็นประจำ ทั้งการกินอยู่และป้องกันมลภาวะ

หลอดลม ทำงานยังไงเมื่อเราหายใจเข้า

เมื่อเราหายใจเข้า อากาศจะผ่านจมูกลงสู่หลอดลม หลอดลมจะนำอากาศผ่านไปยังหลอดลมฝอยและเข้าสู่ถุงลมในปอด กระบวนการนี้ทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนเพียงพอ

หากหลอดลมอักเสบจะมีอาการอย่างไร

อาจมีอาการไอแห้งหรือไอมีเสมหะ หายใจลำบาก เสียงแหบ บางคนอาจมีไข้หรือแน่นหน้าอกร่วมด้วย หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์ ควรพบแพทย์

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง