หัวใจ มีหน้าที่อะไร ไขข้อสงสัยสำคัญของร่างกายเรา

หัวใจ มีหน้าที่อะไร

หัวใจ มีหน้าที่อะไร เป็นคำถามที่สาว ๆ หลายคนอาจสงสัย โดยเฉพาะเมื่อเริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพของตัวเองมากขึ้น หัวใจเป็นอวัยวะสำคัญที่ทำงานหนักทุกวินาที แม้ขณะเรานอนหลับก็ตาม ถ้าเรารู้ว่าหัวใจมีบทบาทอะไรบ้าง เราก็จะสามารถดูแลมันได้ดีขึ้นค่ะ  วันนี้เราจะมาเจาะลึกเรื่องนี้ไปพร้อมกันนะคะ

  • วิธีดูแลรักษาหัวใจ
  • การทำงานของหัวใจ
  • โรคที่พบได้บ่อย

หน้าที่หลัก ของหัวใจ ในร่างกายของเรา

หัวใจ มีหน้าที่อะไร

แม้จะเป็นอวัยวะเล็ก ๆ เมื่อเทียบกับร่างกายทั้งร่าง แต่หัวใจมีพลังและความสำคัญที่เกินขนาดตัวมากค่ะ หัวใจของเราทำหน้าที่สูบฉีดเลือดไปทั่วร่างกาย เป็นเหมือนเครื่องยนต์ที่ไม่เคยหยุดทำงานเลยแม้แต่ช่วงเดียว การทำงานของหัวใจมีผลโดยตรงต่อระบบหายใจ การลำเลียงออกซิเจน และแม้กระทั่งอารมณ์ของเรา

สูบฉีดเลือดไปทั่วร่างกาย – สูบฉีดเลือดไปทั่วร่างกาย – หัวใจทำหน้าที่เป็นปั๊มที่สูบฉีดเลือดให้ไหลเวียนไปยังทุกส่วนของร่างกาย เพื่อให้เซลล์ได้รับออกซิเจนและสารอาหารที่จำเป็น รวมถึงนำของเสียกลับมาขับออกจากร่างกาย ลำเลียงออกซิเจนและสารอาหาร – ส่งสิ่งจำเป็นไปเลี้ยงเซลล์ต่าง ๆ [1]

เมื่อหัวใจสูบฉีดเลือด เลือดที่ไหลออกจากหัวใจจะผ่านไปยังปอดเพื่อรับออกซิเจน จากนั้นเลือดที่มีออกซิเจนและสารอาหาร จะถูกลำเลียงไปยังเซลล์ต่าง ๆ ทั่วร่างกาย โดยเซลล์จะใช้สิ่งเหล่านี้ในการสร้างพลังงาน ซ่อมแซมตัวเอง และดำรงชีวิต ถ้าขาดออกซิเจนหรือสารอาหาร เซลล์จะทำงานผิดปกติหรืออาจตายได้ นั่นจึงทำให้การลำเลียงนี้มีความสำคัญมากต่อสุขภาพของเรา

หัวใจช่วย รักษาอุณหภูมิร่างกาย

 หัวใจ มีหน้าที่ควบคุมการไหลเวียนของเลือดเพื่อช่วยปรับอุณหภูมิของร่างกายให้เหมาะสม เช่น เมื่อร่างกายร้อน เลือดจะไหลเวียนไปยังผิวหนังมากขึ้น เพื่อระบายความร้อนออกจากร่างกาย แต่ถ้าอากาศเย็น เลือดจะถูกจำกัดให้อยู่ภายในร่างกายส่วนลึกมากขึ้น เพื่อรักษาความอบอุ่น นี่คือหนึ่งในกลไกสำคัญที่ช่วยให้ร่างกายรักษาอุณหภูมิให้คงที่อยู่เสมอ

หัวใจควบคุมความดันโลหิต ในร่างกายยังไง

หัวใจควบคุมความดันโลหิต – หัวใจบีบตัวและคลายตัวเป็นจังหวะอย่างสม่ำเสมอเพื่อสูบฉีดเลือดไปทั่วร่างกาย แรงบีบตัวของหัวใจนี้จะสร้างแรงดันในหลอดเลือด เรียกว่า “ความดันโลหิต” ถ้าบีบตัวแรงหรือเร็วเกินไป ความดันจะสูงขึ้น

แต่ถ้าบีบตัวอ่อนหรือช้าเกินไป ความดันจะต่ำลง ระบบประสาทและฮอร์โมนในร่างกายยังช่วยควบคุมการทำงานของหัวใจเพื่อให้ความดันโลหิตอยู่ในระดับที่เหมาะสมต่อการไหลเวียนของเลือดและการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ

การส่งเซลล์ภูมิคุ้มกัน ให้ร่างกาย

ส่งเซลล์ภูมิคุ้มกัน – ช่วยลำเลียงเซลล์เม็ดเลือดขาว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบภูมิคุ้มกัน ผ่านทางกระแสเลือดไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เซลล์เหล่านี้ทำหน้าที่ตรวจจับ ทำลาย และกำจัดเชื้อโรค เช่น แบคทีเรีย ไวรัส หรือสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ ที่เข้าสู่ร่างกาย

การสูบฉีดเลือดอย่างต่อเนื่องของหัวใจ จึงมีบทบาทสำคัญในการกระจายเซลล์ภูมิคุ้มกันให้ทำงานได้ทั่วทั้งร่างกาย ช่วยป้องกันและต่อสู้กับโรคต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อวัยวะหัวใจ กับระบบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง

หัวใจ เป็นอวัยวะที่สำคัญมากที่สุดอย่างหนึ่งในร่างกายมนุษย์ ทำหน้าที่หลักในการสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงทั่วร่างกาย โดยทำงานร่วมกับหลอดเลือดในระบบไหลเวียนโลหิต เพื่อส่งออกซิเจนและสารอาหารที่จำเป็นให้กับเซลล์ทุกส่วน รวมทั้งช่วยนำของเสียกลับมาขับออกจากร่างกาย  จึงเป็นศูนย์กลางของระบบหมุนเวียนที่ช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การทำงานของอวัยวะหัวใจไม่ได้เกิดขึ้นอย่างโดดเดี่ยว แต่มีความเกี่ยวข้องกับระบบอื่น ๆ อย่างใกล้ชิด เช่น ระบบหายใจ ซึ่งช่วยเติมออกซิเจนให้เลือดที่ไหลผ่านปอด ระบบประสาทที่ควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจให้เหมาะสมกับสภาพร่างกาย และระบบต่อมไร้ท่อที่ปล่อยฮอร์โมนซึ่งมีผลต่อความดันโลหิตและอัตราการเต้นของหัวใจ ทุกระบบเหล่านี้ทำงานประสานกันเพื่อรักษาความสมดุลของร่างกาย

นอกจากนี้ หัวใจยังมีบทบาทในระบบภูมิคุ้มกัน โดยช่วยลำเลียงเซลล์เม็ดเลือดขาวไปยังส่วนต่าง ๆ เพื่อป้องกันและต่อสู้กับเชื้อโรค รวมถึงระบบขับถ่ายที่อาศัยการไหลเวียนของเลือดในการนำของเสียไปยังอวัยวะที่ทำหน้าที่กำจัด หัวใจจึงไม่เพียงแต่มีหน้าที่สูบฉีดเลือดเท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญต่อการทำงานของระบบร่างกายทั้งหมดอย่างแยกไม่ออก

หัวใจ กับสมอง มีความสัมพันธ์กันอย่างไร

หัวใจและสมอง เป็นอวัยวะที่มีความสำคัญสูงสุดในการควบคุมการทำงานของร่างกาย สมองทำหน้าที่เป็นศูนย์ควบคุมหลักของร่างกาย ส่วนหัวใจทำหน้าที่สูบฉีดเลือดเพื่อส่งออกซิเจนและสารอาหารไปเลี้ยงสมองและอวัยวะต่าง ๆ ทั้งสองอวัยวะนี้มีความสัมพันธ์ที่แนบแน่น และต้องพึ่งพาซึ่งกันและกันเพื่อให้ร่างกายทำงานได้ตามปกติ

สมองจำเป็นต้องได้รับเลือดจากหัวใจอย่างสม่ำเสมอ เพราะสมองต้องการออกซิเจนมากกว่าส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย ถ้าหัวใจทำงานผิดปกติ ได้แก่ เต้นผิดจังหวะ หรือสูบฉีดเลือดไม่เพียงพอ สมองอาจได้รับเลือดไม่พอ ส่งผลให้เกิดอาการเวียนศีรษะ หน้ามืด หรือแม้กระทั่งหมดสติได้ ในกรณีรุนแรง อาจทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง ได้แก่ อัมพฤกษ์หรืออัมพาต

ในทางกลับกัน สมองก็มีบทบาทสำคัญในการควบคุมการทำงานของหัวใจด้วย โดยระบบประสาทอัตโนมัติในสมองจะสั่งการให้หัวใจเต้นช้าหรือเร็วขึ้นตามความต้องการของร่างกาย ได้แก่ เมื่อตกใจ ตื่นเต้น หรือออกกำลังกาย สมองจะสั่งให้หัวใจเต้นเร็วขึ้นเพื่อสูบฉีดเลือดให้มากพอ ดังนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างหัวใจและสมองจึงเป็นระบบที่ซับซ้อนและสมดุล 

หัวใจกับระบบย่อยอาหาร ความสัมพันธ์กันอย่างไร

อวัยวะหัวใจและระบบย่อยอาหารเป็นสองส่วนที่ทำงานร่วมกันเพื่อรักษาสุขภาพของร่างกาย ระบบย่อยอาหารมีหน้าที่แปรรูปอาหารให้กลายเป็นสารอาหารที่ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้ ขณะที่อวัยวะหัวใจทำหน้าที่สูบฉีดเลือดไปยังอวัยวะต่าง ๆ รวมทั้งระบบย่อยอาหาร เพื่อส่งสารอาหารที่ย่อยแล้วไปเลี้ยงเซลล์ทั่วร่างกาย

เลือดที่หัวใจสูบฉีดไปยังระบบย่อยอาหารจะนำออกซิเจนไปเลี้ยงเซลล์ในกระเพาะอาหารและลำไส้ ช่วยให้การทำงานของอวัยวะเหล่านี้มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ เลือดยังลำเลียงสารอาหารที่ถูกดูดซึมจากอาหารเข้าสู่กระแสเลือดเพื่อส่งไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย ทำให้เซลล์ต่าง ๆ ได้รับพลังงานและสารอาหารที่จำเป็น

วิธีดูแล หัวใจ ให้แข็งแรงอยู่ตลอดช่วงอายุ

วิธีดูแลหัวใจให้แข็งแรง ที่ทำตามได้ง่าย ๆ

  1. ออกกำลังกายเป็นประจำ – เดินเร็ว วิ่ง ว่ายน้ำ หรือปั่นจักรยาน เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของหัวใจ
  2. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ – เน้นผัก ผลไม้ ธัญพืชเต็มเมล็ด และลดการกินอาหารที่มีไขมันสูง น้ำตาล และเกลือ
  3. ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ – น้ำหนักตัวที่เหมาะสมช่วยลดภาระของ
  4. งดสูบบุหรี่และลดการดื่มแอลกอฮอล์ – เพราะสารพิษในบุหรี่และแอลกอฮอล์ทำลายหลอดเลือด
  5. พักผ่อนให้เพียงพอ – นอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน เพื่อให้ได้ฟื้นฟู
  6. จัดการความเครียด – ใช้วิธีผ่อนคลาย ทำสมาธิ โยคะ หรือทำกิจกรรมที่ชอบ
  7. ตรวจสุขภาพประจำปี – เพื่อตรวจวัดความดันโลหิต ระดับน้ำตาล และไขมันในเลือด
  8. ดื่มน้ำให้เพียงพอ – ช่วยให้เลือดไหลเวียนดีและลดภาระหัวใจ
  9. หลีกเลี่ยงการนั่งหรือนอนนิ่งนานเกินไป – ลุกขึ้นขยับร่างกายบ้างเพื่อกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือด

ปัจจัยเสี่ยงที่ควรหลีกเลี่ยง

ปัจจัยเสี่ยงที่ควรหลีกเลี่ยงเพื่อป้องกันโรคหัวใจ

  1. สูบบุหรี่ – ทำลายหลอดเลือดและเพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจ
  2. อาหารที่มีไขมันสูงและน้ำตาลมาก – ทำให้ไขมันอุดตันหลอดเลือดและเพิ่มน้ำหนัก
  3. ความเครียดสะสม – ส่งผลให้ความดันโลหิตสูงและหัวใจทำงานหนัก
  4. ขาดการออกกำลังกาย – ทำให้หัวใจและหลอดเลือดอ่อนแอ
  5. ดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป – ทำลายหัวใจและเพิ่มความดันโลหิต
  6. น้ำหนักตัวเกินหรืออ้วน – เพิ่มภาระหัวใจและเสี่ยงโรคเบาหวาน
  7. ความดันโลหิตสูง – ทำให้หัวใจทำงานหนักและหลอดเลือดเสียหาย
  8. โรคเบาหวาน – เพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด
  9. นอนหลับไม่เพียงพอ – กระทบระบบหัวใจและหลอดเลือด

การหลีกเลี่ยงปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้หัวใจแข็งแรงและลดความเสี่ยงโรคหัวใจได้มากขึ้น
ที่มา: สวัสดีเราคือ “หัวใจ” [2]

โรคที่พบบ่อยเกี่ยวกับ หัวใจ เรา

โรคหัวใจเป็นกลุ่มโรคที่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของหัวใจและระบบไหลเวียนเลือด เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้คนทั่วโลกเกิดปัญหาสุขภาพและเสียชีวิตก่อนวัยอันควร โรคมีหลายชนิด แต่ละชนิดมีลักษณะและอาการที่แตกต่างกัน บางโรคอาจเกิดขึ้นเฉียบพลันและรุนแรง ในขณะที่บางโรคพัฒนาอย่างช้า ๆ และค่อย ๆ ทำลายสุขภาพของหัวใจ

โรคหัวใจขาดเลือด คืออะไร

โรคหัวใจขาดเลือด คือภาวะที่หลอดเลือดตีบหรืออุดตัน ทำให้เลือดที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจไม่เพียงพอ ส่งผลให้หัวใจขาดออกซิเจนและสารอาหาร เมื่อกล้ามเนื้อขาดเลือด อาจเกิดอาการเจ็บหน้าอก แน่นหน้าอก หรือเจ็บร้าวไปที่แขน ข้างลำตัว หรือคอ ในบางกรณีรุนแรงอาจทำให้หัวใจวายเฉียบพลันได้

สาเหตุหลักของโรคนี้มักเกิดจากการสะสมของไขมันและคราบในผนังหลอดเลือด ซึ่งทำให้หลอดเลือดแคบลงหรืออุดตัน นอกจากนี้ ปัจจัยเสี่ยง อาทิ การสูบบุหรี่ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน และการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง ก็ส่งผลให้โรคนี้เกิดขึ้นได้ง่ายขึ้น
ที่มา: โรคหัวใจ [3]

โรคลิ้นหัวใจผิดปกติ

โรคลิ้นหัวใจผิดปกติ คือภาวะที่ลิ้นหัวใจ ซึ่งทำหน้าที่เปิดปิดเพื่อควบคุมการไหลเวียนของเลือดในหัวใจ เกิดความเสียหายหรือทำงานผิดปกติ ทำให้เลือดไหลย้อนกลับ หรือไหลผ่านไม่สะดวก ส่งผลให้หัวใจต้องทำงานหนักขึ้นและเลือดไหลเวียนไม่เต็มที่ อาการของโรคนี้อาจรวมถึงเหนื่อยง่าย เจ็บหน้าอก หรือบวมตามร่างกาย

สาเหตุของโรคลิ้นหัวใจผิดปกติมีหลายอย่าง อาทิ การติดเชื้อที่ลิ้นหัวใจ โรคลิ้นหัวใจพิการแต่กำเนิด หรือการเสื่อมสภาพตามอายุ นอกจากนี้ การอักเสบหรือโรคอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อลิ้นหัวใจก็สามารถทำให้เกิดโรคนี้ได้เช่นกัน

อาหารที่ช่วยดูแลสุขภาพหัวใจมักเน้นที่การลดไขมันเลว เพิ่มไขมันดี

อาหารหลักที่ควรทาน

  1. ปลาทะเลน้ำลึก ได้แก่ ปลาแซลมอน ปลาแมคเคอเรล และปลาทูน่า มีกรดไขมันโอเมก้า-3 สูง ช่วยลดการอักเสบและป้องกันโรคหัวใจ
  2. ธัญพืช ได้แก่ อัลมอนด์ วอลนัท เมล็ดแฟลกซ์ ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและเสริมใยอาหาร
  3. ผักผลไม้สด โดยเฉพาะผักใบเขียวและผลไม้ที่อุดมด้วยวิตามินซี ได้แก่ ส้ม เบอร์รี ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ และลดความดันโลหิต
  4. ธัญพืช เต็มเมล็ด อย่างข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ที่มีเส้นใยสูงช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและลดความเสี่ยงโรคหัวใจ
  5. น้ำมันมะกอก เป็นไขมันดีชนิดไม่อิ่มตัว ช่วยลดไขมันเลวและส่งเสริมสุขภาพหลอดเลือด

โดยสรุป หัวใจ มีหน้าที่อะไร ทำงานยังไง

โดยสรุป หัวใจ มีหน้าที่อะไร คำตอบก็คือ หัวใจทำหน้าที่สูบฉีดเลือด และลำเลียงออกซิเจนและสารอาหารไปทั่วร่างกาย รวมถึงช่วยขจัดของเสียออกจากระบบด้วย หัวใจมีบทบาทร่วมกับระบบต่าง ๆ ในร่างกายอย่างลึกซึ้ง และการดูแลหัวใจให้ดีตั้งแต่เนิ่น ๆ คือเคล็ดลับสำคัญในการมีสุขภาพที่ดีในระยะยาว

 หัวใจทำงานตลอดเวลาหรือไม่

ใช่ค่ะ หัวใจทำงานตลอดเวลา ไม่มีวันหยุด เพื่อสูบฉีดเลือดส่งออกซิเจนและสารอาหารไปเลี้ยงร่างกายอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้เซลล์ต่าง ๆ ทำงานได้อย่างปกติและรักษาสมดุลของร่างกายอยู่เสมอ

ถ้าหัวใจเต้นผิดปกติควรทำอย่างไร

ถ้าหัวใจเต้นผิดปกติ ควรหยุดพักผ่อนทันที สังเกตอาการ และหายใจลึก ๆ เพื่อช่วยให้หัวใจกลับมาเต้นปกติ หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น เช่น คาเฟอีนหรือความเครียด หากมีอาการรุนแรง เช่น เจ็บหน้าอก เวียนหัว หรือหมดสติ ต้องรีบพบแพทย์หรือขอความช่วยเหลือทันที และควรดูแลสุขภาพหัวใจอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง