เปิด อาวุธของ กระบี่กระบอง การต่อสู้ ด้วยศิลปะ โบราณ

เปิด อาวุธของ กระบี่กระบอง เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ป้องกันตัว ของคนไทยตั้งแต่สมัยโบราณ สืบทอดมาจากบรรพบุรุษหลายๆ ชั่วคน ไม่มีแหล่งที่มาชัดเจน เริ่มรู้จักกันในช่วง รัชกาลที่ 2 ที่มีการกล่าวถึงในประวัติวรรณคดีต่างๆ ได้แพร่หลายในประเทศไทย อุปกรณ์จะมีหลายชนิดที่ใช้ แบบใช้ป้องกันตัว และแบบใช้ต่อสู้ ลักษณะการใช้งานแตกต่างกันไป มาทำความรู้จักไปพร้อมๆ กัน

อาวุธสร้างขึ้นมาใช้ในการรบเพื่อใช้ป้องกันตัว
การนำเอาโลหะมาพัฒนาเป็นอาวุธ ทำขึ้นใช้สู้กับศัตรู
เก็บไว้ในที่ปลอดภัยเป็นระเบียบและทำความสะอาดให้ถูกวิธี

ทำไม กระบี่ ถึงเป็น อาวุธป้องกันตัว?

เพราะเป็นอุปกรณ์ที่มนุษย์สร้างขึ้นมาใช้ในยามรบ หรือป้องกันตัว มีมาตั้งแต่โบราณ มนุษย์เป็นสัตว์ที่อ่อนแอ ไม่มีอาวุธเฉพาะตัวแต่กำเนิด เหมือนสัตว์ที่มี เล็บ ขน ปีก เขา เขี้ยว หรือ สัมผัสพิเศษการรับรู้หรือดมกลิ่น เพื่อการอยู่รอด มนุษย์มีร่างกาย และมันสมองที่ฉลาด จึงคิดสร้างอาวุธขึ้นมาเอง เพื่อใช้ป้องกันตัว ด้วยการหาวัสดุจากท้องถิ่นมาดัดแปลงเป็นอุปกรณ์ต่างๆ ขึ้นมา

อุปกรณ์ ต่อสู้ กระบี่กระบอง

อาวุธของ กระบี่กระบอง คืออาวุธต่างๆ สมัยโบราณของไทยที่จำลองมาจากของจริง นำมาใช้ใน การเล่น กระบี่กระบอง ได้แก่ กระบี่ ดาบ ง้าว พลอง โล่ ดั้ง ไม้ศอก และเขน แบ่งเป็น 2 ประเภท แบบใช้ต่อสู้ กับใช้ป้องกันตัว

อาวุธที่ใช้สำหรับการต่อสู้

กระบี่ – ทำจากเหล็ก มีปลายแหลม แบน ทรงตรง แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ กระบี่รำ กระบี่ตี และกระบี่จริง ใช้ในการรบของทหารไทยสมัยโบราณ ใช้สำหรับฟันแทงระยะประชิดตัว
ดาบ – ทำจากเหล็กอย่างดี ปลายโค้งมน แหลม รูปแบน จะหนักกว่ากระบี่ ใช้สำหรับฟันและแทง ยาวประมาณ 90 เซนติเมตร
ง้าว – ทำจากเหล็ก ปลายโค้ง รูปแบน เหมือนดาบ แต่สั้นกว่าดาบ ด้ามเป็นไม้ขนาดยาว ใช้สู้บนหลังช้าง สำหรับฟันและแทง จะยาวประมาณ 220 เซนติเมตร
พลอง – หรือเรียกอีกอย่างว่า ไม้สี่ศอก เพราะมีความยาว 4 ศอก ทำจากหวาย ไม่หักง่าย หรือทำด้วยเหล็ก ยาวประมาณ 200 เซนติเมตร ใช้สำหรับการตี

อาวุธที่ใช้สำหรับป้องกันตัว

โล่ – ทำจาก หวาย หนังสัตว์ หรือโลหะ เป็นเครื่องป้องกันเหมือนกับดั้งหรือเขน ต่างกันที่รูปร่างเท่านั้น คือรูปวงกลม นูนตรงกลาง สามารถใช้จู่โจมโดยใช้ขอบของโล่ได้
ดั้ง – ทำจากหนังสัตว์ หรือหวายปนกัน เป็นสี่เหลี่ยมยาวๆ ลักษณะโค้ง คล้ายๆ กับกาบกล้วย ยาวประมาณ 100 เซนติเมตร ใช้สำหรับป้องกันตัว เล่นคู่กับดาบ
ไม้ศอก – หรือ ไม้สั้น ทำจากไม้ เป็นท่อนไม้รูปสี่เหลี่ยม ยาวประมาณ 45 เซนติเมตร ลักษณะคล้ายกระดูกท่อนแขน นับเป็นเครื่องเล่นที่สำคัญชิ้นหนึ่ง
เขน – ทำจากหวาย โลหะ หรือหนังสัตว์ เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าแบนๆ เป็นเครื่องป้องกันตัวใช้คู่กับดาบ

ที่มา: อาวุธกระบี่กระบอง (23 ธันวาคม 2015) [1]

อาวุธโบราณ คือลักษณะ แบบไหน?

อาวุธโบราณ ของไทย คือ สิ่งที่ทำขึ้นมาเพื่อใช้ป้องกันตัว ใช้ต่อสู้กับศัตรูของคนในสมัยก่อน เริ่มมีการใช้เมื่อประมาณ 30,000 ปีกว่าแล้ว ที่ระบุในหลักฐานทางโบราณคดี ยุคก่อนประวัติศาสตร์ สมัยนั้นเริ่มหาวัสดุจากธรรมชาติมาใช้ พวก กระดูกสัตว์ หิน ไม้ต่างๆ ต่อมาก็นำเอาโลหะ มาพัฒนาเป็นอาวุธ เช่น ปืน ดาบ หอก ง้าว ธนู และหน้าไม้ เป็นอาวุธที่ใช้สังหารข้าศึกได้

ปืน ผลิตเมื่อประมาณปี พ.ศ.1918 ที่ยุโรป คาดว่าเริ่มใช้ที่แรกในประเทศไทย สมัยอยุธยา ทำงานโดยอาศัยกำลังดินปืนที่ส่งกระสุนออกไป มีอยู่ 2 ประเภทคือ ปืนใหญ่ และ ปืนเล็ก
ดาบ เป็นการรบระยะประชิดตัว ประจำตัวทหาร อานุภาพของดาบอยู่ที่กำลัง ของคนที่ใช้ดาบนั้น ของไทยเริ่มใช้ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นต้นมา
หอก ใช้รบในระยะประชิดตัว ความยาวตั้งแต่ 2 เมตร ขึ้นไป มี 2 ชนิด คือ หอกมีกระบังและไม่มีกระบัง
ง้าว เป็นการใช้อาวุธในการรบบนหลังช้าง
ธนูและหน้าไม้ เป็นอาวุธที่ร้ายแรง สามารถยิงในระยะไกล ธนูใช้ในการยิงสังหาร ยิงเผา และยิงนำสาส์น หางของลูกธนูทำด้วยขนนกหรือขนไก่ การทำงานส่งลูกด้วยกำลังยืดหยุ่นของเส้นเชือก หรือกำลังแรงของมนุษย์

ที่มา: อาวุธโบราณของไทย (2013) [2]

เครื่องมืออื่นๆ สำหรับเล่น เป็นกีฬานักรบ

นอกจากจะมีเครื่องมืออาวุธแล้ว ยังมีอุปกรณ์ที่ต้องเตรียมเพื่อใช้เล่นเป็นกีฬาอีก เพราะในการเล่นกีฬาต้องมีสถานที่ที่ต้องใช้ มีเครื่องแต่งกาย มีการบรรเลงเพลงขณะที่เล่นด้วย และต้องมีการดูแลเครื่องต่างๆ ให้ดูดี และคงทนใช้ได้นานๆ

เครื่องใช้ การแข่งขัน กีฬาดาบ

เครื่องแต่งกาย แบ่งเป็น 3 แบบ ผู้เล่นต้องสวมมงคลไว้บนหัว เพื่อเป็นสิริมงคล และสร้างกำลังใจให้ตัวเอง

การแต่งกายแบบนักรบสมัยก่อน ใส่เสื้อยันต์ ไม่มีแขน กางเกงขากว้างยาวครึ่งน่อง มีผ้าผูกเอว
การแต่งแบบชวนบ้านธรรมดา นุ่งผ้าโจงกระเบน เป็นผ้าพื้นหรือผ้าลาย ใส่เสื้อคอกลม แขนสั้น คาดผ้าตะเบ็งมาน ใส่ชุดม่อฮ่อม หรือกางเกงยาว ผ้าขาวม้าคาดเอว
แต่งแบบกีฬานิยม ใส่กางเกงขาสั้นหรือขายาว เสื้อยืด ใส่ผ้าผูกเอว รองเท้าผ้าใบ กับถุงเท้า

เครื่องเล่นดนตรีประกอบ จะมีการบรรเลงเพลงตั้งแต่ตอนเริ่มรำ จนถึงตอนจบ เพื่อช่วยดึงดูดคนดู ช่วยให้เกิดความสนุกสนานครึกครื้น เครื่องดนตรีประกอบด้วย 1. ปี่ชวา 2. กลองแขกตัวผู้ (เสียงสูง) 3. กลองแขกตัวเมีย (เสียงต่ำ) 4. นิ่งจับจังหวะ

สถานที่ใช่แข่ง จะใช้เป็นสนาม จะเล่นในที่แจ้งหรือที่ร่มก็ได้ มีบริเวณกว้างพอสมควร ไม่จำกัดขอบเขต บริเวณ มีการจัดแสดงขึ้นครั้งแรกที่ สนามหลวง เมื่อ พ.ศ. 2482

สามารถอ่านข้อมูลเครื่องเล่นดนตรีประกอบ เพิ่มเติมได้ที่ blogspot

ที่มา: ประวัติกระบี่กระบอง กระบี่กระบอง เป็นศิลปะการป้องกันตัวของไทย (29 พฤษภาคม 2019) [3]

การดูแลรักษา เครื่องมือ ดาบ

อาวุธของ กระบี่กระบอง เครื่องกระบี่กระบองทุกอย่าง ต้องได้รับการดูแลรักษา ทำความสะอาดให้คงสภาพ พร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา เก็บในที่ที่เหมาะสม วิธีการเก็บรักษา ดังนี้

หลังใช้เสร็จ ควรทำความสะอาดทุกครั้งก่อนเก็บเข้าที่
จัดเก็บไว้ในที่ปลอดภัย ใช้ความระมัดระวังในการหยิบ จับ วาง
จัดวางหรือตั้งไว้เป็นหมวดหมู่และมีระบบระเบียบ สวยงาม
จัดทำที่ไว้สำหรับเก็บอาวุธแต่ละชนิด อาวุธที่สวยงามควรเก็บในตู้กระจก มีชั้นวางให้เรียบร้อย เช่น ถุงผ้า หนัง เพื่อป้องกันการถลอก รอยขูดขีด
พวกที่เป็นโลหะ ควรชโลมน้ำมันก่อนเก็บเพื่อป้องกันการเป็นสนิม
ไม่ควรใช้กระบี่ค้ำยันเพื่อรับน้ำหนักตัวผู้แสดง

สรุป อาวุธของ กระบี่กระบอง เครื่องมือ ต่อสู้ ยุคเก่า

อาวุธของ กระบี่กระบอง ส่วนใหญ่ใช้วัสดุที่ทำจาก ไม้ โลหะ หนังสัตว์ และหวาย มีอยู่หลักๆ 8 ชนิด คือ กระบี่ ดาบ พลอง ง้าว โล่ เขน ดั้ง และไม้ศอก ใช้งานเป็นแบบป้องกันตัว และการต้องสู้ มนุษย์มีความฉลาดในตัว จึงได้ดัดแปลงสิ่งของต่างๆ มาใช้ในการดำรงชีวิต เพื่อการอยู่รอดมาตั้งแต่เนิ่นนาน

เครื่องมือ ตัวไหน อันตรายสุด?

ตัวที่ใช้สำหรับการต่อสู้จะอันตรายกว่าแบบใช้ป้องกันตัว เช่น ดาบ กระบี่ ง้าว พลอง เพราะมีลักษณะที่แหลม คม แข็งแรง สามารถใช้ฆ่าคนได้ เพราะในสมัยก่อน ใช้เป็นอาวุธจริงในสนามรบ เพื่อปกป้องบ้านเมืองจึงต้องแต่แลกด้วย เลือด เนื้อ และชีวิต เลยกลายเป็นอาวุธประจำชาติของคนไทย

การแข่งขัน สนุก เพราะอะไร?

การเล่นกีฬาแต่ละประเภทจะให้ความสนุกที่ไม่เหมือนกับอยู่แล้ว แต่ในการเล่นกีฬาประเภทนี้ จะมีดนตรีบรรเลงประกอบการเล่น ช่วยให้ผู้เล่นเกิดความฮึกเหิม มีกำลังใจในการต่อสู้ เวลาตีเสียงกลอง เหมือนเสียงหนุนหรือยุให้ผู้เล่นคิดจะสู้เรื่อยๆ ไปโดยไม่คิดจะถอย นอกจากดนตรีก็มี ความสวยงามของท่วงท่า และการแต่งตัวในการเล่น ที่ทำให้ทั้งคนเล่น และคนดูชื่นชอบกัน