
เต่าราเดียตา คือ ด้วยลวดลายบนกระดอง ที่แผ่ออกเป็นรัศมี คล้ายดวงดาว บนท้องฟ้ายามค่ำคืน แต่เบื้องหลังความงามอันน่าหลงใหลนี้ กลับซ่อนเรื่องราวการต่อสู้ เพื่อความอยู่รอดที่น่าเศร้า พวกมันกำลังเผชิญกับภัยคุกคาม จนถูกจัดให้อยู่ในสถานะ ใกล้สูญพันธุ์อย่างวิกฤต
เต่าราเดียตาหนึ่งในสิ่งมีชีวิต ที่โดดเด่นของมาดากัสการ์ ซึ่งถือเป็นสมบัติทางธรรมชาติ ที่สำคัญของเกาะนี้ เริ่มมีวิวัฒนาการในพื้นที่ ของมาดากัสการ์ เป็นเวลาหลายล้านปี ทำให้ปรับตัวเข้ากับสภาพป่าแห้ง และทุ่งหญ้าได้อย่างดี มันมีบทบาทอย่างมาก ต่อระบบนิเวศ เพราะช่วยในการกระจายเมล็ดพืช รักษาสมดุลของพืชพันธุ์ ในถิ่นที่อยู่อาศัย
การดำรงอยู่ของเต่าชนิดนี้ ยังสะท้อนถึงความอุดมสมบูรณ์ และความหลากหลายทางชีวภาพของมาดากัสการ์ มีบันทึกการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ เกี่ยวกับเต่าราเดียตา อย่างเป็นระบบตั้งแต่ปี 1870 และมาตรการอนุรักษ์
ได้เริ่มเข้มข้น ขึ้นตั้งแต่ช่วง ทศวรรษ 1990 จนถึงปัจจุบัน (ปี 2025) เต่าราเดียตายังคงมีบทบาทสำคัญ ต่อการรักษาระบบนิเวศของเกาะ (17 พฤศจิกายน 2024) [1]
ในเต่าราเดียตาเพศผู้ มักมีกระดองส่วนท้อง เว้าลงเล็กน้อย เพื่อช่วยในการปีน หรือคล้องตัวเมีย ขณะผสมพันธุ์ ขณะที่เพศเมียกระดอง จะเรียบและโค้งสม่ำเสมอมากกว่า เพื่อให้มีพื้นที่เพียงพอ สำหรับการวางไข่ เนื่องจากเพศผู้มักมีหางยาว และหนากว่าเพศเมีย ส่วนเพศเมียหางจะสั้น ค่อนข้างเล็ก
นอกจากรูปร่างแล้ว พฤติกรรมก็แตกต่างกันบ้าง เพศผู้มักมี ความกระฉับกระเฉง และเชิงรุกมากกว่า โดยเฉพาะในช่วงฤดูผสมพันธุ์ ส่วนเพศเมียมักใช้เวลาส่วนใหญ่ ในการหากิน และเตรียมพื้นที่สำหรับวางไข่ โดยรวม การแยกเพศของเต่าราเดียตา อาศัยการสังเกตร่วมกันหลายจุด ทั้งลักษณะกระดอง ขนาดและรูปหาง รวมถึงพฤติกรรม ซึ่งช่วยให้ผู้เลี้ยง หรือผู้ศึกษา สามารถระบุเพศได้แม่นยำขึ้น
พวกมันเป็นสัตว์ ที่ค่อนข้างสงบ ไม่ก้าวร้าว ส่วนใหญ่ใช้เวลาไปกับการหากิน และเคลื่อนที่อย่างช้าๆ เต่าราเดียตาชอบอาศัย อยู่ในพื้นที่เปิดโล่ง เช่น ทุ่งหญ้าและป่าแห้ง ที่มีพืชพรรณโปร่งๆ เพื่อหาพืช ผลไม้เป็นอาหารหลัก
นิสัยอีกอย่างที่เด่นชัดคือ ความอดทน ความรอบคอบ เต่าราเดียตาจะค่อยๆ สำรวจสิ่งแวดล้อม รอบตัวก่อนเคลื่อนที่ และสามารถจำเส้นทาง หรือพื้นที่ที่มีอาหาร และน้ำได้ดี เต่าราเดียตายังมีความสามารถ ในการปรับตัวต่อสภาพอากาศร้อน – แห้ง โดยจะใช้การหลบในร่มเงา หรือลงไปในดิน เพื่อลดอุณหภูมิร่างกาย เมื่อจำเป็นจริงๆ
ผลรวมของปัจจัยเหล่านี้ ทำให้เต่าราเดียตาเสี่ยงต่อ การลดลงของจำนวน ประชากรอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญ ที่องค์กรอนุรักษ์ ทั้งในระดับท้องถิ่น และนานาชาติของ International Union for Conservation of Nature (IUCN) ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551) เช่นเดียวกับ นาร์วาล สูญพันธุ์หรือยัง
สรุป เต่าราเดียตา คือ เต่าบกขนาดกลางถึงใหญ่ จากเกาะมาดากัสการ์ เต่าชนิดนี้มีอายุยืนมาก แต่เป็น สัตว์ใกล้สูญพันธุ์ เนื่องจากถูกล่า และสูญเสียที่อยู่อาศัย ทำให้มีความสำคัญสูงในการอนุรักษ์
เต่าราเดียตาสามารถวางไข่ได้มากสุด ประมาณ 12 – 14 ฟองต่อครั้ง โดยเพศเมียจะขุดหลุมทราย หรือลงดินลึก เพื่อวางไข่ จากนั้นฝังไข่ให้มิดชิด เป็นการป้องกันศัตรูธรรมชาติ ไข่จะใช้เวลาฟักประมาณ 90 – 120 วันก่อนลูกเต่าจะแตกออกมา
เต่าราเดียตาป้องกันตัว โดยใช้กระดองแข็งเป็นเกราะป้องกัน เมื่อรู้สึกอันตราย มันจะเก็บหัว และขาเข้าไปในกระดอง นอกจากนี้ยังอาจใช้การซ่อนตัวในพืช หรือหลุมทราย เพื่อหลีกเลี่ยงศัตรู