เรื่องเล่าจากชีวิต เต่าราเดียตา คือ ?

เต่าราเดียตา คือ

เต่าราเดียตา คือ ด้วยลวดลายบนกระดอง ที่แผ่ออกเป็นรัศมี คล้ายดวงดาว บนท้องฟ้ายามค่ำคืน แต่เบื้องหลังความงามอันน่าหลงใหลนี้ กลับซ่อนเรื่องราวการต่อสู้ เพื่อความอยู่รอดที่น่าเศร้า พวกมันกำลังเผชิญกับภัยคุกคาม จนถูกจัดให้อยู่ในสถานะ ใกล้สูญพันธุ์อย่างวิกฤต

  • ชวนรู้จักกับเต่าราเดียตา
  • มีลักษณะเป็นอย่างไร?
  • ทำไมเต่าชนิดนี้ ใกล้สูญพันธุ์?

ทำความรู้จักกับ เต่าราเดียตา

เต่าราเดียตาหนึ่งในสิ่งมีชีวิต ที่โดดเด่นของมาดากัสการ์ ซึ่งถือเป็นสมบัติทางธรรมชาติ ที่สำคัญของเกาะนี้ เริ่มมีวิวัฒนาการในพื้นที่ ของมาดากัสการ์ เป็นเวลาหลายล้านปี ทำให้ปรับตัวเข้ากับสภาพป่าแห้ง และทุ่งหญ้าได้อย่างดี มันมีบทบาทอย่างมาก ต่อระบบนิเวศ เพราะช่วยในการกระจายเมล็ดพืช รักษาสมดุลของพืชพันธุ์ ในถิ่นที่อยู่อาศัย

 

การดำรงอยู่ของเต่าชนิดนี้ ยังสะท้อนถึงความอุดมสมบูรณ์ และความหลากหลายทางชีวภาพของมาดากัสการ์ มีบันทึกการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ เกี่ยวกับเต่าราเดียตา อย่างเป็นระบบตั้งแต่ปี 1870 และมาตรการอนุรักษ์

ได้เริ่มเข้มข้น ขึ้นตั้งแต่ช่วง ทศวรรษ 1990 จนถึงปัจจุบัน (ปี 2025) เต่าราเดียตายังคงมีบทบาทสำคัญ ต่อการรักษาระบบนิเวศของเกาะ (17 พฤศจิกายน 2024) [1]

ลักษณะเด่นของเต่าราเดียตา มีอะไรบ้าง ?

  • กระดอง : มีลวดลายเป็นเส้นแผ่รัศมี ออกจากจุดตรงกลาง แต่ละแผ่น ซึ่งทำให้ดูเหมือน “ดาว” หรือ “รังสี” เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
  • ขนาดปานกลางถึงใหญ่: เต่าราเดียตามักมีขนาดลำตัว ประมาณ 30 – 40 เซนติเมตร และบางตัวอาจโตได้มากถึง 45 – 50 เซนติเมตร
  • สีสันและพื้นผิว: กระดองส่วนใหญ่ เป็นสีน้ำตาลเข้มถึงดำ เส้นรัศมีมักเป็นสีเหลือง หรือครีม ทำให้ลวดลายชัดเจน
  • หัวและขาแข็งแรง: หัวมีขนาดเล็ก เมื่อเทียบกับตัว ขาและเท้า มีเกล็ดแข็งแรง รองรับน้ำหนักตัว การเคลื่อนที่บนพื้นทราย หรือหิน
  • ความทนทาน อายุยืน: เต่าราเดียตาเป็นสัตว์ที่มีอายุยืนมาก อาจมีชีวิตได้มากสุด 188 ปีในธรรมชาติ (2025) [2]

ความแตกต่างระหว่าง เพศผู้และเพศเมีย คืออะไร ?

ในเต่าราเดียตาเพศผู้ มักมีกระดองส่วนท้อง เว้าลงเล็กน้อย เพื่อช่วยในการปีน หรือคล้องตัวเมีย ขณะผสมพันธุ์ ขณะที่เพศเมียกระดอง จะเรียบและโค้งสม่ำเสมอมากกว่า เพื่อให้มีพื้นที่เพียงพอ สำหรับการวางไข่ เนื่องจากเพศผู้มักมีหางยาว และหนากว่าเพศเมีย ส่วนเพศเมียหางจะสั้น ค่อนข้างเล็ก

นอกจากรูปร่างแล้ว พฤติกรรมก็แตกต่างกันบ้าง เพศผู้มักมี ความกระฉับกระเฉง และเชิงรุกมากกว่า โดยเฉพาะในช่วงฤดูผสมพันธุ์ ส่วนเพศเมียมักใช้เวลาส่วนใหญ่ ในการหากิน และเตรียมพื้นที่สำหรับวางไข่ โดยรวม การแยกเพศของเต่าราเดียตา อาศัยการสังเกตร่วมกันหลายจุด ทั้งลักษณะกระดอง ขนาดและรูปหาง รวมถึงพฤติกรรม ซึ่งช่วยให้ผู้เลี้ยง หรือผู้ศึกษา สามารถระบุเพศได้แม่นยำขึ้น

พฤติกรรมและนิสัย เป็นอย่างไร

เต่าราเดียตา คือ

พวกมันเป็นสัตว์ ที่ค่อนข้างสงบ ไม่ก้าวร้าว ส่วนใหญ่ใช้เวลาไปกับการหากิน และเคลื่อนที่อย่างช้าๆ เต่าราเดียตาชอบอาศัย อยู่ในพื้นที่เปิดโล่ง เช่น ทุ่งหญ้าและป่าแห้ง ที่มีพืชพรรณโปร่งๆ เพื่อหาพืช ผลไม้เป็นอาหารหลัก

นิสัยอีกอย่างที่เด่นชัดคือ ความอดทน ความรอบคอบ เต่าราเดียตาจะค่อยๆ สำรวจสิ่งแวดล้อม รอบตัวก่อนเคลื่อนที่ และสามารถจำเส้นทาง หรือพื้นที่ที่มีอาหาร และน้ำได้ดี เต่าราเดียตายังมีความสามารถ ในการปรับตัวต่อสภาพอากาศร้อน – แห้ง โดยจะใช้การหลบในร่มเงา หรือลงไปในดิน เพื่อลดอุณหภูมิร่างกาย เมื่อจำเป็นจริงๆ 

ทำไมเต่าราเดียรา ขึ้นบัญชีใกล้สูญพันธุ์ ?

  1. การสูญเสียถิ่นที่อยู่ : การตัดไม้ทำลายป่า การเผาทุ่งหญ้า และการขยายพื้นที่เกษตรกรรม ทำให้เต่าราเดียตาขาดแหล่งอาหาร ที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติ
  2. การล่าและจับไปเลี้ยง : เต่าราเดียตาเป็นที่นิยม ในตลาดสัตว์เลี้ยง และของสะสม ทำให้มีการจับตัว ในธรรมชาติจำนวนมาก ส่งผลต่อประชากรที่ลดลง
  3. ภัยคุกคามจากสัตว์นักล่า : สุนัข แมวป่า และสัตว์กินเนื้ออื่น ๆ อาจทำรัง หรือกินไข่ของเต่า ส่งผลต่อการขยายพันธุ์ตามธรรมชาติ
  4. อัตราการเจริญเติบโตช้าและอายุยืน : เต่าราเดียตาโตช้า และใช้เวลาหลายปี ในการเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ ทำให้การฟื้นตัวของประชากร เป็นไปอย่างช้าๆ

ผลรวมของปัจจัยเหล่านี้ ทำให้เต่าราเดียตาเสี่ยงต่อ การลดลงของจำนวน ประชากรอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญ ที่องค์กรอนุรักษ์ ทั้งในระดับท้องถิ่น และนานาชาติของ International Union for Conservation of Nature (IUCN) ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551) เช่นเดียวกับ นาร์วาล สูญพันธุ์หรือยัง

ต้องการอนุรักษ์เต่าพันธุ์นี้ ทำได้อย่างไร ?

  • ปกป้องถิ่นที่อยู่อาศัย : กำหนดพื้นที่อนุรักษ์ในป่าแห้ง และทุ่งหญ้าเขตร้อน ของมาดากัสการ์ ฟื้นฟูพื้นที่เสื่อมโทรม ด้วยการปลูกพืชท้องถิ่น ที่เต่าใช้เป็นอาหาร
  • ควบคุมการล่าและการค้าผิดกฎหมาย : บังคับใช้กฎหมายระหว่างประเทศ เช่น CITES ที่ห้ามค้าขายเต่าราเดียตา เพิ่มการลาดตระเวน และตรวจสอบการขนส่งสัตว์ป่า (25 ธันวาคม 2024) [3]
  • เพาะพันธุ์ในที่เลี้ยง (Captive Breeding) : จัดตั้งศูนย์เพาะพันธุ์ ฟื้นฟูประชากร เพื่อปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ รักษาความหลากหลาย ทางพันธุกรรมของสายพันธุ์
  • การวิจัยและติดตามประชากร : ใช้เทคโนโลยีติดตาม เช่น GPS เพื่อตรวจสอบการเคลื่อนไหว และการใช้พื้นที่ศึกษาระยะเวลาวางไข่ อัตรารอด ปัจจัยเสี่ยง
  • การให้ความรู้แก่ชุมชน : จัดโครงการรณรงค์ในท้องถิ่น เพื่อให้คนในพื้นที่เห็นคุณค่าของเต่า ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ที่สร้างรายได้ให้ชุมชน แทนการล่า

สรุปโดยย่อ ของ เต่าราเดียตา คือ

สรุป เต่าราเดียตา คือ เต่าบกขนาดกลางถึงใหญ่ จากเกาะมาดากัสการ์ เต่าชนิดนี้มีอายุยืนมาก แต่เป็น สัตว์ใกล้สูญพันธุ์ เนื่องจากถูกล่า และสูญเสียที่อยู่อาศัย ทำให้มีความสำคัญสูงในการอนุรักษ์

เต่าราเดียตาวางไข่ได้มากสุดกี่ฟอง ?

เต่าราเดียตาสามารถวางไข่ได้มากสุด ประมาณ 12 – 14 ฟองต่อครั้ง โดยเพศเมียจะขุดหลุมทราย หรือลงดินลึก เพื่อวางไข่ จากนั้นฝังไข่ให้มิดชิด เป็นการป้องกันศัตรูธรรมชาติ ไข่จะใช้เวลาฟักประมาณ 90 – 120 วันก่อนลูกเต่าจะแตกออกมา

เต่าราเดียตาป้องกันตัวอย่างไร ?

เต่าราเดียตาป้องกันตัว โดยใช้กระดองแข็งเป็นเกราะป้องกัน เมื่อรู้สึกอันตราย มันจะเก็บหัว และขาเข้าไปในกระดอง นอกจากนี้ยังอาจใช้การซ่อนตัวในพืช หรือหลุมทราย เพื่อหลีกเลี่ยงศัตรู

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง