คุณเคยคิดไหมว่า กิจกรรมสนุกๆ อย่าง เต้นลีลาศ ช่วยอะไร จะช่วยพัฒนาร่างกาย และจิตใจไปพร้อมกันได้ การเต้นลีลาศไม่เพียงแต่เป็น การเคลื่อนไหวตามจังหวะดนตรี แต่ยังเน้น ลีลา ความสง่างาม และความประสานงานระหว่างคู่เต้น
การเต้นลีลาศ (Ballroom Dance) มีความเป็นมาที่ยาวนาน เริ่มต้นในยุโรปตะวันตก ช่วงศตวรรษที่ 16–17 โดยเฉพาะฝรั่งเศสและอิตาลี ซึ่งชนชั้นสูง นิยมจัดงานบอลรูม (Ballroom) เพื่อสังสรรค์ แสดงฐานะสังคม การเต้นในยุคนั้น เน้นความสง่างาม เป็นคู่ และมีระเบียบแบบแผน ของท่าทาง การก้าวเท้า
ในศตวรรษที่ 18–19 ลีลาศแพร่หลายไปยังอังกฤษ เยอรมนี และรัสเซีย มีการพัฒนารูปแบบใหม่ เช่น วอลซ์ (Waltz), ฟ็อกซ์โทรท (Foxtrot), และควิกสเต็ป (Quickstep) จนกลายเป็นการเต้น ทั้งเพื่อสังคม และการแข่งขัน (10 เมษายน 2024) [1]
สามารถสรุปการพัฒนาสู่สากล เช่น ในศตวรรษที่ 20 ลีลาศเริ่มมีสมาคม การแข่งขันระดับนานาชาติ และได้รับการบรรจุเป็นกีฬาประเภทการแข่งขัน ในหลายประเทศอีกด้วย
คำว่า “ลีลาศ” มาจากคำว่า “ลีลา” ซึ่งหมายถึง ท่าทาง หรือการเคลื่อนไหวที่งดงาม และมีจังหวะ การเต้นลีลาศจึงไม่ใช่ เพียงการเคลื่อนไหว ตามจังหวะดนตรีเท่านั้น แต่ยังต้องคง ความสง่างาม และความประณีต ในทุกท่วงท่า
ตั้งแต่การก้าวเท้า การหมุนตัว การบิดตัวของลำตัว ไปจนถึงการประสานงาน ระหว่างคู่เต้น การเต้นลีลาศยังเน้น ความสัมพันธ์ระหว่างคู่เต้น การถือคู่ การประสานจังหวะ และการเคลื่อนไหวร่วมกันอย่างลงตัว ทำให้เกิด ลีลาและสุนทรียภาพ ในการเคลื่อนไหวทุกครั้ง
คู่เต้นต้องรักษาระยะห่าง และท่าทาง เพื่อให้การเคลื่อนไหวสวยงาม ไม่ชนกัน การเคลื่อนไหวเหล่านี้ จึงถูกมองว่าเป็น ศิลปะการแสดง ที่รวมเอาความงามของร่างกาย จังหวะดนตรี และความสามัคคีของคู่เต้น เข้าไว้ด้วยกัน
แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก คือ
1. Standard (หรือ Ballroom แบบดั้งเดิม) เน้นการเคลื่อนไหวสง่างามเป็นคู่เต็มตัว
ตัวอย่างท่าเต้น: วอลซ์ (Waltz), ฟ็อกซ์โทรท (Foxtrot), ควิกสเต็ป (Quickstep), แพสโดเบิล (Paso Doble), แชมเปเน่ (Slow Waltz)
2. Latin (หรือ Ballroom แบบลาติน) เน้นจังหวะสนุกสนาน คล่องตัว และมีการเคลื่อนไหว ร่างกายมากขึ้น
ตัวอย่างท่าเต้น: ซัลซ่า, รัมบ้า, ชา-ชา-ชา, แจ๊ส ลาติน, ปาซโดบล (3 กรกฎาคม 2025) [2]
การเต้นลีลาศช่วยพัฒนาหลายส่วน ของร่างกายอย่างครบวงจร เพราะเป็นการเคลื่อนไหวต่อเนื่อง และประสานงาน หลายทิศทางพร้อมกัน การก้าวเท้า หมุนตัว และบิดตัวช่วย เสริมสร้างความแข็งแรง ของกล้ามเนื้อขา แขน ลำตัว การทรงตัวและการหมุนตัวสลับทิศทาง
ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น และความสมดุลของร่างกาย นอกจากนี้ การเคลื่อนไหวตามจังหวะดนตรี ยังเป็นการออกกำลังกายแบบ แอโรบิก ทำให้หัวใจ และปอดทำงานดีขึ้น เผาผลาญพลังงาน และช่วยควบคุมน้ำหนัก การฝึกลีลาศอย่างสม่ำเสมอ ยังช่วยพัฒนาสมอง ในการประสานมือ-ตา ไหวพริบ และสมาธิ ทำให้ทั้งร่างกายและจิตใจ ได้รับประโยชน์พร้อมกัน
การเต้นลีลาศ ช่วยลดความเครียด ได้อย่างชัดเจน เพราะเป็นกิจกรรม ที่รวมการเคลื่อนไหวร่างกาย กับจังหวะดนตรี ทำให้ร่างกายหลั่ง ฮอร์โมนเอ็นดอร์ฟิน (Endorphin) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยให้รู้สึกสดชื่น และผ่อนคลาย (31 กรกฎาคม 2023) [3]
นอกจากนี้ การเต้นลีลาศ ยังต้องมีสมาธิ และโฟกัสกับคู่เต้น จังหวะเพลง ทำให้ผู้เต้นละจากความกังวล หรือความคิดเครียด ในชีวิตประจำวัน การได้ขยับร่างกายอย่างต่อเนื่องและสนุกสนานยังช่วย ลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ ทำให้ร่างกายจิตใจ รู้สึกสบายขึ้น เหมือนกับ ซุมบ้า คืออะไร
สรุป เต้นลีลาศ ช่วยอะไร การเต้นคู่ที่เน้น ลีลา ความสง่างาม และจังหวะสอดคล้องกับดนตรี ช่วยพัฒนาร่างกาย ทั้งกล้ามเนื้อ ขา แขน ลำตัว ความยืดหยุ่น ระบบหัวใจ-ปอด พร้อมฝึกสมาธิ ไหวพริบ
ทำผ่านสายตา และสัมผัสร่างกาย เพื่อให้ทั้งคู่รับรู้ จังหวะ ทิศทาง การเคลื่อนไหวร่วมกัน ฝ่ายชายมักเป็นผู้นำ ในการนำทิศทาง ส่วนฝ่ายหญิง ปรับตัวตามอย่างประสาน
การถือคู่ในลีลาศ ต้องให้ฝ่ายชายยืนหลังฝ่ายหญิง และใช้มือจับอย่างมั่นคง โดยทั้งคู่รักษาระยะห่างที่เหมาะสม ท่าทางต้องตรงตัว ไหล่ผ่อนคลาย และประสานกันอย่างสมดุล
