
โลมาอิรวดี ประวัติ หนึ่งในโลมา ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และเรื่องราวที่น่าสนใจ ด้วยรูปลักษณ์ที่โดดเด่นและชีวิตที่ผูกพัน กับแหล่งน้ำจืด มาอย่างยาวนาน โลมาชนิดนี้ จึงไม่ใช่แค่สัตว์น้ำธรรมดา แต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีประวัติศาสตร์ และเรื่องราว ที่รอให้เราค้นหา
โลมาอิรวดี (Irrawaddy dolphin, ชื่อวิทยาศาสตร์ Orcaella brevirostris) เป็นสัตว์น้ำ เลี้ยงลูกด้วยนม แต่มีรูปร่างลักษณะที่แตกต่าง จากโลมาทั่วไป อย่างชัดเจน จุดเด่นของโลมาอิรวดีคือ หัวกลมมน ไม่มีจะงอยปากยาว จมูกสั้น และมีใบหน้าที่ดูอ่อนโยน คล้ายพะยูน ซึ่งทำให้หลายคนมองว่า โลมาอิรวดีมี “รอยยิ้ม” ที่เป็นมิตร
ขนาดตัวของโลมาอิรวดี อยู่ในช่วงประมาณ 2 ถึง 2.5 เมตร และน้ำหนักประมาณ 90 ถึง 150 กิโลกรัม โดยขนาดตัวอาจแตกต่างกันบ้าง ตามเพศ และสภาพแวดล้อม ที่อาศัยอยู่ ขนาดที่เหมาะสมนี้ ช่วยให้โลมาอิรวดี สามารถเคลื่อนที่ปรับตัวในแหล่งน้ำจืด น้ำกร่อย และชายฝั่งทะเล ได้อย่างคล่องแคล่ว
หนึ่งในบันทึกทางวิทยาศาสตร์แรกสุด เกี่ยวกับโลมาอิรวดีมาจาก เซอร์ ริชาร์ด โอเวน (Sir Richard Owen) ในปี ค.ศ. 1866 โดยอ้างอิงจากตัวอย่าง ที่ถูกเก็บรวบรวมในปี ค.ศ. 1852 ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญ ในการศึกษาสัตว์น้ำชนิดนี้ อย่างเป็นทางการ ในวงการวิทยาศาสตร์ยุโรป และช่วยวางรากฐาน ให้กับการวิจัยโลมาอิรวดี ในยุคถัดมา (21 มีนาคม 2025) [1]
การค้นพบครั้งแรก ที่แม่น้ำอิรวดีในประเทศพม่า จึงเป็นที่มาของ ชื่อโลมาอิรวดี ปัจจุบัน แม้จะสามารถพบโลมา ในแม่น้ำและทะเลในภูมิภาค เอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่บริเวณที่มีประชากรมากที่สุด อยู่ที่ทะเลสาบจิลิกา รัฐโอริสสา ประเทศอินเดีย และทะเลสาบสงขลา ในภาคใต้ของประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม ทะเลสาบสงขลา โดยเฉพาะพื้นที่น้ำจืด หรือน้ำกร่อยที่เรียกว่า “ทะเลน้อย” ถือเป็นแหล่งที่พบ โลมาอิรวดีน้อยที่สุด อยู่ในสถานการณ์วิกฤตมากที่สุด สำหรับโลมาอิรวดีตัวสุดท้าย ในแม่น้ำโขงทางตอนใต้ ของประเทศลาว เสียชีวิตเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 หลังติดอวนจับปลา ของชาวประมงในพื้นที่ ส่งผลให้โลมาอิรวดีสูญพันธุ์จากประเทศลาว อย่างเป็นทางการ (20 กุมภาพันธ์ 2024) [2]
อาศัยได้ทั้ง น้ำจืด น้ำกร่อย และน้ำทะเล ทำให้ถิ่นกระจายตัวของมัน กว้างและหลากหลาย กว่าสัตว์ทะเลหลายชนิด โดยพื้นที่หลักที่พบ ได้แก่
ความสามารถในการปรับตัว ของโลมาอิรวดี ให้เข้ากับสภาพน้ำหลากชนิด คือเหตุผลที่มันสามารถ อยู่รอดในพื้นที่หลากหลาย แต่ขณะเดียวกัน ก็ทำให้ต้องเผชิญภัยคุกคาม จากทั้งกิจกรรมบนบก และในทะเลมากขึ้น
มีอาหารหลักคือ ปลาขนาดเล็ก และสัตว์น้ำขนาดเล็กอื่นๆ ที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำ และทะเลสาบ พวกมันจะล่าอาหาร โดยใช้เสียงคลื่นอัลตราซาวด์ (echolocation) เพื่อค้นหาเหยื่อในน้ำขุ่น หรือที่มีทัศนวิสัยต่ำ
อาหารที่พบในเมนูของโลมาอิรวดี ได้แก่
โลมาอิรวดีเป็นนักล่า ที่เชี่ยวชาญ ในการจับเหยื่อ ในสภาพแวดล้อม ที่หลากหลาย ทั้งน้ำจืด น้ำกร่อย และน้ำทะเล จึงทำให้พวกมัน มีความยืดหยุ่น ในการเลือกอาหาร ตามถิ่นที่อยู่
ที่มา: โลมาอิรวดี (Irrawaddy dolphin, ใกล้สูญพันธุ์) (24 ตุลาคม 2023) [3]
สรุป โลมาอิรวดี ประวัติ มีบทบาทสำคัญต่อระบบนิเวศน้ำ และเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม ของชุมชนริมแม่น้ำหลายแห่ง การอนุรักษ์โลมาอิรวดี จึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อรักษาความสมดุล ของธรรมชาติ เช่นเดียวกับ นาร์วาล สูญพันธุ์หรือยัง
โดยใช้วิธีสังเกตการณ์ ในธรรมชาติ ทั้งทางน้ำ ทางเรือ รวมถึงการติดตาม ด้วยเครื่องมือเทคโนโลยี เช่น GPS และกล้องถ่ายวิดีโอ เพื่อเก็บข้อมูลการเคลื่อนที่ และพฤติกรรมต่างๆ อย่างละเอียด นอกจากนี้ยังมีการเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ และเสียงเพื่อวิเคราะห์เพิ่มเติม เกี่ยวกับประชากร การสื่อสารของโลมา
จำนวนโลมาอิรวดีในธรรมชาติ ลดลงอย่างมาก และถือเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ โดยประมาณประชากรทั่วโลกมีเพียงไม่กี่พันตัวเท่านั้น จำนวนนี้แตกต่างกันไป ตามแต่ละพื้นที่