
ผักและผลไม้ สีเหลืองกับส้ม ช่วยเรื่องการบำรุง คนส่วนมาก มักจะคุ้นชิน กับผลไม้สีเหลืองและส้ม มากกว่าผักสีเหลือง แต่ผักและผลไม้สีเหลืองและส้ม มีสารอาหารที่สำคัญ ต่อร่างกาย คล้ายกันหลายอย่าง และมีประโยชน์ด้านการบำรุง อีกทั้งยังช่วยเรื่อง การป้องกันอีกด้วย
สารอาหารสำคัญ ที่มักพบใน ผักและผลไม้ สีเหลืองและส้ม จะมีจำพวก วิตามินเอ วิตามินซี นอกจากนี้พวกแร่ธาตุจะพบ โพแทสเซียม ไฟเบอร์ และสารอาหารอื่นๆ อีกมากมายหลายชนิด มีส่วนสำคัญในการ บำรุงร่างกาย และช่วยป้องกันการเกิด โรคมะเร็งได้ดี
นอกจากสารอาหารที่พบแล้ว ในผักและผลไม้ สีเหลืองและสีส้ม จะพบ “เบต้าแคโรทีน” และ “ลูทีน” สารสองตัวนี้ จะพบมากที่สุด ในบรรดาผักแต่ละสี และยังพบมากในผลไม้ สีเหลืองกับสีส้ม สารสองตัวนี้จะทำหน้าที่ แปรสภาพเป็น วิตามินเอ ที่ช่วยบำรุงสายตา และช่วยป้องกันสารอนุมูลอิสระ ได้ดีอีกด้วย
สารอาหารสองตัวนี้ ยังมีส่วนช่วย เรื่องการเจริญเติบโต และเสริมสร้าง กระดูกและฟัน ในเด็กที่กำลังเริ่มพัฒนา ทางด้านโครงสร้างร่างกาย อีกทั้ง วิตามินที่พบมาก ในผลไม้จะช่วยเรื่อง ผิวพรรณ ทำให้สุขภาพดี ผิวดูสดใส ขาว เปล่งปลั่ง
ที่มา: RED / YELLOW ผักผลไม้ดีทุกช่วงวัย [1]
ยังมีหลายคน สงสัยว่าสารตัวนี้คืออะไร? เบตาแคโรทีน (beta-carotene) ในทางวงการแพทย์ จัดให้สารตัวนี้เป็นสารตั้งต้น ของกลุ่มวิตามินเอ ที่เมื่อร่างกาย ได้รับเข้าไปแล้ว สารจะแปรเปลี่ยนสภาพ เป็นวิตามินเอ โดยร่างกายของคนเรา ถูกพัฒนากลไก ที่สามารถปรับเปลี่ยน หรือแปรสภาพ สารอาหารที่รับเข้าไปได้
เมื่อร่างกายได้รับ เบต้าแคโรทีนเข้าไปแล้ว ก่อนเปลี่ยนสภาพสารตัวนี้ ช่วยเรื่องต้านอนุมูลอิสระ ลดอัตราความเสี่ยง การเกิดโรคหัวใจ และป้องกันการเป็นมะเร็งได้ แต่เมื่อเปลี่ยนสภาพ เป็นวิตามินเอแล้ว จะช่วยเรื่องดวงตา เพิ่มการมองเห็น ในพื้นที่ที่มีแสงน้อย และยังช่วยชะลอ ความเสื่อมของดวงตา
นอกจากนี้ยังช่วยเรื่อง ระบบภูมิคุ้มกัน และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ให้กับร่างกายได้อย่างดี ในทางวิทยาศาสตร์ สารตัวนี้จะเป็น รงควัตถุสีส้ม สีเหลืองและสีแดง จะพบมากใน แครอท ฟักทอง ข้าวโพดอ่อน มะละกอสุก ซึ่งสามารถหาซื้อได้ง่าย ตามท้องตลาด
ที่มา: ถึงเวลาเติมเบต้าแคโรทีนให้ร่างกายแล้ว [2]
ลูทีน (Lutein) จะเป็นสารที่มีตามธรรมชาติ และเป็นสารที่จะ ทำงานควบคู่กับวิตามินเอ โดยมุ่งเน้นไปที่เรื่องของการ บำรุงดวงตา สารตัวนี้ถูกจัดให้อยู่ ในกลุ่มแคโรทีนอยด์ พื้นที่ในร่างกาย ที่จะพบลูทีนได้มากที่สุด คือบริเวณรอบดวงตา ลูทีนจะทำหน้าที่ ช่วยเรื่องการกรองแสง ป้องกันรังสี และช่วยป้องกันเซลล์
ช่วยเรื่องจอประสาทตา ลดการเป็นต้อกระจกได้ดี การเกิดต้อกระจก เกิดจากอัตราการเสื่อมของอนุมูลอิสระ จึงทำให้เป็น สาเหตุของการเกิดต้อกระจกได้ และโรคนี้ยังพบมาก ในกลุ่มผู้อายุที่มีอายุ 50-60 ปีขึ้นไป เพราะเซลล์ในร่างกายเริ่มเสื่อม รวมถึงเซลล์ส่วนดวงตาอีกด้วย
นอกจากช่วยป้องกันต้อกระจกแล้ว ยังช่วยเรื่องการรับรู้ ของดวงตาได้ดี และช่วยป้องกัน โรคที่ชื่อว่า “โรคจุดรับภาพเสื่อม” ซึ่งโรคนี้จะเป็นโรคเกี่ยวกับ การมองเห็น หากเป็นโรคนี้แล้ว เวลามองจะเห็นภาพเบลอ หรือมองเห็นแบบบิดเบี้ยว หากอาการหนัก อาจจะมีจุดสีดำ อยู่ในดวงตาตลอดเวลาได้
ที่มา: มารู้จักสารอาหารบำรุงสายตา [3]
ด้านสุขภาพ จะเน้นช่วยเรื่องการ บำรุงและป้องกัน ผักและผลไม้ในกลุ่มสีนี้ จะมีสารสำคัญ อย่าง เบตาแคโรทีน และลูทีน ที่เป็นสารที่เปลี่ยนสภาพ เป็นวิตามินเอแล้ว ยังมีวิตามินซี ที่ช่วยเรื่องการบำรุงได้ดี นอกจากนี้ ยังช่วยเรื่องการควบคุม ระบบต่างๆ ในร่างกาย ช่วยเสริมสร้าง กระดูกและฟัน ในเด็กได้ดีอีกด้วย
นอกจากนี้ยังช่วยป้องกัน โรคที่เป็นชนิดเรื้อรังได้ เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคมะเร็ง ช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอล และยังช่วยเรื่องป้องกันสารอนุมูลอิสระได้ ลดการอักเสบ ช่วยลดการเสื่อมสภาพของเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย
อีกทั้งมีจุดเด่น เรื่องการบำรุงดวงตา ช่วยบำรุงและป้องกัน โรคที่อาจจะเกิด ในบริเวณดวงตา เช่น โรคต้อกระจก โรคจอประสาทตาเสื่อม และช่วยเรื่องการบำรุง เน้นบำรุงเรื่องการมองเห็น เพิ่มประสิทธิภาพ การมองเห็นได้ดีขึ้น
หากสนใจอ่านประโยชน์เพิ่มเติมคลิกอ่านต่อได้ที่ mordeeapp.com
บทสรุป ผักและผลไม้ สีเหลืองกับส้ม เป็นกลุ่มผักและผลไม้ ที่สำคัญต่อร่างกาย ไม่แพ้กับผักผลไม้สีอื่นๆ เพราะมีส่วนช่วย เรื่องระบบภูมิคุ้มกัน และยังช่วยบำรุงรักษา ดวงตา ที่เป็นอวัยวะ ที่สำคัญที่สุด ช่วยเรื่องการมองเห็น และยังช่วยป้องกันโรค ที่เกี่ยวกับดวงตา เป็นกลุ่มผักที่ดี ต่อสุขภาพอย่างแท้จริง
การแปรเปลี่ยนสภาพ ของสารเบต้าแคโรทีน เป็นกลไกโดยธรรมชาติ ที่ร่างกายพัฒนาขึ้นมา เพื่อเปลี่ยนสภาพสารอาหารตัวนี้ ให้เป็นวิตามินเอ ที่เน้นช่วยเรื่องการ รักษาดวงตา และช่วยด้านอื่นๆ ในดวงตา เน้นการป้องกันโรค ที่เกี่ยวกับดวงตา แต่จะไม่ถูกเปลี่ยนไปจนหมด จะมีกลไก การทำงานของร่างกาย คอยจัดการอยู่
เน้นช่วยเรื่องการ เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ป้องกันการเกิดโรคเรื้องรังต่างๆ และช่วยลดคอเลสเตอรอล ที่สำคัญ มุ่งเน้นการรักษา ระบบกลไกของดวงตาต่างๆ ช่วยเรื่องการมองเห็น การรับรู้ภาพ และป้องกันโรค ที่อาจจะเกิด กับดวงตาได้