
รู้จัก กิ้งก่า มังกรเครา กิ้งก่ามังกรเครา หรือเบียร์ดดราก้อน เป็นกิ้งก่าที่มีลักษณะเหมือนกับมังกร ที่ไม่มีปีก จึงได้ชื่อว่า กิ้งก่ามังกรเครา นอกจากนี้ เจ้ากิ้งก่ามังกรเครา จะแผ่เคราที่เป็นหนาม เมื่อรู้สึกว่าจะเกิดอันตราย หรือหาคู่เท่านั้น และมันยังถือเป็นสัตว์ที่เชื่อง กับมนุษย์อีกด้วย
กิ้งก่ามังกรเครา หรือเบียร์ดดราก้อน เป็นสัตว์ Exotic ประเภทสัตว์เลื้อยคลาน ในวงศ์ของกิ้งก่า มีสีตามลำตัวเป็นสีน้ำตาล สลับกับสีครีมเข้ม ทั่วทั้งตัวจะเต็มไปด้วยเกล็ด และหนามเล็ก ๆ เพื่อใช้ในการป้องกันตัวจากผู้ล่า ขนาดเมื่อโตเต็มวัย จะมีความยาวประมาณ 16-18 นิ้ว
โดยเจ้าเบียร์ดดราก้อน จะกระจายพันธุ์อยู่ในทะเลทราย ที่มีภูมิประเทศเป็นเทือกเขา สลับกับเนินทรายเตี้ย ๆ ในแถบรัฐควีนส์แลนด์, นอร์เทิร์นเทร์ริทอรี, นิวเซาท์เวลส์ และวิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งตามธรรมชาติ เจ้าเบียร์ดดราก้อน จะหากิน และอาศัยอยู่บนพื้น มากกว่าจะปีนป่าย ตามก้อนหิน หรือต้นไม้
ที่มา: เบียร์ดดราก้อน [1]
ลักษณะเด่นของ เจ้ากิ้งก่ามังกรเครา หรือเจ้าเบียร์ดดราก้อน คือ น้องจะเป็นกิ้งก่าที่มีขนาดตัว อยู่ไซซ์ขนาดกลาง และบริเวณใต้คาง จะมีถุงที่เป็นหนาม ที่จะแผ่ขยายเป็นสีดำ เมื่อเกิดอาการตกใจ ตื่นเต้น ต่อสู้ หรือแม้แต่การเกี้ยวตัวเมีย ก็จะแผ่เคราจนเป็นสีดำ นี่จึงเป็นที่มาของชื่อ กิ้งก่า มังกรเครา [2]
กิ้งก่ามังกรเครา เป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่าย มีนิสัยไม่ดุร้าย เชื่องกับมนุษย์ และเข้ากับคนได้ง่าย สามารถนำมาจับเล่น หรือป้อนอาหารจากมือได้ แต่ถ้าหากเป็นเด็กเล็ก อาจจะต้องได้รับคำแนะนำ หรือการดูแลอย่างใกล้ชิด จากผู้ใหญ่ นอกจากนี้ เจ้ากิ้งก่ามังกรเครายังมีนิสัยรักสันโดษ และสัตว์ที่หวงอาณาเขตมาก ไม่ควรเลี้ยงรวมกลุ่มกับตัวอื่น
เจ้ากิ้งก่ามังกรเครา สีตามธรรมชาติปกติ มักเป็นสีน้ำตาล แต่อาจมีเฉดสีแดง ส้ม เหลือง หรือแม้แต่สีเทา และสีดำก็ได้ นอกจากนี้สีเกล็ดของมัน อาจจะแตกต่างกันไปตามอายุ เพศ และพื้นที่ เช่น กิ้งก่ามังกรเครา ในบางตัวอาจจะมีลวดลาย และลายทางบนลำตัว แต่ในบางตัวอาจจะมีสีทึบ เป็นต้น
เนื่องจากปัจจุบัน เจ้ากิ้งก่ามังกรเครา มีคนนิยมเลี้ยงเพิ่มมากขึ้น ทำให้ราคาของกิ้งก่ามังกรเครา ลดต่ำลง จากปกติราคาจะเริ่มต้นที่ 1,500 บาท แต่ปัจจุบัน ราคาของเจ้ากิ้งก่ามังกรเครา เริ่มต้นเพียง 700-1,400 บาท วันนี้จึงขอมาแนะนำเคล็ดลับในการเลี้ยง และการดูแลกิ้งก่ามังกรเครา มีดังนี้
ที่มา: 4 วิธีเลี้ยง “กิ้งก่ามังกร” เลี้ยงยังไง ? [3]
เบียร์ดดราก้อน เป็นสัตว์ที่กินได้ทั้งพืชและสัตว์ โดยอาหารสำหรับเบียร์ดดราก้อนเด็ก คือ อาหารที่มีขนาดจิ๋ว เช่น แมลง หรือจิ้งหรีด ที่มีขนาดเล็กมาก ๆ และเมื่อเป็นวัยรุ่นช่วงอายุประมาณ 2-4 เดือน สามารถเริ่มผสมผักสีเขียว เข้ามาเป็นอาหาร ในอัตราส่วนผัก 20% แมลงขนาดเล็ก 80% เพื่อให้น้องได้รับแคลเซียมจากผัก
โดยควรจะให้อาหาร 2-3 ครั้งต่อวัน และเมื่อโตพอสมควรแล้ว ประมาณ 5-6 เดือนขึ้นไป ให้แบ่งสัดส่วนการกินเป็นพืชผัก 60% และเหยื่อต่างๆในอัตราส่วน 45% โดยผักที่สามารถเสริมแคลเซียมให้กับน้อง ได้แก่ ผักสลัด กะหล่ำใบ ผักกาดหอม เป็นต้น
ส่วนแมลง และเหยื่ออื่น ๆ เช่น จิ้งหรีด หนอนยักษ์ หนูแดง เป็นต้น สามารถให้น้องทานได้วันละครั้ง โดยสามารถให้น้องทานผลไม้ได้เป็นครั้งคราว เพื่อเสริมวิตามิน ผลไม้ที่ทานได้ เช่น แอปเปิล กล้วย แคนตาลูป และมะละกอ
ข้อดีของการเลี้ยงเจ้ากิ้งก่ามังกรเครา คือ
ข้อเสียของการเลี้ยงกิ้งก่ามังกรเครา คือ
สรุป กิ้งก่า มังกรเครา คือกิ้งก่าชนิดหนึ่ง ที่มีหนามแหลมใต้คางเหมือนเป็นเครา และหน้าคล้ายมังกรที่ไม่มีปีก มีอายุโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 5-15 ปี นอกจากนี้ยังดูแลง่าย เลี้ยงง่าย และเป็นสัตว์ที่เชื่องอีกด้วย โดยราคาของกิ้งก่า มังกรเครา หรือเบียร์ดดราก้อน จะอยู่ที่ 700-4,000 บาท ขึ้นอยู่กับ เพศ สี และขนาด ของแต่ละตัว
สำหรับสัตว์เลื้อยคลานที่ผู้คนที่ชื่นชอบสัตว์แปลกนิยมเลี้ยง ที่เป็นสัตว์ที่เชื่อง สามารถดูแลได้ง่าย เลี้ยงง่าย ไม่ต้องเอาใจใส่เยอะ นอกจากเจ้าเบียร์ดดราก้อน ได้แก่ งูบอลไพธอน, งูคอร์น, เต่าซูลคาต้า และ เต่าเสือดาว เป็นต้น
นอกจาก กิ้งก่า มังกรเครา ยังมี เวลล์คาเมเลียน หรือที่รู้จักกันในนาม กิ้งก่าคลุมหน้า เป็นกิ้งก่าอีกสายพันธุ์หนึ่ง ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ในประเทศไทย เพราะน้องสามารถปรับตัว ให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้ง่าย และยังมีความสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์ คือ ความสามารถในการเปลี่ยนสี ที่โดดเด่น