สตรอเบอร์รี่ ต้านโรคมะเร็งเต้านม ผลไม้รสชาติดี

สตรอเบอร์รี่ ต้านโรคมะเร็งเต้านม

สตรอเบอร์รี่ ต้านโรคมะเร็งเต้านม ผลไม้ลูกเล็ก สีแดง รสชาติเปรี้ยวอมหวาน ที่ถูกนำเข้ามาขยายพันธุ์ ในประเทศไทย และมีสายพันธุ์ ที่พัฒนาขึ้นมากมาย ช่วยรักษาและต้านโรค และยังมีความเชื่อ ที่มีการวิจัยขึ้น เพื่อหาสรรพคุณอื่นๆ แต่ก็ยังมีข้อห้าม ที่ทุกคนควรรู้ก่อนการกินผลไม้ชนิดนี้

  • ประวัติสำคัญของสตรอเบอร์รี่
  • สายพันธุ์และแหล่งเพราะปลูกสตรอเบอร์รี่
  • ความเชื่อสตรอเบอร์รี่ช่วยรักษาโรคได้

ประวัติ สตรอเบอร์รี่

สตรอเบอร์รี่ (Strawberry) ถูกพบที่ฝรั่งเศสราวศตวรรษที่ 10-15 พบเป็นภาพวาด เมื่อตอนที่พระเยซูประสูติ ในภาพพบว่าพระบิดา ยืนถือถาดสตรอเบอร์รี่ และอีกภาพพบว่าพระนางแม่รี่ ยืนอุ้มพระเยซู โดยมีนางฟ้าในภาพ บินถือถาดใส่สตรอเบอร์รี่อยู่ และแทบทุกภาพในยุคสมัยกลาง จะมีสตรอเบอร์รี่อยู่

ค.ศ. 1500-1600 ได้เริ่มมีการปลูกสตรอเบอร์รี่กันอย่างแพร่หลาย เพราะมีผลที่สวย และสีสันสดใส ได้มีการเริ่มพัฒนาสายพันธุ์ต่างๆ ขึ้น ต่อมาเมื่อศตวรรษที่ 17 ฝรั่งเศสได้นำสตรอเบอร์รี่ ไปเผยแพร่ที่แถบยุโรป โดยนำสายพันธุ์ เอฟ วอจอเนียน่า และสายพันธุ์นี้ได้รับการยกย่อง ให้เป็นบิดาแห่งสายพันธุ์สตรอเบอร์รี่

สตรอเบอร์รี่ (Strawberry) ได้ถูกนำมาเผยแพร่ในไทย เมื่อปี พ.ศ. 2477 ในสมัยนั้นผู้ก่อตั้งมหาลัยแม่โจ้ พระช่วงเกษตรศิลปการ ได้ต้นพันธุ์สตรอเบอร์รี่ จากชาวอังกฤษที่เข้ามาดูงาน แต่ยังไม่เป็นที่สนใจเพราะ สมัยนั้นสนใจเรื่องยาสูบมากกว่า เมื่อรัชกาล 9 มีรับสั่งให้หาพืชทดแทนฝิ่น สตรอเบอร์รี่ถึงได้เริ่มรับความสนใจ

ที่มา: กำเนิดสตรอเบอร์รี่ [1]

สายพันธุ์ นิยมปลูก ในประเทศไทย

สายพันธุ์ที่นิยมปลูกในประเทศไทย ตอนนี้มีถึง 7 สายพันธุ์ ได้แก่

  • สายพันธุ์พระราชทาน 16
  • สายพันธุ์พระราชทาน 20
  • สายพันธุ์พระราชทาน 50 สายพันธุ์นี้ได้มีการ เริ่มผสมพันธุ์ในอเมริกา เมื่อผสมเสร็จได้นำกลับมาที่ประเทศไทย สายพันธุ์นี้จะสามารถอยู่ใน อุณหภูมิปานกลาง ออกลูกเยอะ น้ำหนักต่อลูกเมื่อโตเต็มที่ อยู่ที่ 12-18 กรัม ผลสีแดงถึงแดงเข้ม
  • สายพันธุ์ พระราชทาน 70 สายพันธุ์นี้ ได้ผสมมาจากญี่ปุ่น ใบจะค่อนข้างใหญ่ ออกลูกได้ดี ลูกมีสีแดง แต่สีไม่สม่ำเสมอ ทนต่ออาการโรคเหี่ยวได้ ผลสุกเต็มที่น้ำหนักอยู่ที่ 11.5 – 13 กรัม เนื้อและผล แข็ง แต่มีกลิ่นหอม
  • สายพันธุ์ พระราชทาน 80 เริ่มมีการส่งเสริมให้ปลูก เมื่อปี พ.ศ. 2552 เป็นสายพันธุ์นำเข้า จากญี่ปุ่นชื่อสายพันธุ์ Royai Queen
  • สายพันธุ์ พระราชทาน 72 สายพันธุ์นี้ถูกแนะนำ มาจากประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 ชื่อสายพันธุ์ว่า TOCHIOTOME ลักษณะเนื้อแข็งและหวานน้อยกว่า สายพันธุ์ 70 น้ำหนักต่อผลอยู่ที่ 14 กรัม เนื้อด้านในเมื่อสุกจะเป็นสีขาว ด้านนอกสีแดงสดถึงแดงเข็ม สายพันธุ์นี้จะทนต่อการกระแทก จากการขนส่งมากกว่า ทุกสายพันธุ์ที่ปลูกอยู่
  • สายพันธุ์ 329 (Yale) สายพันธุ์นี้ กำลังถูกส่งเสริม ให้มีการปลูกในประเทศไทย สายพันธุ์นี้มาจาก อิสราเอล

ที่มา: สตรอเบอร์รี่ [2]

แหล่งเพาะปลูก สตรอเบอร์รี่ ในประเทศไทย

สตรอเบอร์รี่นิยมปลูกกันบนที่สูง พบได้หลายจังหวัด ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ทางภาคตะวันตก เช่นอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี

ทางภาคเหนือยังถือว่าเป็นภาคที่นิยมปลูกมากที่สุด และยังถือเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ ของสตรอเบอร์รี่ที่ใหญ่ที่สุด มีปลูกทั้ง อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ ปลูกแถบอำเภอ ฝาง แม่ริม จอมทอง ดอยอินทนนท์ และยังพบว่ามีการปลูกหลายพื้นที่ ในจังหวัดเชียงราย และ จังหวัดปราจีนบุรี

สตรอเบอร์รี่ ต้านมะเร็งเต้านม ได้จากสิ่งนี้

สตรอเบอร์รี่ ต้านโรคมะเร็งเต้านม

สตรอเบอร์รี่ ต้านมะเร็งเต้านม ได้จากสิ่งนี้ เป็นสารที่ชื่อว่า สารฟินอลิก มีการวิจัยนี้พบว่า ในสตรอเบอร์รี่ สามารถยับยั้งการเกิด เซลล์มะเร็งได้ มากถึง 14 ชนิด รวมไปถึงมะเร็งเต้านม ซึ่งสารฟินอลิก ที่ทำหน้าที่ในการ หยุดการเแบ่งของเซลล์มะเร็ง และยังหยุดการเจริญเติบโต ชองเซลล์มะเร็งได้

หากสนใจอ่านสตรอเบอร์รี่ต้านโรคเพิ่มเติมคลิกอ่านได้ที่ medplant.mahidol.ac.th

ความเชื่อ ประโยชน์ ของสตรอเบอร์รี่

ในสตรอเบอร์รี่ มีความเชื่อเรื่องสารอาหาร อีกหลายอย่าง ที่ได้มีการนำไปวิจัยอีกหลายๆ การวิจัยนอกจากการกินสตรอเบอร์รี่ จะทำให้สดชื่นและทำให้ผิวกระจ่างใส นอกจากนี้ยังสามารถ ลดไขมันเหมือนกันกับ อะโวคาโด ยังมีความเชื่อของสตรอเบอร์รี่ ว่ายังมีสรรพคุณที่ช่วยรักษาโรคอื่นๆ อีก

สตรอเบอร์รี่ ช่วยเรื่องใด ในร่างกาย

1.ลดความดันโลหิต: มีผลการวิจัย โดยการทดลอง ให้ผู้ป่วยโรคความดันโลหิต ได้กินสตรอเบอร์รี่แห้งแบบผง ในจำนวน 25 กรัมต่อวัน และกินติดต่อกัน อย่างน้อย 6 สัปดาห์ พบว่าผู้ป่วยมีความดันโลหิตในหลอดเลือด ลดลงโดยเทียบกับผลก่อนการทดลองกิน

2.ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ: เนื่องจากสตรอเบอร์รี่มีสาร แอนโทไซยานิน สารชนิดนี้มักพบในผลไม้ ตระกูลเบอร์รี่ ช่วยลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือด และโรคหัวใจ มีการวิจัยออกมาว่า หากกินสตรอเบอร์รี่เป็นประจำ อาจจะลดอัตราการเสียชีวิต จากโรคหัวใจได้

3.ลดคอเลสเตอรอล: ในสตรอเบอร์รี่ แต่เดิมเป็นผลไม้ที่ไม่มี ไขมันคอเลสเตอรอลอยู่แล้ว เป็นผลไม้ที่สามารถนำไปทำเครื่องดื่ม หรือขนม เพราะสตรอเบอร์รี่มีรสชาติอร่อย จึงทดแทนอาหารประเภทมีไขมันได้ มีการทดลองให้คนอ้วนกินผงสตรอเบอร์รี่แห้ง 160 กรัม วันละ 2 เวลา พบว่าปริมาณคอเลสเตอรอลลดลง ได้จริง

ที่มา: สตรอเบอร์รี่ผลไม้ยอดนิยม [3]

ข้อควรระวัง สตรอเบอร์รี่ ผลไม้ข้ามชาติ

สตรอเบอร์รี่ ผลไม้รสชาติอร่อยอีกทั้ง ยังมีการพัฒนาสายพันธุ์ต่างๆ อีกมากมายเพื่อเสาะหา สายพันธุ์ที่ดีที่สุด และอร่อยที่สุด มีสีสันสดใส มีวิตามินอีกหลายชนิด แต่การกินสตรอเบอร์รี่ยังมีข้อจำกัด สำหรับกลุ่มบุคคลอีก บางประเภทที่ ไม่ควรกินสตรอเบอร์รี่ เช่น

  • กลุ่มคนที่กำลังตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร: หากกินแบบผลสดจะไม่มีผลอันตราย และยังถือว่าปลอดภัย แต่หากกินในรูปแบบ อาหารเสริม วิตามินสกัดจากสตรอเบอร์รี่ ยังไม่ควรกินเพราะยังไม่มีการรับรอง ผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นได้
  • ในเด็กเล็ก: เพราะในสตรอเบอร์รี่ มีสารแอนโทไซยานิน ซึ่งเด็กบางคนอาจจะยังไม่มี ภูมิคุ้มกันอาการแพ้ของสารชนิดนี้ หากเด็กที่กินสตรอเบอร์รี่แล้วมีอาการแพ้ ควรไปพบแพทย์ทันทีที่มีอาการ เช่น คันรอบริมผีปาก มีผื่นแดงขึ้นตามตัว มีอาการบวมตาม หู ใบหน้า ปาก หรือ ในลำคอ
  • คนที่เลือดออกง่าย: หากกินสตรอเบอร์รี่ ในปริมาณมาก อาจจะทำให้เลือดหยุดไหลช้าลง เพราะในสตรอเบอร์รี่ มีสารช่วยกระตุ้น การทำงานของระบบไหลเวียนเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น
  • คนที่ต้องเข้ารับการผ่าตัด: เพราะสตรอเบอร์รี่ ช่วยเรื่องการไหลเวียนเลือด และยังทำให้เลือดหยุดไหลช้าลง เมื่อเข้ารับการผ่าตัดอาจจะเสี่ยงต่อ สภาวะเลือดออกเยอะเกินไป

ที่มา: สตรอเบอร์รี่ผลไม้ยอดนิยม [3]

สรุป สตรอเบอร์รี่ ต้านโรคมะเร็งเต้านม

สรุป สตรอเบอร์รี่ ต้านโรคมะเร็งเต้านม สามารถต้านโรคมะเร็งได้จริง และนอกจากจะต้านมะเร็งเต้านมแล้ว ยังสามารถต้านได้อีก 13 ชนิด นอกจากนี้ในสตรอเบอร์รี่ยังสารอีกมากมาย ที่ได้มีหลายมหาลัยได้ทำการ วิจัยไปในด้านต่างๆ สตรอเบอร์รี่ถือว่าเป็นผลไม้รสชาติอร่อยที่มีประโยชน์มากอีกด้วย

เป็นโรคเบาหวาน ต้องกินสตรอเบอร์รี่ เท่าไหร่ น้ำตาลถึงลด

หากพูดจากผลการวิจัยแล้ว แนะนำให้ทดลองกินสตรอเบอร์รี่ แบบอบแห้งบดเป็นผง กินวันละ 333 มิลลิกรัม และทดลองกินเป็นเวลา 6 สัปดาห์ สามารถลดปริมาณน้ำตาล และกระตุ้นการทำงานของอินซูลินได้

กินสตรอเบอร์รี่ ผอมลง จริงหรือไม่

สตรอเบอร์รี่เป็นผลไม้พลังต่ำ และยังลดไขมันคอเลสเตอรอลได้ หากนำไปทำเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ และกินเป็นประจำ จะทำให้ไขมันคอเลสเตอรอลลดลง และปริมาณน้ำตาลในเลือดลดลง ทำให้น้ำหนักตัวลดลงได้

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง