
แตงโม ผลไม้เพิ่มความสดชื่น ดับร้อนได้ดี และยังมีรสชาติหวาน เป็นผลไม้ยอดนิยม ของประเทศไทย นอกจากจะมีรสชาติอร่อย ยังมีประโยชน์ต่อร่างกาย มีส่วนช่วยเรื่องสุขภาพ ในหลายๆ ด้าน สามารถหาซื้อได้ ทั้งในห้างสรรพสินค้า และตลาดทั่วไป และเป็นผลไม้ที่ต่างชาติ ชื่นชอบไม่แพ้กับคนไทย
ชื่อทั่วไป: แตงโม
ชื่อสามัญ: Watermelon
ชื่อท้องถิ่น: ภาคเหนือเรียก (บะเต้า), ภาคอีสานเรียก (บักโต), ภาคใต้เรียก (ลูกแตง)
ชื่อทางวิทยาศาสตร์: Citullus vulgaris S chard L.
ชื่อวงศ์: CUCURBITACEAE
แตงโมเป็นผลไม้ ที่จัดอยู่ในตระกูล เดียวกันกับแคนตาลูป เป็นพืชล้มลุกที่เป็นเถา ส่วนต้นจะมีขนปกคลุม แตงโมจะมีผลเป็นรูปทรงกลม มีเปลือกหนา สีเขียวเข้ม และมีลายพาดยาว เป็นสีเขียวอ่อน เป็นพืชที่มีอายุสั้น เถาจะเลื้อยไปตามหน้าดิน
ถิ่นกำเนิดมาจาก ทางใต้ของทวีปแอฟริกา เป็นเขตร้อน ค้นพบข้อความ ที่เกี่ยวกับแตงโม มีอายุมากกว่า 4,000 ปี ข้อความถูกพบใน ประเทศอียิปต์ ทางฝั่งประเทศจีน มีการปลูกตั้งแต่ ราชวงศ์ถัง และกลุ่มคนชาวมัวร์ นำแตงโมเข้าไปเผยแพร่ ในทวีปยุโรป จนเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย
สารอาหารในแตงโม ปริมาณ 100 กรัม ให้พลังงาน 30 กิโลแคลอรี และสารอาหารอื่นๆ ดังนี้
วิตามิน (หน่วยเป็น มิลลิกรัม)
แร่ธาตุ (หน่วยเป็น มิลลิกรัม)
สารอาหารอื่นๆ (หน่วยเป็น กรัม)
ที่มา: แตงโมงานวิจัยและสรรพคุณ [1]
1. แตงโมช่วยคุมความดันโลหิต และสามารถทำให้ความดันโลหิตลดลงได้
2. มีเบต้าแคโรทีน ช่วยรักษาและป้องกัน การติดเชื้อ ในระบบทางเดินอาหาร และระบบปัสสาวะ
3. เปลือกของแตงโม เมื่อนำมาล้าง และนำไปเผาไฟ บดเป็นผง ใช้รักษาบาดแผลได้ ที่เกิดจากรอยไหม้ เหมือนกับสารสกัดของพริกอย่าง “แคปไซซิน” ในส่วนของ รวมเรื่องพริก ที่น่าสนใจ
4. ช่วยดับร้อน แก้การกระหายน้ำได้ เพิ่มความสดชื่นให้แก่ร่างกาย
5. มีวิตามินหลายชนิด ช่วยเพื่อผิวพรรณ และการบำรุงเส้นผม
6. ช่วยลดความเสี่ยง การเป็นโรคมะเร็งเพราะมี “ไลโคปีน” ในแตงโมจำนวนมาก
7. มีแคลอรีต่ำ และทำให้อิ่มไว ช่วยเรื่องการคุมน้ำหนักได้
8. ใช้พอกหน้า ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว และยังช่วยลดความมัน บนใบหน้าได้
9. เปลือกแตงโมต้ม เติมน้ำตาลเล็กน้อย นำมาดื่มอุ่นๆ ช่วยลดการเจ็บคอได้
10. ช่วยรักษาแก้อาการปวดกระเพาะปัสสาวะได้
ที่มา: แตงโมสรรพคุณและประโยชน์ [2]
แตงโมจัดว่าเป็น ผลไม้คลายร้อนได้ดี ในช่วงที่อากาศร้อน สามารถกินแตงโม ช่วยลดการกระหายน้ำ และช่วยดับร้อนได้ แตงโมในปริมาณ ที่ร่างกายต้องการได้รับคือ 6-8 ชิ้นต่อวัน นอกจากจะช่วยดับร้อนได้แล้ว แตงโม ยังสามารถช่วยลดไข้ อาการหวัด และยังช่วยเรื่องแผลในช่องปากได้อีกด้วย
แตงโมมีน้ำเป็นส่วนประกอบ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต ในแตงโม 1 ลูก มีน้ำเป็นส่วนประกอบมากถึงร้อยละ 70-90 และยังมีวิตามินหลักๆ อย่าง วิตามินซี และเบต้าแคโรทีน ที่ช่วยเรื่องต้านอนุมูลอิสระ และมีแร่ธาตุอย่าง โปแตสเซียม ซึ่งแร่ธาตุชนิดนี้ ยังช่วยเรื่องการ รักษาสมดุลของน้ำ ในร่างกายได้อีกด้วย
หากสนใจอ่านเรื่องผลไม้ออกฤทธิ์เย็นกินแล้วสดชื่นคลิกอ่านต่อได้ที่ sanook.com
1. เลือกผลแตงโมที่สดใหม่: การกินแตงโมสดใหม่ จะสามารถทำให้เรา ได้รับสารอาหารครบกว่า เมื่อเทียบกับแตงโม ที่ผ่านการขนส่ง หรือวางขายนานแล้ว ควรเลือกแตงโมที่มี ขั้วเขียวติดอยู่ และไม่มีรอยช้ำ ไม่มีรอยแมลงเจาะ ส่วนเปลือกเลือกส่วนที่ มีสีเขียว มีปนเหลืองนิดหน่อย จึงจะถือว่าเป็นผลสด
2. ผ่าแตงโมแล้วกินเลย: แตงโมที่สดใหม่ เมื่อเด็ดออกมาแล้วจะยังคงผลิต คุณค่าสารอาหารอยู่ แนะนำให้ผ่าแล้วกินเลย จะได้รับรสชาติหวาน เนื้อกรอบอร่อย แต่หากนำไปแช่เย็น สารอาหารจะค่อยๆ ลดลงได้ แต่หากผ่าแล้วกินไม่หมด แนะนำให้ใส่กล่อง ที่มีฝาปิดสนิท สามารถนำแช่ตู้เย็นได้ แต่ไม่ควรเกิน 5 วัน
3. กินเมล็ดแตงโมด้วย: เพราะในเมล็ดแตงโม มีสารอาหารสำคัญ ที่ร่างกายต้องการ จำนวนมากอย่างเช่น แมกนีเซียม ที่เป็นส่วนช่วยเรื่อง ระบบประสาท และระบบกล้ามเนื้อ อีกทั้งยังเป็นส่วนของไขมันดี ที่ช่วยลดไขมันเสียในหลอดเลือดได้ ใครเผลอกินไม่ต้องกังวล แต่แนะนำให้เคี้ยวเมล็ดให้ละเอียด ก่อนการกลืนเข้าไป
ที่มา: แตงโมกินตอนไหนดี [3]
โดยสรุป แตงโม ผลไม้เพิ่มความสดชื่น นอกจากจะช่วยเพิ่มความสดชื่นแล้ว ยังช่วยดับร้อน และเพิ่มพลังให้กับร่างกายได้ และยังมีวิตามินหลายชนิด ที่ช่วยเรื่องผิวและเส้นผม รวมถึงส่วนต่างๆ ของแตงโม ยังช่วยเรื่องระบบต่างๆ ในร่างกายได้อีกด้วย เป็นผลไม้รสชาติดี ที่มีประโยชน์ครบจริงๆ
สามารถกินได้ การกินแตงโม จะช่วยเพิ่มน้ำตาล จากธรรมชาติให้ร่างกาย และช่วยเพิ่มความสดชื่น ลดการง่วงซึม หรืออาการเพลียจากการทำงานได้ เป็นผลไม้ที่แนะนำ สำหรับผู้ที่ไม่สามารถ กินคาเฟอีนได้ แนะนำให้กินผลไม้แทน อย่างเช่น แตงโม
สามารถช่วยควบคุมน้ำหนักได้ เพราะแตงโมมีน้ำเป็นส่วนประกอบ หากกินแล้วจะทำให้ อิ่มเร็ว และค่อนข้างอยู่ท้อง เพราะมีแคลอรีต่ำ แต่ไม่แนะนำให้กินจำนวนมาก เพราะแตงโมยังมีน้ำตาลอยู่ และมีน้ำตาลมากถึง 6.2 กรัม ในแตงโมปริมาณ 100 กรัม แนะนำให้กิน 6-8 ชิ้น ใน 1 วัน