
กะหล่ำปลี ของดีคู่ครัว ผักสารพัดประโยชน์ เป็นผักที่ถือได้ว่า คนไทยนิยมกินมากที่สุด เพราะนำมาปรุงอาหารง่าย มีประโยชน์เยอะ และรสชาติอร่อย ในกะหล่ำปลี มีเรื่องน่าสนใจ ที่เราต้องมาทำความรู้จัก และทำความเข้าใจให้มากขึ้น รวมไปถึงแนะนำวิธีกินที่ดี และแนะนำเมนูใหม่ น่าลองอีกด้วย
กะหล่ำปลีมีการปลูกขึ้นมา มากกว่า 600 ปี ก่อนคริสตกาล ปลูกในแถบเทือกเขา ประเทศเมดิเตอร์เรเนียน ในทางฝั่งยุโรป และได้มีการเผยแพร่ไปทั่วโลก จนเป็นที่รู้จักในปัจจุบัน
ที่มา: กะหล่ำปลี [1]
ที่มา: กะหล่ำปลีผลกระทบด้านสุขภาพ [2]
ในกะหล่ำปลี 100 กรัม ให้พลังงานต่อร่างกาย 25 กิโลแคลอรี และสารอาหารอื่นๆ เช่น
วิตามิน (หน่วยเป็น มิลลิกรัม)
แร่ธาตุ (หน่วยเป็น มิลลิกรัม)
สารอาหารสำคัญอื่นๆ (หน่วยเป็น กรัม)
1. ช่วยในเรื่องระบบการย่อยอาหาร เพราะในกะหล่ำปลีดิบ มีใยอาหารมากพอสมควร ที่จะช่วยทำความสะอาดลำไส้ได้ และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ การทำงานของลำไส้ใหญ่
2. ช่วยป้องกันโรคหวัด เหมือนกับใน หอมแดง แต่เป็นการเสริมสาร ภูมิคุ้มกันจากภายใน เพราะวิตามินจำนวนมาก ในกะหล่ำปลี และสร้างภูมิคุ้มกัน โรคอื่นๆ ได้อีกมากมาย
3. สารซัลเฟอร์ ในกะหล่ำปลีออกฤทธิ์ ช่วยระงับประสาท จึงทำให้นอนหลับสบาย และรู้สึกผ่อนคลายเวลานอน
4. กินกะหล่ำปลี ช่วยแก้ปัญหาอาการท้องผูก
5. ช่วยหยุดการเจริญเติบโต ของเซลล์มะเร็งลำไส้ และยับยั้งเซลล์มะเร็งอื่นๆ ได้
6. กะหล่ำปลี ช่วยเรื่องผิวพรรณ ให้มีน้ำมีนวล และยังลดการเสื่อมของเซลล์ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการแก่วัย
7. ช่วยบำรุงตับ และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ การทำงานของตับ
8. สารเอสเมธิลเมโธโอนิน ในกะหล่ำปลี ช่วยรักษาอาการ ในผู้ที่เป็นโรคกระเพาะได้
9. ลดการเกิดผมหงอก และกระตุ้นการสร้างเคราติน
10. ช่วยรักษาแผลที่เกิดในกระเพาะอาหาร และช่วยบำรุงลำไส้ทั้งหมด
ที่มา: กะหล่ำปลีสรรพคุณและประโยชน์ [3]
1. ปรุงสุกก่อนกิน วิธีการปรุงที่แนะนำคือ การนำไปนึ่ง เพื่อลดสารกอยโตรเจน และยังคงวิตามิน ไว้มากที่สุด
2. กินกะหล่ำปลี ในปริมาณที่พอดีต่อร่างกาย เพราะหากกินมากเกินไป อาจจะเสี่ยงที่จะส่งผลเสียต่อร่างกาย ควรกินกะหล่ำปลี ไม่เกินวันละ 100 กรัม และควรกินกับผักชนิดอื่น เพื่อเพิ่มรสชาติอาหาร
3. ล้างกะหล่ำปลีให้สะอาด วิธีการล้างแนะนำ คือการล้างผ่านน้ำไหล จะสามารถช่วยลดสารพิษได้มากถึง 60% หรือการแยกใบกะหล่ำปลี ไปแช่น้ำ 8-10 นาที จะสามารถล้างสารพิษออกได้
แนะนำ 10 รายชื่อเมนูสุขภาพ น่าลองของปี 2025
1. กะหล่ำปลีม้วน ยัดไส้หมูสับ
2. กะหล่ำปลี ยัดไส้ห่อหมก
3. ออมเล็ตกะหล่ำปลี
4.หมูสามชั้นตุ๋น กะหล่ำปลี
5. กะหล่ำปลี ดองกระเทียมโทน
6. แกงส้มกุ้ง กะหล่ำปลี
7. ขนมปัง กะหล่ำปลี ไข่ดาว
8. แฮมเบิร์ก กะหล่ำปลีไส้กุ้ง
9. โจ๊กข้าวกล้อง กะหล่ำปลี
10. พิซซ่ากะหล่ำปลี
หากสนใจอ่านเมนูและวิธีทำเพิ่มเติมคลิกอ่านได้ที่ cookpad.com
ข้อสรุป กะหล่ำปลี ของดีคู่ครัว ถือว่าเป็นผัก ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และยังสามารถช่วย รักษาระบบต่างๆ ในร่างกายได้ แต่หากกินในปริมาณ ที่มากเกินไป อาจจะส่งผลกระทบ ต่อร่างกายได้เช่นเดียวกัน ควรอ่านเพื่อศึกษา สารพิษและขั้นตอน การทำความสะอาดให้ดี เพื่อประโยชน์ต่อตัวเราเอง
การกินกะหล่ำปลีทุกวัน อาจจะไม่ส่งผลอันตรายต่อร่างกาย หากกินในปริมาณที่เหมาะสม และมีการทำความสะอาด ที่ถูกวิธี แนะนำให้กินกะหล่ำปลี ไม่เกินวันละ 100 กรัม เพราะเป็นสัดส่วน ที่ร่างกายต้องการ และไม่ส่งผลอันตราย
หากมีสภาวะ ผิวแห้ง สามารถกินกะหล่ำปลี เพื่อเพิ่มความมีน้ำมีนวลให้ผิวได้ อีกทั้งการกินกะหล่ำปลี ยังทำให้ผิวดูขาว เปล่งปลั่ง และสุขภาพผิว ดีขึ้นได้อีกด้วย เพราะในกะหล่ำมี วิตามินซี และวิตามินชนิดอื่น ที่ร่างกายต้องการ อีกจำนวนมาก